อนุทิน 140171


Dr.Pacharawate Pongsanit
เขียนเมื่อ

นกแสก

เชื่อกันว่ายามใดที่นกแสกส่งเสียงร้องและบินผ่านหลังคาบ้านใด บ้านนั้นเป็นต้องมีคนเจ็บหรือมีอันเป็นไปไม่เว้นแม้แต่ความฝัน ซึ่งมีคำทำนายว่าหากใครได้ฝันถึงนกแสก อาจจะสูญเสียเงินทอง โรคภัยไข้เจ็บก็จะถามหา หรือจะได้รับข่าวร้าย ไม่มีบทพิสูจน์ที่ชัดเจน เพราะลำพังเพียง ความเชื่อŽ มิใช่หลักฐาน

ความไม่พึงประสงค์ให้นกแสกอาศัยอยู่ใกล้ ทำให้พวกมันไร้ที่อยู่ ต้องหลบซ่อนอยู่ตามวัดหรือบ้านสร้างซึ่งทำให้ภาพลักษณ์ของนกแสกเลวร้ายลงไปอีก

โดยลักษณะของนกแสกคือ มีวงหน้ารูปหัวใจ มีขนสีขาว ตากลมโต ท้องสีขาว มีจุดสีเทาและน้ำตาลทั่วไป ขนปีกและหางมีลายขวางสีเหลืองสลับน้ำตาลอ่อน ปากแหลมงุ้ม เล็บเท้ายาวงุ้มและแหลม เล็บที่นิ้วกลางลักษณะคล้ายฟันเลื่อย ขนาดตัวประมาณ 14 นิ้ว มีสายตาและประสาหูดีมาก ออกหากินตอนกลางคืนและกินหนูเป็นอาหาร นกแสกเป็นสัตว์ที่กินหนูเป็นอาหารมากที่สุด นกแสก 1 ตัว สามารถกินหนูท้องขาวได้มากถึงปีละ 700 ตัว

เนื่องจากเป็นนกที่ไม่ทำรัง มักอาศัยอยู่ตามโพรงว่างในป่าซึ่งแทบไม่มีเหลือในปัจจุบัน นกแสกไม่สร้างวัสดุรองรังเหมือนนกทั่วไป เมื่อไข่ในที่ที่ไม่ปลอดภัยก็ทำให้โอกาสการขยายพันธุ์น้อยลงไปด้วย

นกแสกเป็นสัตว์ที่ขยัน รักคู่ ตัวผู้มักจะคาบหนูมาฝากตัวเมีย เวลาตัวเมียฟักไข่ก็จะเทียวมาเยี่ยม ฤดูผสมพันธุ์จะอยู่ช่วงเดือนกันยายนถึงกุมภาพันธ์ ใช้เวลาฟักไข่ประมาณ 30-40 วัน ไข่คราวละ 3-7 ฟอง เมื่อนกฟักตัว แม่นกจะเลี้ยงก่อนประมาณ 2 เดือน จากนั้นลูกนกจะบินหนีออกไปสร้างรังเอง

ในประเทศมาเลเซียมีการเลี้ยงนกแสกเพื่อปราบหนูในสวนปาล์มโดยธรรมชาติประสบความสำเร็จ ยังมีการซื้อขายนกแสกกัน นกแสกนอกจากเป็นการเลี้ยงสัตว์เพื่อใช้ประโยชน์แล้ว ยังนับเป็นการอนุรักษ์สัตว์ที่นับวันจะมีจำนวนน้อยลงทุกทีตามสภาพสังคมและสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป

การเลี้ยงนกแสก ยังสามารถประยุกต์ใช้กับแปลงนาที่มีพุ่มไม้ใหญ่อยู่บริเวณใกล้เคียง เพื่อเป็นสัตว์เลี้ยงช่วยปราบหนูในนาข้าวได้อีกด้วย แต่อีกปัจจัยหนึ่งที่เป็นองค์ประกอบสำคัญแต่ยังมีข้อจำกัดก็คือ ตัวนกแสกเอง ที่หาได้ยากตามธรรมชาติ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท