๑๗/๑๒/๒๕๕๖
อนุทิน ๑๐๔.
“หลากหลาย”
วันนี้มีโอกาสไปเผาศพแม่ของ “น้องชาย” ซึ่งน้องชายกับผมเคยเป็น “คู่หูพรานป่า” มาด้วยกัน เมื่อครั้งที่ผมเป็นหนุ่มวัยฉกรรจ์ได้เคยไปพักกับครอบครัวของน้องเขา และเคยกินข้าวกินน้ำที่บ้านของพ่อแม่เขาในดงสังโคที่เรียกกันว่า “สะพาน2” ด้วย เขามีที่ทำกินอยู่แถวนั้น ตอนนี้ได้ขายไปหมดแล้ว พ่อของน้องเขาตายไปนานแล้ว แม่ของเขาอยู่กับน้องสาวในดงสังโคก่อนเสียชีวิต เขานำศพของแม่มาตั้งที่วัดบ้านปางหมิ่น ห่างจากบ้านผมประมาณ ๒ กิโลเมตรกว่าๆ อยู่คนละฝั่งเขา งานนี้มีคนมางานฌาปนกิจไม่มากสักเท่าไหร่...
การที่คนเราเคยอยู่ประจำมีความคุ้นเคยกับสถานที่แห่งหนึ่ง...พอเสียชีวิตแล้วได้ย้ายไปบำเพ็ญกุศลศพในที่อีกแห่งหนึ่งซึ่งไม่ค่อยมีความคุ้นเคยหรือมีผู้คนรู้จักมาก...ก็จะหาผู้มาช่วยงานหรือร่วมงานศพไม่ค่อยได้เหมือนกัน...
ผู้ที่ตั้งบ้านอยู่ในดงเขตรอยต่อ ระหว่างบ้านโป่งแค ต.คันโช้ง อ.วัดโบสถ์ของพิษณุโลก กับ บ้านปางหมิ่นบ้านแพะ ต.บ่อทอง อ.ทองแสนขันของอุตรดิตถ์ เปรียบเหมือนกับคนสองจังหวัด พอตายแล้วมีความคุ้นเคยทางจังหวัดไหนมากก็จะนำศพไปตั้งทำบุญสวดทางด้านนั้น...
บวกกับความที่เรา(หมายถึงผู้ตาย)ไม่ค่อยจะไปร่วมงานหรือช่วยเหลืองานคนอื่น ๆ ในหมู่บ้านที่นำศพไปตั้งด้วยแล้วก็ยากยิ่งที่จะหาคนมาช่วยงานและร่วมบุญได้มาก...การทำบุญทุกวันนี้จึงเหมือนกับการไป “เอาแรง” หรือ “เอามื้อ” กันไว้ก่อนเหมือนกัน...
ตามชนบทหากใครผู้ใดช่วยเหลือสังคมไว้มาก...ช่วยบริจาคงานบุญงานศพไว้มาก...พอตายหรือเสียชีวิตลงก็จะมีแต่ผู้คนหลั่งใหลกันไปช่วยงานและมางานฌาปนกิจศพกันจนล้นหลาม...
พระครูสุธีสุตสุนทร อาจารย์ของผมที่อยู่วิทยาลัยสงฆ์เชียงรายท่านมักจะพูดสอนผมบ่อย ๆ เมื่อก่อนนี้ว่า...เมื่อเราช่วยเหลือสังคม สังคมก็จะช่วยเหลือเรา...หากเราไม่ช่วยเหลือสังคม สังคมก็จะไม่ช่วยเหลือเราเช่นกัน...ยังก้องอยู่ในสัญญาตลอด
ผมจึงได้พยายามที่จะตอบแทนสังคมด้วยการให้ความช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ เท่าที่จะทำได้...และตอนนี้ก็ได้ปรึกษากับคนข้าง ๆ ว่าจะขอรับเงินค่าพิธีกรงานบุญต่าง ๆ เช่น งานศพ (แล้วนะ) เพื่อนำมาแปลงเป็นทุนการศึกษาให้กับเด็ก ๆ ...เมื่อเก็บเงินส่วนนี้ได้พอสมควรแล้วก็จะนำไปบริจาคเป็นทุนเล่าเรียนสำหรับเด็กเรียนดีแต่ยากจนในโรงเรียนต่อไป...ก็ไม่รู้ว่าเขาให้ทุนกันอย่างไรยังไม่ได้ศึกษาในรายละเอียด...ตอนนี้เงินส่วนนี้เก็บได้พันกว่าบาทแล้ว...
ว่าจะเขียนนิดหน่อยกลับยาวอีกจนได้...พอแค่นี้ก่อนละกัน
ขอแสดงความเสียใจกับน้องอาจารย์ด้วยครับ ขอเสนอแนะนิดหนึ่งเกี่ยวกับทุน รร.ใช้เป็นเงินนอกงบนำมาออกดอกผลเป็นทุนการศึกษาให้นักเรียน พอมีงานศพในชุมชนหรืองานมงคลที่เราช่วยงานมาเขาก็จะมอบทุนให้ตามฐานะของงานนั้น ก็จะนำมาจัดสรรให้กับครูแล้วนำดอกผลมาให้นร.ครับ
“การที่เรา(หมายถึงผู้ตาย)ไม่ค่อยจะไปร่วมงานหรือช่วยเหลืองานคนอื่น ๆ ในหมู่บ้านที่นำศพไปตั้งด้วยแล้วก็ยากยิ่งที่จะหาคนมาช่วยงานและร่วมบุญได้มาก…การทำบุญทุกวันนี้จึงเหมือนกับการไป “เอาแรง” หรือ “เอามื้อ” กันไว้ก่อนเหมือนกัน…” -เป็นเรื่องแต๊ๆ ครับพี่หนาน..บ่าเดียวนี้..เป๋นว่าเอาแฮงกั๋นแล้ว….บ่ว่างานหยัง..กะเอาแฮงกันหมด….
ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้กำลังใจและเสนอแนะมากครับ…