เราพยายามทำใจให้เหมือนพระพุทธเจ้านะ
พระพุทธเจ้าท่านสอนเราให้เรามีกายวาจาใจให้สงบ มีเศรษฐกิจพอเพียงเพียงพอนะ ในหลวงของเราก็เหมือนกัน ท่านพาให้เราคิดอย่างนี้ อย่าพากันไปคิดเรื่องของคนอื่น ให้ความอบอุ่น ให้ความรักความเมตตาด้วยการประพฤติการปฏิบัติธรรม โดยมีศีลมีธรรม เป็นทางเดิน อยู่ในครอบครัวเราก็พากันประคับประคองอย่าพากันเอาแต่ใจตัวเอง มีทิฏฐิมานะ ปากจัดเจ้าอารมณ์ เป็นคนอารมณ์ร้อน เจ้าอารมณ์ ปากติดระเบิด
เราต้องมาแก้ไขที่ตัวเรา เพราะเรายังเป็นบุคคลอันตราย ปากก็ติดระเบิด กิริยามารยาทก็ติดระเบิด การกระทำต่าง ๆ มีแต่ติดระเบิดพกระเบิด ทำให้ตัวเองเดือดร้อน ทำให้คนอื่นเดือดร้อน ต้องกลับมาหาเศรษฐกิจพอเพียงนะ
พระพุทธเจ้าท่านไม่ให้เราทะเยอทะยาน เห่อเหิม ลุ่มหลงในทรัพย์สมบัติ จะเป็นบ้าน เป็นรถยนต์ เป็นข้าวของเงินทองอะไรอย่างนี้ อย่าไปหลงอย่าไปตื่นเต้นนะ เดี๋ยวมันจะ บั่นทอนความดี บั่นทอนบารมีของเรา
พยายามพัฒนาใจของเราให้มันสงบให้ได้ เดี๋ยวนี้เรากำลังวิ่งหาความสุขความดับทุกข์ทางด้านวัตถุกัน เราไม่ได้มาฝึกมาปฏิบัติทำให้จิตใจของเราสงบ
ครอบครัวไหนเศรษฐกิจไม่ดีน่ะทะเลาะกันทั้งบ้านเลย เพราะว่าจิตใจมันถูกเผา เผาทั้งพ่อทั้งแม่ทั้งลูกทั้งหลาน เพราะเราไม่รู้จักพากันยินดีในสิ่งที่มีอยู่ ไม่เป็นผู้รู้จักพอ ของเรามันมีเท่านี้ ๆ น่ะ จะให้มันมีมากกว่านี้มันก็เป็นไปไม่ได้
จิตใจของเราต้องเป็นผู้ที่มีความสุข เป็นผู้ที่รู้จักพอ ฝึกให้ทาน ฝึกเสียสละ กลับมาพิจารณาตัวเองว่าตัวเองให้ทานอะไรบ้างเสียสละอะไรบ้าง
อย่างเราถึงเวลานอนเราไม่นอนอย่างนี้ ไปติดคอมพิวเตอร์ติดเกมส์เค้าเรียกว่า “คนเห็นแก่ตัว คนไม่เสียสละ”
พวกเด็ก ๆ น่ะต้องพยายามฝืนจิตฝืนใจของตัวเองให้เป็นคนมีระเบียบมีวินัย
พวกใหญ่ ๆ พวกปัญญาชนก็เหมือนกันนะ มันพากันนอนดึก พากันตื่นสายก็เพราะอย่างนี้เอง มันต้องเสียสละ ต้องทำใจให้สงบ เราจะได้ดูแลตัวเองได้ ดูแลครอบครัวได้ เราจะได้ไม่ตกเป็นทาสของสิ่งเสพติดก็คือโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊คพวกนี้แหละ
คนเรามันต้องฝึกตัวเอง ถ้าไม่ฝึกตัวเองไม่ปฏิบัติตัวเอง เราจะเอาเงินไปจ้างมันก็ ไม่เป็นหรอก เพราะความดีทุกคนต้องประพฤติปฏิบัติเอง มันต้องประพฤติปฏิบัติด้วยตัวเอง ควบคุมตัวเองเข้าหาธรรมะเข้าหาการประพฤติปฏิบัตธรรม
ไม่มีความเห็น