อนุทิน 146762


ต้นโมกข์
เขียนเมื่อ

4 สิ่งที่เลวร้ายกว่าการไม่สอนให้อ่านในชั้นอนุบาล ตอนที่ 7

4. ความผิดหวัง และ การรู้สึกว่าผิดพลาด (Frustration and a sense of failure) เด็กๆรู้เสมอถึงการไม่ประสบผลสำเร็จตามที่ครูและผู้ใหญ่ต้องการ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่พวกเขาไม่รู้เลยก็คือว่าความคาดหวังเหล่านั้นเป็นเรื่องไร้สาระ (make no sense) และเพราะว่าพวกเขาไม่รู้ พวกเขาจึงต้องประสบกับประสบการณ์การผิดหวังและการรู้สึกว่าผิดพลาดเสมอๆ เมื่อถูกทดสอบ ดังนั้นเด็กผู้ชายที่เติบโตขึ้นมาในสภาวะก่อนการเรียนที่เรียนด้วยประสบการณ์ (experiential preschool) แต่กลับมาต้องทนทุกข์ทรมานจากมาตรฐานการเรียนการสอนในโรงเรียนอนุบาลอาจทำให้เขาเกลียดโรงเรียน และสำหรับนักเรียนหญิงที่นั่งไม่ถึง 30 นาที และไม่สามารถจะตอบคำถามในใบงานได้ ย่อมรู้เป็นอย่างดีว่าเธอทำให้ครูเธอผิดหวัง (ซึ่งจริงๆแล้วเธอเองก็ไม่รู้หรอกว่าใบงานนั้นไม่เหมาะสมกับเธอแม้แต่นิดเดียว) ทั้งหมดนี้อาจสรุปได้ว่าเด็กๆปกติทุกคนตามรู้สึกถึงความผิดหวัง และถูกตราหน้าโดยระบบที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงแม้แต่น้อย ดังที่รายงานชิ้นหนึ่งกล่าวทื่อๆว่า “นักเรียนโดยส่วนใหญ่ต่างมุ่งมั่นที่จะตอบสนองกับความมุ่งหวังในระดับสูงทั้งสิ้น แต่เครื่องมือต่างๆ และทักษะในฐานะที่เป็นผู้เรียน รวมทั้งความกระตือรือร้น (enthusiasm) ที่มีต่อการเรียนรู้นั้นต่างได้รับความทุกข์ทรมาน เพราะว่าความต้องการ (ที่จะได้มาตรฐานสูงๆนั้น) ไม่มีความเหมาะสมเลย

(ขอบคุณน้องแอร์ที่นำเสนอบทความที่ดีๆชิ้นนี้)

แปลและเรียบเรียงจาก

Gaye Groover Christmus. 4 Things Worse than Not Learning to Read in Kindergarten. http://www.huffingtonpost.com/gaye-groover-christmus/4-things-worse-than-not-lb9985028.html


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท