วิดีโอเกมจะทำให้วัยรุ่นชาวฮ่องกงเป็นคนเหลวไหลไม่รับผิดชอบ, โดดเดี่ยวจากผู้คน หรือเป็นนักประท้วงที่ทรงประสิทธิภาพกันแน่? ตอนที่ 1
ตรงข้ามกับความเชื่อโดยทั่วไป ที่การเล่มวิดีโอเกม จะทำให้เด็กๆเป็นคนโหดร้ายและโดดเดี่ยว อย่างไรก็ตาม คนเล่นวิดีโอเกมคนเดียวจะทำให้เป็นคนโดดเดี่ยวและไม่มีความสุข ในทางตรงกันข้าม การเล่นวิดีโอเกมแบบหลายคนทำให้เกิดทักษะการร่วมมือกัน ซึ่งก่อให้เกิดประสิทธิภาพในการประท้วงก็ได้
อันดับแรกลงมาดูวิธีการที่เกมเหล่านี้ถูกออกแบบ และมาทำความเข้าใจว่าทำไมผู้เล่นจึงรักมัน ในการเล่นคนเดียว ประเภทเกมพ่อมด นักล่าสัตว์ประหลาดที่มีมนต์คาถาต้องเอาชนะกับการท้าทายหลายอย่าง และตัดสินใจในเรื่องสำคัญเพื่อช่วยเด็กและป้องกันประเทศ
สิ่งนี้ทำให้คนเล่นทำตัวแบบง่ายๆ และมีจุดมุ่งหมายที่แน่ชัดในการสวมบทบาท และกลายมาเป็นวีรบุรุษ ในการประสบผลสำเร็จกับงานที่ง่ายๆในเบื้องต้น เช่น การหากุญแจ ทำให้ผู้เล่นมีความมั่นใจ
การท้าทายอันต่อมา คือการฆ่าสัตว์ที่ทำให้เราตาย เป็นสิ่งที่ยากและให้คุณค่าแก่เรามาก หากผู้เล่นพลาดในการฆ่า แต่หล่อนยังคงพยายามต่อไป ด้วยยุทธศาสตร์ที่ต่างออกไป ด้วยกำลังในมือ เวลาของเธอ และภายใต้การควบคุมของเธอ ในที่สุดหล่อนฆ่ามันได้ รู้สึกประสบผลสำเร็จ และตื่นเต้นต่อการท้าทายอันต่อไป
ด้วยการตัดสินใจที่สืบเนื่องมา พ่อมดยังการจบที่แตกต่างกัน ผู้เล่นสามารถเปลี่ยนทางเลือกที่อยู่ก่อนหน้าเพื่อผลที่แตกต่างกัน หากเธอยังคงอยู่ เธอก็สามารถช่วยเหลือเด็ก และป้องกันประเทศ ทั้งสองอย่างนี้ร่วมกัน ผู้เล่นสามารถใช้เวลาอันไม่จำกัดและสนุกสนานกับมัน
ตั้งแต่ยุค 1970 วิดีโอเกมกระจายไปทั่วโลก และมากกว่าคน 2 พันล้านคนสนุกกับมัน ตามที่รายงานของ Global Game Market ปี 2017 ที่บอกไว้ หากการใช้พวกมัน แล้วก่อให้เกิดความรุนแรง อัตราอาชญากรรมความรุนแรงต้องเพิ่มสูงขึ้น แต่มันไม่ได้เพิ่มขึ้นเลย
แปลและเรียบเรียงจาก
Ming Ming Chiu. Are video games making Hong Kong youth delinquents, loners, …or better protester?
ไม่มีความเห็น