อนุทิน 156686


Witsarut Aonpreaw
เขียนเมื่อ

ความซื่อสัตย์

ก่อนที่รัฐบาลจะเข้าบริหารราชการแผ่นดิน ไม่ว่าประเทศใด ผู้นำนั้นจะต้องปฏิญาณตนก่อนเข้าปฏิบัติภารกิจว่า เขาจะทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ส่วมรวมและจะทำหน้าที่อย่างซื่อสัตย์สุจริต 

ประเทศไทยเรามีกฎหมายและจารีตประเพณีก่อนนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐบาลจะเข้าบริหารราชการแผ่นดิน ท่านเหล่านั้นจะต้องเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่าจะทำหน้าที่เพื่อส่วนรวมและจะปฏิบัติหน้าที่อย่างซื่อสัตย์สุจริต 

ความซื่อสัตย์กำลังกลายเป็นปัญหาสังคม เนื่องจากเราพบว่าองค์กร หน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชนกำลังถูกเชื้อไวรัสแห่งการคดโกง ความไม่ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่และการเงินทำให้องค์กรนั้นมีความเสื่อมและจะล่มสลายในที่สุด 

ผู้สนใจในการเมืองคงชินกับวาทกรรมของนักการเมืองในการหาเสียงและแถลงนโยบายต่อรัฐสภาว่าจะกำจัดความไม่ซื่อสัตย์ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “คอรัปชั่น” ไม่ทราบว่าเราจะเชื่อถือได้มากน้อยขนาดไหน เพราะกลุ่มคนเหล่านี้คือบุคคลกลุ่มเดียวกันที่ทำการซื้อสิทธิ์ขายเสียง และทำรายงานการใช้เงินหาเสียงอย่างไม่ซื่อสัตย์ ถึงอย่างไรก็ดีผมคงต้องให้เกียรติกับบางท่านที่เป็นคนซื่อสัตย์ ทั้งวาจาและการกระทำ แต่คนประเภทนี้มีน้อย 

องค์กรภาคเอกชนไม่ว่าองค์กรทางศาศนา องค์กรการกุศล บริษัท ห้างร้าน ล้วนหนีไม่พ้นปัญหาเรื่อง ความไม่ซื่อสัตย์ต่อองค์กร สื่อต่างๆ ได้เปิดเผยเรื่องทุจริต การเงิน การงาน การลงเวลา ฯลฯ นอกจากเรื่องความไม่สัตย์ซื่อดังกล่าว เรายังพบว่ามีความไม่สัตย์ซื่อในความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาและนำไปสู่การหย่าร้างมากมาย

ความสัตย์ซื่อถือว่าเป็นคุณสมบัติของผู้เจริญแล้ว ฉะนั้นผู้มีความสัตย์ซื่อจะเป็นบุคคลที่มีความสุข มีความมั่นคง แม้อาจจะไม่มั่งคั่ง เขาไม่เพียงทำให้ตนเองมีความสุข เขาทำให้คนรอบตัวเขามีความสุขด้วย เขาไม่ขาดเพื่อนแท้ตลอดชีวิตแน่นอน คนซื่อกินไม่หมด คนคดกินไม่เหลือ 

ถึงแม้ว่า คนซื่อสัตย์กำลังลดน้อยถอยลงไป แต่ผมเชื่อว่าคุณเป็นคนหนึ่งที่เพิ่มขึ้น



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท