ช่วงผ่อนพักกายา
เริ่มจากการทำโยคะ จัดสรีระตัวเอง สำรวจกายนอกเพื่อรับรู้พยาธิภาพที่เกิดขึ้น
เอนกายลงสู่พื้นเสมือนสู่อ้อมกอดของแม่แผ่นดิน รับรู้ถึงความชุ่มชื้นและอบอุ่นใจ
ปล่อยจิตใจให้เป็นอิสระไปกับเสียงเพลงแห่งความเบิกบานใจที่ น้องอ.นุ กรุณารวมรวมไว้ให้ นำมาใช้ได้สะดวก
ผ่อนคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อทุกส่วน ตามลมหายใจเข้า ออก และการหยุดขณะหนึ่ง
เพื่อมองความว่างเปล่าของรอยต่อของลมหายใจ รับรู้แล้วปล่อยวาง สำรวจและติดตามลมหายใจ
ไม่เพ่ง ไม่กำหนด เพียงตามรู้เฉยๆ ตามรู้ความคิดที่เกิดขึ้นเมื่อประสาทหูได้ยินเสียงเพลง จีวิน Band
ตามความรู้สึกที่เกิดขึ้นว่ารู้สึกอย่างไร รู้สึกเป็นนามธรรม สามารถเข้าถึงความรู้สึกตามดูเฉยๆ
ไม่ต้องคิดต่อเติมความรู้สึกนั้น เช่นเราอาจรู้สึกเบิกบาน ก็ตามดูความเบิกบาน
ไม่ต้องคิดปลุงแต่ว่าถ้าฉันเบิกบานฉันน่าจะลุกขึ้นไปลีลาศ หรือเหิรลม(อันนี้ปลุกแต่งเติมความคิด )
เพียงตามให้ทันความคิดเพียงดูเฉยๆ ดูความเบิกบาน หน้าตาเป็นเช่นนี้หนอ เบิกบาน แล้วปล่อยวางนิ่งๆ
มันยากที่จะห้ามความคิด และหากมีวาสนาย่อมเบิกบาน นิ่ง สงบได้เร็วเป็นธรรมดาและนำไปสู่สมาธิ
แม้เพียงแว๊บเดียวก็ไม่เป็นไร เพราะนั่นคือการเริ่มต้นนับหนึ่งแล้ว หากไม่มี1 จะนับให้ถึง 10 ได้อย่างไร
ฉันปล่อยให้ความเงียบคืบคลานเข้ามาและให้ทีมงานค่อยๆปิดไฟลงที่จะดวง
ฉันส่งเสียงระฆังดังแว่วขึ้น 1 ครั้ง และเฝ้ามองเพื่อนจิตอาสาด้วยความรู้สึกถึงความเงียบที่แผ่ไปทั่ว
เสียงกระซิบที่เกิดขึ้นบางจุดได้ถูกทำให้หายไปเมื่อเสียงกวาดขอบชามทองเหลือของฉันดังขึ้น
และปล่อยพลังความรัก ความปรารถนาดีออกไปตามเสียงเพลงแห่งชามและระฆัง
เสียงกรนของหลายคนดังขึ้นมาผสานเสียงเพลงและเสียงเพลงชามของฉันประหนึ่งวงดนตรี
ที่กำลังบรรเลงเพลงแห่งความสุข สงบ และผักผ่อน เพื่อเปิดประตูรับพลังความรู้สึกดีๆของทุกคนในที่นี้
ฉันปล่อยให้เพลงบรรเลงไปอีก 20 นาที แล้วค่อยๆหรี่เสียงเพลงนั้นลงเสียงเพลงยังคงกังวานแว่ว ห่างออกไปๆๆๆ
นำพาทุกดวงจิตให้ได้พบความสุข และผ่อนคลาย...........เสียงระฆังทองดังขึ้นเป็นจังหวะเสมือนหนึ่งมีใครสักคนกำลังเดินเข้ามาเสียงดังขึ้นเป็นจังหวะคล้ายเสียงกลองย่ำรุ่งเพื่อปลุกทุกดวงจิตให้ตื่นขึ้นมาและทุกคนขยับ
ฉันเตือนเพื่อนๆเบาๆให้คงนอนในท่าหงาย และสำรวจกายตนเอง ทำการยืดกล้ามเนื้อทุกส่วนด้วยการโยคะบนที่นอนเพื่อบอกอวัยวะทุกส่วนให้ตื่นขึ้นมารับความรู้ความสุข เบาสบายที่ยังคงเป็นพลังให้สู้ต่อไป หลังจากนั้นตะแคงขวา และค่อยๆยันกายลุกขึ้นนั่งอย่างมีสติ
เพื่อสุขภาพแบบองค์รวม ของเพื่อนจิตอาสาทุกคน เพื่อการแบ่งปันความสุขต่อไปยังเพื่อนที่รอการเยียวยา และนำ
พลังกลับไปเสริมให้เพื่อนผู้ป่วยในชุมชนของตนเอง และตามเตียงสำหรับผู้ป่วยที่พักรักษาตัวในโรงพยาบาล
วันนี้เรายังทำงานได้น้อย หากเทียบปริมาณกับเพื่อนผู้ป่วยโรคเรื้อรังของเรา แต่เราก็ได้มีความพยายามที่จะทำให้ดี
ที่สุดแล้ว ขอความเบิกบานใจจงบังเกิดแด่เพื่อนผู้ป่วยทุกดวงจิตวิญาณ และขอให้ได้เกิดความตระหนัก รู้ในตนเอง
หันมาดูแลสุขภาพของตนเองด้วยความรักและเข้าใจเพื่อเราทุกคนจะได้มีร่างกายที่แข็ง
ช่วยเหลือดูแลสุขภาพของครอบครัว ของคนที่เรารัก และออกไปช่วยเหลือเพื่อนๆที่อยู่รอบกายเราได้อย่างมีความสุข
อิ่มเอมและเบิกบาน ภายหลังเสร็จสิ้นกิจกรรมผ่อนพัก ตระหนักรู้ ด้วยบทเพลง จีวัน
ภาพสะท้อนกิจกรรม ตอนเริ่มต้น เพื่อความร่วมมือสู่การพัฒนากิจกรรม
หลังจัดระบบความคิด ปล่อยวาง และเข้าสู่กระบวนการระลึกรู้ลมหายใจของตนเอง
ปล่อยวางกายนี้ สู่อ้อมกอดของแผ่นดิน
แชร์ความรู้สึกสิ่งที่ได้ ข้อคิดกิจกรรมจากกิจกรรมเพื่อทบทวน ใคร่ครวญถึงความเบิกบาน และพลังของชีวิตที่ทุกคนสามารถนำออกมาให้กับตัวเอง โดยไม่ต้องรอรับจากให้
จงเป็นผู้ให้ที่ดี และการเป็นผู้ให้ย่อมนำสุขมาให้มากยิ่งกว่าการรับ
ความสุขของทุกคนคือความปรารถนาของเราจิตอาสามิตรภาพบำบัด
ประธานแกนนำภาคประชาชน ศูนย์ส่งเสริมจิตอาสามิตรภาพบำบัด กับการนำกิจกรรม ชิวๆๆ
ขอบพระคุณ
ท่าน ผศ.วัชรชัย วิริยะสุทธิวงศ์ (อ.นุ)
Watcharachai Wiriyasuttiwong
Deputy Director,
Innovative Learning Center, SWU
กับกำลังใจที่ท่านส่งมอบให้จิตอาสามิตรภาพบำบัดของโรงพยาบาลสมุทรสาครทุกๆท่าน
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านค่ะ
ด้วยความยินดีและปิติยิ่งครับคุณครูพี่ต้อย
ขอบคุณครับ...
ขอบพระคุณน้องอ.นุ
ที่มีส่วนช่วยให้ผู้ป่วยจิตอาสาได้เบิกบาน
วันที่ 7-8 เดือนนี้พี่ร่วมงานงานวันโรคไตของรพ.สมุทรสาคร
มีกิจกรรมทั้ง 2 วันค่ะ วันแรกเป็นกิจกรรมสมาธิ แบบเคลื่อนไหวมือ
โดยนำเพลงจีวันมาใช้ประกอบกิจกรรมในที่ร่มบริเวณงาน
วันที่ 2 ทำกิจกรรมผ่อนพักให้ผู้ป่วยในห้องประชุม
ขอให้น้องอ.นุ มีความสุข ทุกทิวาราตรีค่ะ