วันนี้จะเป็นวันทำงานวันแรกของเราในรอบนี้ หลังจากหยุดมา5วัน เป็นธรรมดาที่เราต้องเจอกับสิ่งที่อาจทำให้หงุดหงิดหรือเหนื่อยกายเหนื่อยใจบ้าง เพราะเราต้องไปดูแลคนที่มีความต้องการการดูแลที่เป็นพิเศษ อันเนื่องมาจากโรคภัยไข้เจ็บที่มารุมเร้า อาจต้องเจอกับอะไรก็แล้วแต่ ที่แม้จะชินชากับสิ่งที่เห็นแต่ไม่เคยสักครั้งที่จะไม่หวั่นไหวเมื่อได้พบเจอกับภาพเสมือนที่เราและพี่สาวได้ดูแลแม่ ณ สถานที่เดียวกันกับสิ่งที่พบเจอ มันกระตุกที่ใจทุกครั้ง เหมือนมีอะไรมาจุกที่ลำคอ บางครั้งก็จะหยุด ณจุดนั้น เพื่อให้ใจได้ซึมซับกับบางอย่างที่เป็นความประทับใจที่เห็น. บางภาพ ผู้เฒ่าชราสองคนประคองกันเดินพากันไปขึ้นรถ บางภาพลูกสาวเข็นรถเข็นพาแม่ผู้ชราซึ่งมีทีท่าอ่อนเพลียไปรับการตรวจจากแพทย์ ..... อีกหลายเรื่องราวที่เจอ มันตอกย้ำเราตลอดเวลาว่าที่ผ่านมาเราดูแลบุพการีของเราได้แค่ไหน ดีแล้วยัง
คำตอบที่ได้รับคือไม่ยังไม่ดีพอ แต่มันสายเกินไปแล้วนะ ตอนนี้มีใครให้เราต้องดูแล ท่านไม่อยู่แล้ว ....
คงอีกนานนะกว่าเราจะผ่านจุดนี้ไปได้ แต่เราจะพยายามจะคิดถึงสิ่งดีดีที่เราได้ทำแม้ในช่วงเวลาสั้นๆ
งานที่เราทำมีความสำคัญ เราคิดอย่างนั้นมาตลอดไม่เช่นนั้นคงไม่สามารถทำงานนี้มาได้ตลอดเวลา 20ปีที่ผ่านมา
เราไม่เคยคิดว่าสิ่งที่เราทำจะดีที่สุด. แต่เราคิดว่าเราจะทำให้ดีที่สุดเท่าที่ศักยภาพเราจะทำได้ เพื่อให้ผู้รับบริการของเราปลอดภัยที่สุดเมื่ออยู่กับเรา
เอาล่ะ อีกไม่กี่ชั่วโมงเราจะออกเดินทางนะ สองชั่วโมงจากบ้านถึงที่ทำงาน คงได้พบเจออะไรอีกเยอะ พลังที่สะสมมาห้าวันเอามาใช้นะเพื่อชีวิตอีกหลายชีวิต
วันนี้ลูกดูแลตัวเองนะ พรุุ่งนี้ปะก็กลับมาแล้ว อีกสองวันเราคงได้อยู่พร้อมหน้ากันนะคะ
Subah. 9.35น 7กพ56
ไม่มีความเห็น