| อนุทิน ... ๕๓๙๙ |
"เฝ้ามองและรำพึง"
ผมใช้ชีวิตครึ่งของครึ่งชีวิตตอนนี้ที่เมืองหลวง ตั้งแต่การเรียนระดับชั้นประถม มัธยมศึกษา
ผมมองเห็นการรัฐประหาร กบฎ ปฎิวัติ ประท้วง ขับไล่ ไฮด์ปาร์ค มามากมาย
ทั้งเคยต้องรับผลกระทบจากการเดินทางที่ไม่สะดวก จากที่ควรไปได้ก็ไปไม่ได้
เห็นรถจิ๊บติดปืนกล รถถังออกมาวิ่งครืน ๆ ใกล้ ๆ บ้าน ซึ่งเหมือนสิ่งแปลกปลอมบนท้องถนน
เห็นหน้าข่าวหนังสือพิมพ์พาดหัวเกิดครึ่งหน้าตัวใหญ่ ๆ ว่า "ปฏิวัติ" อะไรพวกนี้
ไม่มีสิ่งใดในโลกนี้จะอยู่ยั้งยืนยงได้หรอก มีเกิด มีตั้งอยู่ แล้วก็ดับไป
นั่งมองเห็นคนหลงใหลในอำนาจการเมือง และพยายามที่จะอยู่ไปจนตายคาเก้าอี้
ห่วงหวงสมบัติ หัวโขนอยู่มากมาย ยุยงคนให้มาฆ่ากันตายเพื่อตัวเอง
ที่พูดมาก็ไม่ได้หมายความว่าไม่ได้ติดตามอะไร
แต่วัฎจักรพวกนี้มันหมุนวนมาให้เราได้เห็นไม่รู้กี่รอบ
ก็ยังคงมีคนไม่เคยนำประวัติศาสตร์มาศึกษาว่าอย่าให้ซ้ำรอย
ผมเหมือนคนแก่รำพึง และเฝ้ามองการประลองกำลังกันของคนในชาติ
มีนักการเมืองเป็นผู้นำที่มองเห็นทุกอย่างเป็นเกม
และสนุกสนานกับการพลิกเกมเพื่อให้ฝ่ายตัวเองได้ประโยชน์ที่สุด
ตอนนี้ผมไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองหลวงอีกต่อไป
ผมจรไกลออกมาอยู่หัวเมืองทางเหนือ
แต่ผมก็ยังเฝ้ามองด้วยความห่วงใยในประวัติศาสตร์ที่เกิดซ้ำซากอยู่เสมอ
เกิดจากความอยากของคนไม่กี่คน…และเกิดจากการแก้ปัญหาไม่ตรงจุดหรือเกาไม่ถูกที่คันใช่ไหมครับอาจารย์
เช่นนั้น เพียงนิด จริง ๆ ครับ พี่หนาน ;)…
ตอนนี้ฝนกำลังตกที่บางพลี…ให้เราเฝ้ามอง ความเป็นไป
ดูแลสุขภาพด้วยนะครับ ท่าน พ. ;)…