อนุทิน 128282


sr
เขียนเมื่อ

OTOPC : One Tambol One Preschool Centre for Thailand

ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กต้นแบบ ชูสร้างภาคีเครือข่ายสุขภาพ สสส. 24 August 2556 <click to read>

...การดูแลเด็กเล็ก 0-5 ปี นับเป็นยุคทองของพัฒนาการเรียนรู้ เพราะเป็นช่วงเวลาสำคัญที่สมองมีการพัฒนาการสูงสุด อันส่งผลต่อสติปัญญา บุคลิกภาพ และความฉลาดทางอารมณ์    การลงทุนเพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์จึงถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด...

...การดูแลเด็กปฐมวัยในประเทศไทยพบว่า เด็กวัย 0-2 ปีจะอยู่ในการดูแลของผู้ปกครอง และเมื่อเข้าสู่ช่วงอายุ 3-5 ปีจะส่งเข้าสถานรับเลี้ยงเด็กปฐมวัยต่างๆ เช่น โรงเรียนอนุบาล หรือศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ภายใต้การดูแลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งในปี 2554 มีศูนย์พัฒนาเด็กเล็กทั้งสิ้น 19,718 แห่ง เด็กปฐมวัย 911,143 คน และครูผู้ดูแลเด็ก/ผู้ดูแลเด็ก 51,193 คน กล่าวคือ ครู/ผู้ดูแลเด็ก 1 คน ต้องรับผิดชอบเด็กปฐมวัย 17 คน    ซึ่งจากผลการศึกษาของสถาบันพัฒนาการสาธารณสุขอาเซียน มหาวิทยาลัยมหิดล ปี 2550 พบว่าการจัดการศึกษาให้แก่เด็กปฐมวัยของท้องถิ่นยังมีอุปสรรคจากการนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ ด้วยข้อจำกัดของคุณภาพและมาตรฐานของการจัดการเรียนรู้แก่เด็กปฐมวัยของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กขนาดใหญ่และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กขนาดเล็ก ครูผู้ดูแลเด็กและผู้ดูแลเด็กไม่ได้รับการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดทำหลักสูตรเท่าที่ควร และปัญหาการจัดสรรงบประมาณที่ไม่สอดคล้องกับสภาพจริง    โครงการศักยภาพภูมิปัญญาท้องถิ่น (Capacity of a Community Treasures : COACT) โดยการสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จึงได้ออกแบบระบบกลไกการทำงานของ “ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กต้นแบบ” การพัฒนาเด็กปฐมวัยให้มีสุขภาวะที่ดีทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สติปัญญา และสังคมที่สมวัย ต้องอาศัยการเชื่อมประสานและทำงานร่วมกันใน 3 ระบบ คือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในฐานะผู้ดูแลศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ระบบสุขภาพผ่านโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และระบบสนับสนุนด้านการศึกษาศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลศรีษะเกษ อ.นาน้อย จ.น่าน จึงถือเป็นรูปธรรมของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กต้นแบบ ที่เกิดจากกลไกการทำงานร่วมกันของ 3 ระบบ ...



ความเห็น (2)
  ถ้า สสส. จะทำให้เกิดการทำงานร่วมกันทั้ง 3 ระบบ แพร่หลายไปทั่วประเทศได้ก็จะเป็นการใช้งบประมาณของกองทุนที่คุ้มค่าที่สุด การมีศูนย์ต้นแบบเพียงไม่กี่แห่งก็อาจได้ประโยชน์เฉพาะที่ตั้งศูนย์เท่านั้น ใครจะนำต้นแบบไปใช้ก็ไม่รู้ แต่ถ้าแนวคิดนี้เข้าถึงทุกแห่งจริง ๆเด็กปฐมวัยไทยก็จะรับการพัฒนาอย่างถูกทาง และท้องถิ่นจะดูแลต่อเนื่องได้เพราะมีงบประมาณ ขอให้โครงการติดตั้งได้จริง ท้องถิ่นหลายแห่งไม่รู้จะเอาเงินไปทำอะไร (กระมัง ) ก็ทำแต่ก่อสร้าง ซ่อมแซม รื้อถอนกันอยู่นั่น จัดงานลอยกระทง สงกรานต์ ตัวเราเองยังได้แจกพัดลม หม้อหุงข้าว (คุณภาพ ? ) เสียดายเงินแทน  เขาต้องการ idea นะ และถ้าคนให้ไอเดียคือ สสส. จะสำเร็จ ถ้าเป็นใครก็ไม่รู้เข้าไปอาจเคราะห์ร้าย ถึงแม้เวลาเขาเลือกตั้งกันมาไหว้วอนขอเสียงก็ตาม  555 (  a fact of life )

  สสส ยังสนับสนุนสารพัดโครงการในแต่ละปี เรื่องนั้นบ้าง เรื่องนี้บ้าง ขอบเขตกว้าง ไม่ทุ่มในเรื่องสำคัญ ๆสมกับชื่อกองทุน เคยงงอยู่ครั้งหนึ่งที่เพื่อน ๆในคณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งบอกว่าได้ทุน 5 ล้านบาทจาก สสส. มาทำโครงการสำรวจแรงงาน (ถ้าจำผิดก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้) 

Hi Dr GD : สสส. sees and does something to help develop preschool children. I think this work may help in working with multicultural Thailand -- giving a chance for chilfren to learn to live and work rogether.

I hope the work won't be reversed in primary and higher schools -- we see from A-Z NET results, our children are losing IQ the more they go to school. (Check it out).

สสส. is also the sponsor of G2K ;-)

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท