นิทานสอนธรรม
มีชายสองคนกำลังถกเถึยงกัน
คนที่ 1 ข้าเห็นธงตรงนั้นกำลังพริ้วไหว
คนที่ 2 ไม่ใ่ช่ ลมพัดแรงต่างหาก
คนที่ 1 ต่อให้มีลม ไม่มีธงเราจะเห็นธงพริ้วไหวมั๊ย
คนที่ 2 ก็ถ้ามีแต่ธงแล้วลมไม่มี มันจะมีปัญญาไหวเองมั๊ย
ทั้ง 2 คนเถียงกัยไปมา อยู่อย่างนั้นเพราะอยากที่จะเอาชนะ และแล้วก็มีนักบวชเดินผ่านมา ทั้ง 2 คนจึงขอร้องให้นักบวชเป็นผู้ตัดสิน ให้ว่า สิ่งที่เห็นตรงหน้านั้น เป็นอะไรแน่ เมื่อนักบวชมอกไปก็ตอบว่า ธงมันก็อยูของมัน ลมมันก็อยู่ของมัน มันเป็นเช่นนั้นเอง สิ่งที่ไหว คือใจท่านทั้ง 2 ต่างหาก ใจเราที่ไหวเอง สรรพสิ่งเป็นเช่นนั้น ไม่ต้องเถียงกันแล้วใช่มั๊ย แล้วนักบวชก็เดินจากไป
ปล่อยให้ชายทั้ง 2 ยืนงง กับำตอบอยู่อย่างนั้น
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า สรรพสิ่งบนโลกนี้มีเหตุและปัจจัยที่ทำให้มันเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป นั่นคือ ไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกข์ขัง อนัตตา มันเป็นเช่นนั้นของมันโดยธรรมชาติ ใจเราต่างหากที่ ไปต่อยอดแต่งเติม หรือจินตนาการ ให้เกิดปัญหา นั่นคือใจไม่นิ่งพอที่จะรับรู้ว่า ทุกสรรพสิ่งนั้น มีเหตุและปัจจัยหากเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้ว เราจะรู้ได้ว่า อ้อ มันเป็นเช่นนั้เอง
ชลีญธร
ขอบคุณสำหรับนิทานดีๆนะค่ะ