อนุทิน 164184


Wasawat Deemarn
เขียนเมื่อ

๒ เมษายน ๒๕๖๒

ได้ฤกษ์ไปวัดสายตาเพื่อตัดแว่นใหม่ ในรอบเท่ากับอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่ผ่านมา เมื่อ ๒ ปีก่อน

ไป “คลินิคบ้านหมอเป้” ลูกสาว ศ.นพ.ประเสริฐ เช่นเคย ทำตั้งแต่คุณพ่อยันคุณลูกเลย แถมภรรยาคุณหมอประเสริฐก็ถือเป็นพี่ร่วมงานในที่ทำงานเก่า น้องหมอเป้ ก็ยังคงเป็นอาจารย์แพทย์อยู่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เช่นเดียวกับคุณพ่อ

การวัดสายตาเป็นงานที่ละเอียดและรอบคอบมาก ตรวจสุขภาพตาเสียก่อน เริ่มวัดสายตาจากเครื่อง ถ้าเครื่องไม่ตอบสนอง ก็กลับมาใช้วิธีการเปลี่ยนเลนส์ทีละชิ้น ค่อย ๆ ขยับองศาของสายตาไปเรื่อย ๆ ต้องอาศัยความใจเย็นของคุณหมอตาสุด ๆ คนไข้ก็ต้องมีสติพอสมควรที่จะตอบคุณหมอว่า ชัด หรือ ไม่ชัด กว่าจะได้สักข้าง บางทีก็นานนับ ๑๐ นาที พอวัดสายตาสั้น เอียงเสร็จแล้ว ก็เอาแว่นไปเดินเล่นข้างนอกสัก ๑๐ นาที เพื่อดูว่า โอเคไหม เลนส์ประมาณนี้ใช้ได้หรือเปล่า แล้วค่อยกลับมาวัดสายตายาวต่อ แบบอ่านหนังสือใกล้ ๆ ว่า มองชัดเจนไหม ค่อย ๆ เปลี่ยนเลนส์เช่นเดิม หลังจากนั้น ก็ต้องไปเลือกกรอบแว่น แล้วใส่กรอบแว่นมาวัดความยาวของเลนส์แต่ละชุดที่อยู่ในเลนส์เดียวกัน คุณหมอจะให้มองจมูกคุณหมอ แล้วคุณหมอก็จะเอาไม้โปรมาวัดตรงเลนส์ว่า ยาว สั้น เท่าไหร่ ตอนนี้ต้องเงยหรือก้ม แบบธรรมชาติที่สุด ไม่พอ อดเขินไม่ได้ที่ต้องมองตาประสานตากับคุณหมออีกต่างหาก กว่าจะเสร็จก็นับชั่วโมงได้

เลนส์ที่เลือกใช้ คือ เลนส์ Progressive เหมือนเดิม รวมฮิตมีท้้งเลนส์สายตาสั้น สายตาเอียง และสายตายาว (สัญลักษณ์ของความแก่) ราคาพสมควรเลยล่ะ แต่ก็จำใจ เพราะมองไม่ชัด ทำงานไม่ได้ กรอบก็เลือกให้ดูภูมิฐาน (ผู้ใหญ่) มากกว่า ดูหน้าเด็ก 555

น่าจะไม่เกินอาทิตย์ ก็คงจะได้แว่นอันใหม่ พร้อมเสียตังค์อันใหม่เช่นกัน

เขียน ณ บ้านปลายดง ณ หางดอย

เชียงใหม่ (ยามขึ้นวันใหม่ไปแล้ว)



ความเห็น (5)

ควรเลือกกรอบหน้าเด็กนะคะ คุณครูเงาไม่ต้องรีบแก่ไปไหนดอกค่ะ

ไม่ได้รีบเลยนะครับ คุณหมอธิ มันแก่เอง 555

ครูบ้านอย่างผม..ไม่ได้ตัดเลยครับ..สวมเท่าที่มี..อันละร้อย

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท