18 พฤษภาคม 2556
วันนี้คนเป็นครูก็อด...อมยิ้มให้กับตัวเองไม่ได้ เพราะแม้มันจะเป็นเรื่องจิ๋วๆ ในชีวิตของคนเป็นครูสำหรับครูคนอื่น แต่มันก็สร้างพลังให้คนเป็นครูอย่างครูแอนได้อย่างอัศจรรย์เลยทีเดียว
แม้ว่าวันนี้จะเป็นวันหยุด แต่ครูแอนก็แอบแวะไปโรงเรียนในช่วงบ่าย เพื่อไปดูเด็กน้อย ม.1 และ ม.4 เข้าร่วมกิจกรรมกับรุ่นพี่คณะกรรมการนักเรียนในโครงการสร้างความสัมพันธ์ฉันน้องพี่
ครูแอนไม่ได้เข้าไปร่วมแจมในกิจกรรมแต่อย่างใด แต่แอบดูอยู่ห่างๆ หน้าร้านสหกรณ์โรงเรียนของครูป้าจิน
ระหว่างที่นั่งคุยอยู่กับครูป้าจินอยู่นั้น เจ้าก็อต หนุ่มน้อยวัย 16 ลูกศิษย์เก่าของครูแอนผู้ซึ่งเพิ่งจบ ม.3 ไปหมาดๆ ก้อตรงรี่เข้ามาสวัสดีครูทั้งสอง และนั่งคุยกับครูแอน (เจ๊จอมเฮี๊ยบ....ที่เจ้าตัวบอกเช่นนั้น อิอิอิ) เป็นพักใหญ่ และตอนนี้ก็อตก็เข้าเรียนสายอาชีพในวิทยาลัยเทคนิคในตัวเมืองหาดใหญ่ และวันนี้ก็อตก็กลับมาเยี่ยมโรงเรียนและเพื่อนๆ เมื่อได้ยินข่าวการรวมตัวของเพื่อนๆ เค้าที่เข้า ม. 4 และมาร่วมทำกิจกรรมกับรุ่นพี่คณะกรรมการฯ ในวันนี้ ว่าไปแล้วก็อตเค้าก็เคยเป็นเพื่อนกับหลานชายคนเล้กของครูแอนขณะที่เค้าสองคนอยู่ในโรงเรียนประถมฯ ด้วยกัน
เรานั่งคุยกันหลายเรื่อง.....โดยก็อตกับครุแอนนั่งที่ม้านั่งยาวหน้าสหกรณ์ และมีครูป้าจินนั่งตรงเคาเตอร์ขายของในร้าน ที่ห่างกันเพียงแค่กำแพงอิฐหน้าต่างคั่นกลาง เราจึงนั่งคุยกันสามคน แต่บทสนทนาส่วนใหญ่มักจะอยู่ที่ครูแอนและเจ้าก็อต
บางเรื่อง..........
"ครู น้อง ม.3 น้องแนนคนนั้น...นั๊นครู (พลางชี้ไปที่เด็กผู้หญิงชั้น ม 3/1 คนที่นั่งอยู่ใต้ถุนอาคารเรียนซึ่งไม่ไกลกับห้องสหกรณ์มากนัก) ถามผมล่ะครับว่า ตอนที่ผมเรียนกับครูนั้นยากมั๊ย"
"อ้าว....เหรอ....แล้วผมตอบน้องเค้าไปไงล่ะ"
"ผมก็บอกว่ายากนะ ตอนที่เรียนนั๊น แต่พอตอนที่ต้องไปทำข้อสอบโอเน็ตนั้นจะทำได้ เพราะเจอไปจากของที่ครูแอนสอนแล้วเพ"
โอ....นี่ก็อตแกคิดแบบนี้เองเหรอเนี่ย นี่เป็นอีกมุมความคิดหนึ่งในนักเรียนห้องที่ครูแอนเคยสอนมา เพิ่งทราบความคิดเจ้าก็อตก็ตอนนี้เอง ตอนที่เค้าจบจากเราไปเรียนต่อที่อื่นแล้ว
คุยกันไปพักใหญ่อีกหลากหลายเรื่องราว.....
เมื่อท้ายสุดก่อนที่บทสนทนาจะจบลงด้วยเสียงโทรศัพท์มือถือของก็อตที่ดังขึ้น และก็อตก็ขอคุยโทรศัพท์กับเพื่อน และเมื่อเสร็จสิ้นการคุยโทรศัพท์แล้ว ก้อตหันมาบอกครูแอนว่า....
"ครูครับ ผมกลับก่อนนะครับ เพื่อนโทรมาตามแล้ว"
"อืม ตั้งใจเรียนนะก็อต ไปอยู่ในเมืองน่ะ เราไปเรียนนะ ไปหาความรู้ ไม่ใช่ไปทำเรื่องแย่ๆ นะ อย่าไปเล่นเรื่องยาและอย่าไปมีปัญหากับใครๆ นะ อยู่ให้เป็นนะลูกนะ อ้อ....แล้วอย่าลืมกลับมารายงานเกรดผมด้วยล่ะ ตั้งใจเรียนเน่าะ"
"ครูครับ ผมขอกอดครูทีน่ะครับ เมื่อวันปัจฉิมฯ ผมยังไม่ทันได้กอดครูเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ เลย วันนั้น ผมหันมาอีกที ครูหายไปจากหอประชุมแล้ว นะครับครูครับ....(ว่าพลางก็อตก็กอดครูตัวเล็กกว่าแน่นไปแล้ว)....."
"หือ...." มีเสียงหัวเราะขำๆ เล็ดลอดออกมาจากครูป้าจินที่อยู่ในร้าน เมื่อมองเห็นภาพนั้นได้ถนัดกว่าใครๆ แม้กระทั่งเจ้าตัวต้นเรื่องและครูแอนเอง
ครูเองก็ไม่มีอะไรมากมาย......อายุที่เยอะขึ้นทำให้ครูกล้าที่จะแจกกอดให้กับลูกศิษย์มากขึ้น หากเป็นก่อนนี้ที่เพิ่งเริ่มบรรจุที่โรงเรียนแรกนั่น มิมีนักเรียนชายคนใดได้รับการแจกกอดจากครู ยกเว้นเสียแต่นักเรียนผู้หญิง นั่นอาจเป็นเพราะอายุที่ห่างกันไม่มากระหว่างครูกับลูกศิษย์ในสมัยนั้น หากแต่ในตอนนี้ครูกล้าแจกกอดให้ลูกศิษย์มากขึ้นทั้งหญิงและชาย อาจเป็นเพราะวัยที่ห่างกันมาก ซึ่งเด็กๆ อาจจะเป็นรุ่นลูกรุ่นหลานของครูไปแล้ว
อีกอย่าง....อาจจะเพราะยังจำคำพูดที่พ่อครูบาสุทธินันท์ เคยบอกครูแอนเมื่อครั้งที่เราพบกันนานแล้วบอกครูแอนว่ากอดเค้าเถอะลูก ลูกศิษย์น่ะ บางคนเค้าอยากจะได้รับการกอดเพราะเค้าอาจจะไม่เคยมีพ่อหรือแม่ที่จะกอดเค้า บางคนมีพ่อแม่ แต่พ่อแม่ไม่เคยกอดเค้าเลยก็มี เราเป็นครูก็เป็นเหมือนพ่อเหมือนแม่เค้า ไม่เสียหลายหรอกลูก...ให้ความรักความอบอุ่นเค้าได้จากการกอดนะลูกนะ
และเมื่อวันปัจฉิมฯ ของโรงเรียนเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เด็กผู้ชายม. 3 จอมป่วนหลายรายเข้ามากราบที่ตักครูแอน และมีคนแรกที่ขอกอดจากครูแอนคือเจ้าอ๊อฟ และนั่นเป็นเหตุให้ครูแอนต้องแจกกอดให้เด็กๆ อีกหลายรายในวันนั้นเอง จนเป็นเหตุให้เพื่อนเจ้าอ๊อฟแอบแชะภาพส่งมาทางเฟสให้ครูแอนเมื่อกิจกรรมปัจฉิมนิเทศเสร็จสิ้นลง
และวันนี้...เจ้าก็อต......ก็เลยขอเหมือนเพื่อนๆ เค้าบ้าง....
ไม่มีความเห็น