ใครหนอก่อกรรม.....ทำเข็ญ .....กับเด็กนักเรียน
ปัจจุบันฝ่ายวางแผนมีมากเหลือเกิน ในระดับสูงคงไม่รู้สึกอะไร แต่คนที่ได้ชื่อว่าเป็นครูด้วยหัวใจรู้สึกสะท้อนใจเป็นอย่างยิ่ง เมื่อเห็นนักเรียนอ่านหนังสือไม่ออก ถ้าถามว่า ครูสอนไหม ครูเอาใจใส่ไหม แน่นอน ..... คิดเอาเองนะ .... เห็นอยู่ทุกวัน เดี่ยวเรื่องโน้นเข้า เดี๋ยวเรื่องนี้เข้า แล้วแต่ละเรื่องครูต้องใช้เวลาในการปฏิบัติงานทั้งนั้น และเวลานั้น คือ เวลาที่สอนนักเรียนทั้งสิ้น เพราะถ้าไม่ใช้เวลานี้ ไม่รู้ต้องใช้เวลาตรงไหนทำ เพียงให้งานให้เด็กทำ แต่ไม่ได้ติดตามสังเกตพฤติกรรมการทำงานของเด็กอย่างใกล้ชิด แล้วอย่างนี้ข้อมูลนักเรียนรายบุคคลก็ยากที่จะสมบูรณ์ได้ ถามว่าครูอยากทำงานไหม ? ครูกลัวงานไหม ? คณุอยากสอนไหม? ครูอยากพัฒนาการสอนไหม? คณูอยากมีนวัตกรรมใหม่ๆมาสอนเด็กไหม? คำตอบคือ ครูอยากทั้งนั้นในเรื่องการทำงานและการพัฒนาบุคลากรของชาติ ครูไม่เคยกลัวงาน แต่ตอนนี้ครูกลัวเวลามีไม่พอ อยากจะให้ ใน 1 วัน มีสัก 40 ชั่วโมง แล้ว เพราะความอยากของครูในเรื่องดังกล่าว จะได้แบ่งเวลาได้ดีกว่านี้ แต่ถ้าถามว่า ครูเหนื่อยไหม ? ตอบได้เลยว่าเหนื่อย ต้องการพักผ่อนไหม.... ต้องการแน่นอน และที่ครูต้องการที่สุด คือ ต้องการให้ผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนที่ครูสอนนั้นสูงอย่างมีประสิทธิภาพ และผลผลิตมีคุณภาพทั้งแท่ง หมายถึง มีคุณภาพทั้งด้านความรู้ ทักษะกระบวนการในการทำงาน และคุณธรรมในตัวเด็ก แต่เท่าที่สังเกตเห็นอยู่ทุกวัน นักเรียนที่เรียนเก่ง เรียนดี ติดโควต้า ส่วนมากเป็นกลุ่มที่เห็นแก่ตัว ขาดความเอื้อเฟื้อ ไม่มีความจริงใจกับคนรอบข้าง ฉะนั้นในความเห็นของข้าพเจ้าเห็นว่าถึงลูกศิษย์ของโรงเรียนใดก็ตามสอบเข้ามหาวิทยาลัยของรัฐได้เป็นอันดับดีๆของประเทศ แต่อยากจะให้มองถึงคุณธรรมที่เด็กได้มีมากน้อยเพียงใด โดยเฉพาะความเห็นแก่ตัว และความประพฤติที่ไม่ใช่สังคมไทย ลองคิดกันหน่อยดีไหมว่าผิดพลาดอยู่ตรงขั้นตอนใด
ทิ้งท้ายไว้แค่นี้แล้วจะมาเสริมใหม่... กวนใจเล่นๆน่ะ อย่าถือสาเลย
ตอนต่อไป จะนำเสนอเรื่อง เส้นทางพฤติกรรมเด็กมัธยม ในเส้นทางหาดใหญ่- คลองแงะ
ไม่มีความเห็น