.....ใจแหว่ง
เคยเกิดอาการนี้กันบ้างไหมคะ.......เมื่อรู้ว่าเพื่อนซี๊ปึกของเราจะไม่อยู่ให้เราเห็นหน้าได้สบตากัน ได้มีเวลาซ้อมปากได้มองต่างมุมแบบเบื๊อก ๆ ด้วยกัน ได้อยู่ข้างเดียวกันแบบคนกลางกลวง เวลาโดนคนในขอบด่า เป็นเวลานานกว่า ๑๐ ปี ถึงแม้เราจะรู้ว่าโลกยุคนี้เป็นโลกยุคไร้พรมแดนก็ตาม
เพื่อนที่เรานั่งห้อยขาอยู่ริมระเบียงด้วยกัน โดยแทบไม่ต้องพูดอะไรกันเลยสักคำ แทบจะไม่ต้องสบตากัน เพียงแค่สบใจกันเท่านั้น เราต่างก็รู้สึกได้ว่า "เข้าใจ"
ในชีวิตที่ผ่านมาระหว่างทางพบเพื่อนที่สบใจพอนับนิ้วได้ไม่กี่คน ทั้งเพศเดียวกัน ต่างเพศ และสหเพศในคน ๆ เดียวกัน เป็นคนสำคัญระหว่างทางของชีวิต ที่รู้สึกได้ถึงความรักและมิตรภาพอย่างจริงใจ เหนือกาลเวลาที่ผ่านมา เหนือเงื่อนไขใด ๆ แม้ว่าจะต่างคนต่างมีครอบครัวกันแล้วก็ตาม
ป๊อบ...เป็นหนึ่งในคนสำคัญระหว่างทางของชีวิต เป็นประเภทคิดแบบเบื๊อก ๆ เหมือนกัน มีนิสัยวู่วามมาตั้งแต่เรียนหนังสือ จนแต่งงานมีเมียเป็นของตัวเองและหย่าร้างกันทางใครทางมัน ณ ตอนนี้ ก็ยังวู่วามไม่เว้นหน้าอินทร์หน้าพรหม พี่ป่าน และพี่ปอ พี่ชายของป๊อบเคยพูดว่า "ดูท่ามันจะไปสบายก่อนพี่ ๆ" ฮ่า ๆ ฉันเห็นด้วยเป็นที่สุด เพราะวีรกรรมแต่ละเรื่องของคุณชายเกือบทำให้ฉันและเพื่อน ๆ เสี่ยงตายมาก็หลายหน เช่น วีรกรรมนี้จำได้ไม่เคยลืม ตอนที่ทำงานกันได้ปีสองปีแล้ว ทั้งฉันและโต้งซึ่งป๊อบจัดลำดับให้เป็นเพื่อนซี้ปึกสุดของคุณชาย โทรศัพท์มาชวนว่าไปขับรถเที่ยวกัน ทั้งฉันและโต้งรู้ว่าคงเป็นวันไม่ธรรมดาสำหรับคุณชายเขาแน่นอน ในที่สุดทั้งโต้งและฉันก็ได้นั่งรถเที่ยวสมใจ ตั้งแต่ชมแม่น้ำเจ้าพระยาที่สะพานพุทธและก็เรื่อยมายันสะพานเดชาติวงศ์ จังหวัดนครสวรรค์ สาเหตุที่ขับมาไกล ขับมาแบบเรื่อย ๆ แบบใจหายใจคว่ำ เพราะคุณชายอกหัก จากที่บอกว่าไม่เป็นไรมากต่อหน้าแม่น้ำเจ้าพระยาที่สะพานพุทธจนมาต่อมน้ำตาลูกผู้ชายแตกที่เมืองปากน้ำโพ จุดกำเนิดของแม่น้ำทั้ง ๔ สาย ปิง วัง ยม น่าน ไหลมาบรรจบกันรวมเป็นสายเดียว พวกเราได้เสียวกันแบบมิได้นัดหมาย ไม่มีเสียงร้องสักแอะ โดยเฉพาะฉันที่ใจหายใจคว่ำไปตลอดทาง และในที่สุดคุณชายก็ทำให้พวกเราตกใจเมื่อมันจอดรถและลงไปสะอึกสะอื้นต่อหน้าแม่น้ำเจ้าพระยาอีกครั้ง ทั้งฉันและโต้งได้แต่ยืนข้าง ๆ อยู่เงียบ ๆ นานจนเกือบลืมไปว่านานเท่าไรแล้ว และแล้วคุณชายก็มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียกว่า "ไปไอ้เก๋ ไอ้โต้ง ไปกินราดหน้ากัน" จำได้ว่าโต้งโดนไล่เตะตูดให้ขึ้นรถเพราะว่าไปใช้วาจากวนพระบาทคุณชายเข้าว่า "แหม....อยากกินราดหน้าก็ไม่บอก ที่เยาวราชอร่อย ๆ ตั้งหลายเจ้า มึงพามาซะไกลขนาดนี้ ขอโมจิเจ๊จัน ฯ กลับไปฝากแม่กูสักห้าหกกล่องนะมึงนะ" แล้วรอยยิ้มของป๊อบก็กลับมาประทับใจเราสองคนอีกครั้ง แถมวาจายอกย้อนกวนพระบาทโต้งกลับมาไม่แพ้กัน "งั้นกูฝากราดหน้ากลับไปให้แม่มึงสองคนด้วยแล้วกัน แต่รับรองขากลับกูจะบินไป เดี๋ยวจะไม่ร้อน เย็นแล้วจะไม่อร่อย" ฉันตาเหลือกสวนทันควัน "ไม่เป็นไรหรอกแก ที่บ้านอิโต้งกะฉันมีเตาแก๊สอุ่นใหม่ได้ หากแกขากลับแกจะบินกลับล่ะก็ แกนับพระบาทโต้งกะฉันก่อน" แต่ขากลับคุณชายโต้งรอบคอบกว่า คว้ากุญแจรถป๊อบมาขับแทน ไม่ใช่เพราะไม่ไว้ใจป๊อบหรือกลัวใจป๊อบจะบินกลับ แต่พวกเรา "กลัวตาย" มากกว่า
เมื่อถึงวันที่ป๊อบเดินทาง ฉันได้แต่ฝากของและจดหมายไปกับเมียโต้ง เพราะเจอกันตอนอบรมพอดี โต้งเข้าใจเหตุผลและเงื่อนไขที่ไปส่งป๊อบไม่ได้ ป๊อบเข้าใจเพราะก่อนหน้าที่ฉันรู้ว่าป๊อบต้องเดินทางฉันได้บอกถึงเหตุผลที่ไปส่งมาไม่ได้ แต่ในที่สุดเพื่อนซี๊ที่ไม่เข้าใจก็มี พาลโกรธวนิดา และโดนต่อว่าแค่นี้นายก็ทำให้เพื่อนไม่ได้ นายยังเรียกตัวเองว่าเพื่อนได้อีกหรอวะ ถึงแม้วนิดาจะเข้าใจสภาวะที่ไม่ได้ดั่งใจของเพื่อนคนนี้ แต่ก็อดนึกน้อยใจและเสียใจกลับอิเพื่อนใจตุ๊ดไม่ได้ ทำไมนายเป็นคน "เยอะ" อย่างนี้ แค่ป๊อบไปก็ใจหายพอแล้ว นายยังมาตัดเราออกจากกองมรดกเพื่อนซี้เยี่ยงนี้ นายรู้ไหม....นายทำ "ใจเราแหว่ง"
(@^____________________^@)
ขอบคุณดอกไม้ทุกดอกที่มาให้กำลังใจ ณ ช่วงใจที่กำลังแหว่งค่ะ
ขอมอบเพลงแทนคำขอบคุณจากใจให้ทุกคนนะคะ