เมื่อเปลวไฟแห่งความเกรี้ยวกราด............ของบางใคร ลามเลียใครต่อใครเข้า สิ่งที่ทำได้คือการเขยิบออกไปคนละก้าว สองก้าว หรือ....ออกไปท่องจักรวาลอันกว้างใหญ่ของเรา ดูท่าจะดีกว่า
....อย่าให้อะดรีนาลีนของเราหลั่งโดยเปล่าประโยชน์กับบางใครที่กำลังทำไฟไหม้ใจตน...เข้าใจว่า....แค่นี้บางใครก็เกิดความทุกข์มากพอแล้ว หากบางใครเรียกสติกลับมาดับไฟแห่งความเกรี้ยวกราดนี้ได้ บางใครคงระลึกถึงอดีตที่ก่อเหตุไว้กับตัวเองและผู้อื่น ถึงตอนนั้นเมื่อไร....เชื่อว่าบางใครคงอยู่กับความทุกข์และทิฐิด้วยเช่นกัน
เปลวไฟแห่งความเกรี้ยวกราดนี้....น่ากลัว ขาดสติเมื่อใด มักทำร้ายความรู้สึกดี ๆ ความเคารพนับถือ และมิตรภาพดี ๆ รวมทั้งบรรยากาศดี ๆ ไปด้วยเช่นกัน
ได้ออกไปท่องจักรวาลอันกว้างใหญ่....ได้สักพัก นั่งมองดูสายฝนสักเดี๋ยว แล้วเดินย้อนกลับไปดูบางใคร...ที่ดับไฟแห่งความเกรี้ยวกราดได้แล้ว เห็นใบหน้าแดง ๆ และความขุ่นมัว....ที่ยังปรากฏอยู่ จึงเดินออกมาท่องจักรวาลต่อ.....ตั้งใจว่าจะนั่งมองดูสายฝนอีกสักหน่อย แล้วค่อยกลับเข้าไป แต่ยังไม่ถึงอึดใจ....ได้ยินเสียงเรียกจากบางใคร............ คำที่ได้ยินชัดเจนคือ "ขอโทษ" แต่ฝากไปบอกบางใครอีกคนให้ด้วย เท่านี้ก็พอทำให้ทุกอย่างคลี่คลายไปได้บ้าง
...........................................
หากเราระลึกรู้ทุกลมหายใจของการมีชีวิตอยู่ คุณค่าของสรรพสิ่งรอบ ๆ กาย รวมไปถึงคนอื่น ๆ ที่มีชีวิตเหมือนเรา เราจะเข้าใจ "สิ่งสำคัญ" ของเวลาที่เรามีลมหายใจและชีวิต เราจะไม่สร้างความทุกข์ใจให้กับคนอื่น เราจะใช้เวลาให้คุ้มค่าต่อลมหายใจในแต่ละวัน เพราะระหว่างทางของชีวิต มีสิ่งต่าง ๆ อีกมากมายที่สำคัญรอเราอยู่
เมื่อเห็นความน่ากลัวนี้ของบางใคร....เราเองก็ต้องเตือนตน...ว่า อย่า...เผลอ อย่า....ทำ อย่า....ร่วมส่งเสริมเปลวไฟแห่งความเกรี้ยวกราดนี้ด้วย
ต้อง "หยุด" โดยเริ่มจากที่เราก่อน (แม้มันจะยาก..หากใจนึกอยากเอากระดาษกาวมาพันปากและจับมือบางใครมัดไว้กับโต๊ะก็ตาม)
"หยุด" เพลงนี้แม้จะคนละความหมายแต่ก็ทำให้....ขวัญกลับมาอยู่กับตัว
....ขวัญเอ๊ย...ขวัญมา......นะวนิดา ชีวิตนี้อยู่ยากขึ้นทุกวันแล้ว
สงสัยต้องย้ายไปอยู่กาแลคซี่อื่น.... ไม่ไหว ๆ นอนดีกว่า
ไม่มีความเห็น