อนุทิน 154744


ต้นโมกข์
เขียนเมื่อ

ความละอายของผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบิลด้านสันติภาพ ตอนที่ 2

และการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ (ethnic cleansing) บางทีอาจเป็นการกล่าวที่น้อยกว่าเป็นความเป็นจริง  การศึกษาจากมหาวิทยาลัย Yale เสนอว่า ความรุนแรงต่อชาวโรฮิงญาสามารถหรืออาจถือว่าเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ให้หมดไปจากโลกนี้เลยก็ได้ (genocide) พิพิธภัณฑ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของอเมริกา (The U.S. Holocaust Museum) ได้เตือนว่า การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ให้หมดจากโลกนี้ (genocide) ต่อชาวโรฮิงญากำลังค่อยปรากฏอย่างช้าๆ

ดอว์ ซู ที่ต้องละอาย พวกเราเคารพคุณ (honor) และต่อสู้เพื่อให้คุณมีอิสรภาพ แต่คุณใช้อิสรภาพเพื่อละทิ้งการฆ่าฟันประชาชนของคุณเองอย่างนั้นเหรอ?

Matthew Smith เป็นหัวหน้าของกลุ่มสิทธิมนุษยชนชื่อ  Fortify Rights ให้สัมภาษณ์กับเราถึงผู้อพยพที่ชายแดนบังคลาเทศว่า “พวกเขากำลังฆ่าเด็กๆ” “ในที่สุด พวกเรากำลังคุยกันถึงเรื่องอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ”

ผู้รอดพ้นชาวโรฮิงญาบอกกับ Smith ว่า “หลานชายสองคนของฉันถูกตัดหัว” “คนหนึ่งอายุแค่ 6 ขวบ และอีกคนแค่ 9 ขวบเท่านั้น”

รายงานจากที่อื่นๆบรรยายว่า พวกทหารกำลังนำเด็กๆทารกไปที่แม่น้ำเพื่อถ่วงน้ำให้ตาย และตัดศีรษะ (decapitating) ยายหรือย่าด้วย Hannah Beech เพื่อนร่วมงานในข่าว Times ของฉัน ที่กำลังรายงานข่าวที่ชายแดนบอกว่า “ฉันได้ช่วยเหลือวิกฤตการณ์ผู้อพยพมาก่อน แต่นี่คือสิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่ฉันเคยเจอ”  

แปลและเก็บข้อมูลจาก

Nicholas Kristof . A Nobel Peace Prize Winner’s shame.

…………………………



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท