บันทึกธรรม เคยเป็นแบบนี้ กันมาทั้งนั้น ใช่มั๊ย...
ณ เวลา ที่คนเราคบหาชอบพอกัน เป็นเสี่ยว เป็นเกลอ รักใคร่ปองดองกัน เขาก็จะมาชื่นชมในกันและกันให้ได้ยินได้ฟัง แม้ในยามลับหลังต่างก็พูดถึงกันในทางที่ดี ในความน่ายินดี มีความสุข ฯ
และ ณ เวลา ที่คนเหล่านี้ เกิดเหตุให้ชังกัน โกรธ เกลียดกัน อาฆาตพยาบาท จองเวร เล่นงานกัน เขาก็จะขุด ขุด ขุด นำความลับ เรื่องไม่ดี ไม่งาม ขุดความไม่ดีของกันและกันออกมามากมาย ฯ
ความเป็นผู้ใหญ่ ที่ได้พากเพียรฝึกเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน เจริญเดินตามรอยครูบาอาจารย์ ที่ต้องรับรู้จากผู้ที่นำสุข - ทุกข์ มาหาและปรึกษา ดังที่กล่าวข้างต้น ก็เข้าใจ...จิตใจ ทั้งสองลักษณะ เพราะโลกเราก็เป็นเช่นนี้...
ก็ได้แต่หาทาง แนะนำ เพื่อให้ค่อย ๆ ปรับ - แก้พฤติกรรมตนของตนเอง ให้อยู่ในศีลกันเถิด พี่เอย น้องเอย ฯลฯ
เมื่อมีผู้ถามว่า พระคุณเจ้าอยู่ฝ่ายไหน...เจ้าคะ ก็ตอบไปว่า อาตมา ไม่ได้มีฝ่าย ทุกฝ่าย จึงมาหาแต่อาตมา.. ก็..หากผู้ใดที่สมาทานศีล มั่นคงศีล เช่น ศีล ๕ และยิ่ง พัฒนาสู่อธิศีล ฯ รูปธรรม คนมีศีล ก็จะแสดงออกมา...ที่นั่น จะพบอาตมา ยืนอยู่ ณ ตรงจุดนั้น..
อามรมณ์ดี ไม่ต้องมีฝ่าย ฯ
เพราะความไม่มีฝ่าย
จึงเป็นความระบาย จากคนหวัง
คำด่า...หมายจักให้เกิดพลัง
เพื่อดึงรั้ง..ให้มา เป็นฝ่ายตน ฯ
ครั้นมาเจอ คนไม่มีฝ่าย
จึงฟูมฟาย และ สับสน
ด้วยไม่สมใจตน
เมื่อกาลเวลาผ่านพ้น จึงจักเข้าใจ แม้ที่ผ่านจะคำด่า.. ติ.. ว่า.. นินทา.. แอบไปตั้งฉายาให้ จากผู้โดนขัดใจ ไม่สมใจ ไปหลายหนับ..มากมายแล้วเอย.. ยังไง ก็..ดูไป... ต้อง ดูไป.. " โก ออน แอน ซี เอ้าท์... "
มีฝ่ายค่ะ ก็ฝ่ายกลางไงคะ