เราทำอะไรทุกอย่างเราต้อง “ทำเพื่อธรรม” เพื่อเสียสละ เพื่อไม่เห็นแก่ตัว คนไม่เห็นแก่ตัว มันมีความสุข เพราะคนเห็นแก่ตัวมันขี้เกียจขี้คร้าน ทำน้อยก็อยากได้มาก มันเอารัดเอาเปรียบคนอื่น วันหนึ่ง ๆ หาทางทำธุรกิจจนปวดหัวไปหมด หาช่องทางที่จะได้มาซึ่งทรัพยากร
อย่างเราเป็นคนค้าคนขาย ถ้าเราไม่มีธรรมเป็นที่ตั้งมันก็บาปนะ เพราะว่าซื้อถูกขายแพง เอาเปรียบคนอื่น แทนที่เราเป็นมนุษย์ร่วมกัน เกิดมาทุกข์ทั้งกายทั้งใจ แทนที่จะช่วยเหลือกัน กลับมองไม่เห็น มีแต่จะเอาเปรียบทำร้ายกัน แทนที่จะไปสงเคราะห์คนยากจน กลับไปเพิ่มเติมทุกข์ให้แก่กัน
ทุกคนคิดเป็นอย่างเดียวว่า “คนเราถ้าไม่เอาเปรียบคนอื่นมันจะรวยได้อย่างไร จะมีความสุขได้อย่างไร...?” ความคิดอย่างนี้มันเห็นผิดนะ เป็นความคิดที่จะทำให้เราทำบาปทำกรรม ก่อเวร ก่อภัยหาที่จบไม่ได้ อย่างเราคนหนึ่งเกิดมาในครอบครัว ถ้าเรามาเป็นผู้เอา ครอบครัวเราก็แย่ มันก็ร้อนกันไปหมดทั้งครอบครัว
พระพุทธเจ้าท่านสอนเราเป็นผู้ให้ ถ้าเราไม่เสียสละ ไม่เป็นผู้ให้ เราไม่ก็สามารถ รักษาศีล ๕ ศีล ๘ ศีล ๑๐ ศีล ๒๒๗ ได้
มีความเห็นแก่ตัวจะรักษาศีลได้อย่างไร เพราะการรักษาศีลคือการเสียสละ ละความเห็นแก่ตัว
ศีลแต่ละข้อล้วนแล้วแต่ให้เราละความเห็นแก่ตัวทั้งนั้น ถ้าเรามีศีลเราถึงสมาธิ
สมาธิได้แก่ ไม่มีความโลภ ไม่มีความโกรธ ไม่มีความหลง ไม่มีนิวรณ์ทั้งหลายทั้งปวง
ถ้าเรามีศีลเราถึงมีสมาธิ เป็นสมาธิที่ถูกต้อง...
ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก