บทความเรื่อง 8 Ways to Deal With Antibiotic Resistance จาก Medscape Infectious Diseases เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากเกี่ยวกับยาฆ่าเชื้อ โดยแพทย์ 3 ท่านจากสหรัฐอเมริกา เขาพูดถึงปัญหาเชื้อดื้อยาว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องช่วยกันทำให้ตระหนัก เพราะองค์การอนามัยโลกและองค์กรต่างๆที่เกี่ยวข้องได้ประกาศว่าการดื้อยาถือเป็นภาวะวิกฤตแล้ว โดยมีหลายๆเหตุผล ดังนี้คือ บริษัทยาไม่มีการพัฒนายาฆ่าเชื้อชนิดใหม่มานานถึง 4 ทศวรรษแล้ว กลุ่มล่าสุดที่มีการพัฒนาก็คือ quinolones, มีการใช้ยาฆ่าเชื้อแบบไม่ถูกต้องกันมากในอเมริกา, การป้องกันการดื้อยาของโรงพยาบาลในอเมริกาที่ผ่านมาทำได้ไม่ดีเลย ในบทความนี้ได้เสนอแนวทางในการจัดการเรื่องนี้ไว้ 8 ข้อตามชื่อเรื่อง โดยมีข้อมูลสนับสนุนในทุกหัวข้อ สรุปได้ว่า
1. มีการเก็บข้อมูล เชื้อดื้อยาและการใช้ยา ซึ่งรายงานนี้บอกว่าอเมริกายังไม่มี แต่ทางยุโรปมีรวบรวมไว้ถึง 26 ประเทศ ทำให้รู้ว่าปัญหาอยู่ที่ไหน จะหาทางป้องกันอย่างไรให้ถูกจุด
2. หยุดการใช้ยาฆ่าเชื้อในฟาร์มเลี้ยงสัตว์ เขามีข้อมูลว่ามีการใช้ยาในกลุ่มนี้ถึง 80% ในการส่งเสริมการเจริญเติบโตและป้องกันโรค และเขาติดตามได้ว่าเชื้อดื้อยาและยีนของเชื้อดื้อยามาจากไก่และเนื้อไก่ มาจนถึงการติดเชื้อในกระแสเลือดของคน
3. มีแบบแผนการใช้ยาฆ่าเชื้อ เพื่อลดการใช้ยาที่ไม่จำเป็น และมีการใช้ยาอย่างเป็นขั้นตอนที่เหมาะสม
4. ลดการใช้ยาฆ่าเชื้อที่ไม่เหมาะสมในผู้ป่วยนอก
5. ใช้วิธีการวินิจฉัยเชื้อแบบรวดเร็ว เพราะปัจจุบันมีวิธีการตรวจระดับโมเลกุลที่ทำให้รู้ได้ว่าเป็นการติดเชื้อชนิดใด แทนการเพาะเชื้อซึ่งต้องใช้เวลากว่าจะรู้ผล เพื่อจะได้ใช้ในการตัดสินใจเลือกใช้ยาได้อย่างถุกต้องเหมาะสมรวดเร็ว
6. พัฒนายาชนิดใหม่ๆขึ้นด้วย โดยต้องมีการปรับเปลี่ยนวิธีการและขั้นตอนต่างๆในการพัฒนาและทดสอบยา ซึ่งในปัจจุบันยังไม่เหมาะสมในทางปฏิบัติจริงๆ
7. บูรณาการวิธีการลดการดื้อยาฆ่าเชื้อเข้าไปในการปฏิรูปการดูแลสุขภาพ
8. วางโครงการสำหรับสหรัฐอเมริกา ซึ่งยังไม่มี ในขณะที่ทางยุโรปมีการจัดการปัญหานี้อย่างจริงจัง มีนโยบายและงบประมาณสนับสนุนอย่างเป็นงานเป็นการแล้ว
ถือเป็นเรื่องที่น่าสนใจสำหรับบ้านเราที่มีการใช้ยาฆ่าเชื้อกันอย่างแพร่หลายเหมือนกัน
หมายเหตุ: ยาฆ่าเชื้อ คือ ยาปฏิชีวนะ (antibiotics)
ยาปฏิชีวนะเป็นยาที่ไม่ชอบทานที่สุด เพราะหมอชอบบอกว่า ต้องทานให้หมด ถึงแม้จะอาการดีขึ้นแล้วก็ตามน่ะค่ะ ^___^
น้อง ชาดา ~natadee คะ การกินยาฆ่าเชื้อไม่ครบตามปริมาณที่ให้ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เรามีเชื้อดื้อยาค่ะ หมอถึงบอกให้กินให้ครบ เพราะยาฆ่าเชื้อที่เรากินจะมีอายุขัยในเลือดที่จะทำให้มีระดับยาในขนาดที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ ถ้าเราหยุดกินยาก่อนที่จะครบ จะทำให้มีเชื้อบางส่วนที่รู้จักยาแล้วแต่ไม่โดนฆ่า จะพัฒนาตัวเองเป็นเชื้อที่ดื้อยานั้นได้ในภายหลังค่ะ เราเองก็จะลำบากเพราะเชื้อนั้นอยู่กับเรา ถ้าเราอ่อนแอเขาเพิ่มจำนวนกลับมาได้ ยาที่เคยใช้ก็อาจจะใช้ฆ่าเชื้อนั้นไม่ได้เสียแล้วค่ะ นอกจากนั้นเราเองอาจจะเอาเชื้อนั้นไปแพร่ให้คนอื่นโดยไม่รู้ตัว ก็จะกลายเป็นเราแพร่เชื้อที่ดื้อยาให้กว้างขึ้นด้วยค่ะ เพราะการที่เราไม่ได้ให้ความรู้แบบนี้ทำให้เกิดปัญหาเชื้อดื้อยาทั่วโลกแบบที่เป็นอยู่นี่แหละค่ะ