การเคร่งครัดพุทธแบบสุดโต่งในไทยเหมาะสมเป็นอย่างดีกับแผนการของทหาร ตอนที่ 3
เอกาธิปัตย์ที่เป็นทหาร (military autocrat)ที่ครองอำนาจอยู่จนบัดนี้ เขามีแนวโน้มว่าไม่มีแผนการที่จะประชาธิปไตยต่อประเทศในตอนนี้ ยกตัวอย่างเช่น ยิ่งสื่อโจมตีเขามากเท่าใด ก็ยิ่งมีแนวโน้มว่าเขาจำเป็นต้องอยู่ต่อเพื่อสร้าง “สันติสุข และระเบียบ” มากขึ้นไปเท่านั้น การขู่คือการกระทำที่เกิดไปจากแผนการใหญ่ (roadmap) ที่จะเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน หลังจากที่เขายุบคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญไปคณะหนึ่งไปแล้ว
หมู่พระสงฆ์หรืออีกนัยหนึ่งหมายถึงมหาเถรสมาคมประกอบไปด้วยพระที่สูงอายุเท่านั้น สำหรับผู้หญิงก็เป็นเพียงชายขอบหญิงเหล่านี้เป็นเพียงแม่ชี (nuns) ที่มีสถานภาพต่ำไปจากพระแต่ก็อยู่ในเพศที่แตกต่างจากบุคคลทั่วไปด้วย (กล่าวคือถือศีล 8 เป็นต้น ผู้แปล)
มีเพื่อนฉันคนหนึ่งมาสอนภาษาอังกฤษในประเทศไทย ตอนนั้นทหารเพิ่มเข้ามาเป็นครั้งแรกประมาณปี 2000 เขามีลูกศิษย์เป็นชีคนหนึ่ง จากการบรรยายเขาเรียกหล่อนว่าเป็นคนที่ดูแล้วชื่นตาชื่นใจ (refreshingly candid) ในตอนนั้นทหารกำลังจะเขียนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งพระสงฆ์เชื่อมั่นเหลือเกินว่าจะให้พุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ หล่อนไม่ชอบประโยคดังกล่าว แถมยังตำหนิว่าพระสงฆ์เอาแต่การฝึกปฏิบัติทางจิตไว้แต่ผู้เดียว (traditional animistic practice) เพื่อที่จะเอาอำนาจและความร่ำรวย การเชื่อมโยงระหว่างสังฆะกับชีวิตทางการเมืองคือการทรยศต่อพุทธศาสนา หรือห่างไกลจากความเป็นพุทธมากมาย
แปลและเรียบเรียงมาจาก
Alistair Denness. Buddhist extremism in Thailand fits neatly into junta’s plans
…………………..
ไม่มีความเห็น