เธอมาหาฉันเป็นครั้งที่ 2 แล้ว และบอกอย่างมั่นใจว่าจะมาหาอีกครั้ง
วันนี้เธออึดอัด กระสับกระส่ายและเดินวนไปมา ลัดเลาะกำแพงกั้นห้องไม่ต่างจากเด็กน้อยวัย4-5ขวบ
ที่น่าแปลกคือวันนี้เธอไม่สวมชุดนักศึกษา ท่าทีที่สายตาฉันโชคดีได้เห็นเธอแว๊บเข้ามา
ในขณะที่กำลังให้คำปรึกษาผู้ป่วยพิเศษที่มีกำลังใจเกินร้อย แต่สับสนในระบบความคิดของตนเอง
เนื่องจากเราสนทนากันมานานกว่า 20 นาทีแล้ว และท่าทีของผู้มาใหม่ทำให้รู้สึกว่าไฟในตัวเธอกำลังโหม
ฉํนขอตัวจากคู่สนทนาเดิม กล่าวขอโทษเบาๆแล้วปลายตาไปทางเด็กสาว
แววตาของคู่สนทนาบอกว่าเข้าใจในท่าทีของฉันเธอจึงขอลากลับ ส่วนฉันตรงเข้าไปกอดไหล่เด็กสาว
และถามเธอทันทีว่าหนูสบายดีนะ เธอส่ายหน้า และพยักหน้า รู้สึกเอ็นดูขึ้นมาทันที
จูงมือเธอเข้าห้องปรึกษา 2 ให้เธอนั้งหันหน้าเข้าหาภายในห้อง ส่วนฉันนั่งหันหน้าออกเพื่อ
ไม่ให้เธอต้องเผจิญกับผู้คนที่เดินผ่านไปมา และเพื่อให้รู้สึกถึงความเป็นส่วนตัว
ฉันจัดให้เธอนั่งสบายๆเธอนั่งบนโซฟาใหญ่ กว้่าง ให้เธอรู้สึกเหมือนนั่งในบ้านมากกว่าสำนักงาน
ส่วนฉันนั่งเก้าอี้กลมล้อหมุน เพื่อความคล่องตัวในการเคลื่อนไหว
เธอนั่งโยกตัว แขนทั้งสองปล่อยลงข้างลำตัว และทำท่าเหมือนจะเป็นเสายึดกายเธอเอง
ดูมันเกร็ง ฉันรู้ว่าเวลาต่อจากนี้เธอจะอึดอัดมากกับคำพูดที่กำลังออกจากปากเธอ
ฉํนเปลี่ยนที่นั่งไปนั่งข้างเธอ และ ชวนคุยเรื่องเล็บเธอสวยจัง ดีจังที่เธอไม่ทาเล็บ
แต่ปากฉันกลับถามว่าหนูไม่ชอบทาเล็บหรือ เธอส่ายหน้าและพูดกระท่อนกระแท่นว่า..ก็ชอบ
แต่เมื่อวานนี้ไปเที่ยวกันทั้งวันแล้ว เพื่อนหนูยังไม่พอใจ จะให้ไปต่อหนูเตือนเขาว่าวันนี้ทั้งวันแล้วพอเถอะ
ฉันมองเธอนิ่งๆ เธอบอกว่าหนูจะเป็นเอดส์ไหม
ฉันยิ้มให้เธอและจับมือเธอมากุมไว้พร้อมกับพูดว่ามันไม่ง่าย และไม่ยากที่เราจะติดเชื้อ
เธอพูดว่าหนูป้องกันแล้ว แต่หนูรู้ตัวว่าหนูไม่สบายบ่อยมาก
ฉันก็คุยไปเรื่อยเพื่อไม่ให้เธอกดดันโดยถามเธอว่า ปวดท้องหรือ
เธอบอกว่าเป็นเหมือนกัน
ถ่ายไหม ฉํนถาม เธอส่ายหน้า
เออ..ปวดหัวไหมลูก
เธอบอกว่าเป็นบางที
ฉันถามว่าเวลาปวดหัวเธอแก้ปัญหาอย่างไร
กินยา แล้วนอน
หายไหม
บางทีก็หาย แต่ตอนนี้ที่ไม่ไปโรงเรียนเพราะหนูหยุดตัวเองไม่ได้
เธอเปลี่ยนเรื่องแล้ว และคงพร้อมที่จะเล่าสาเหตุที่มาหาฉัน
เธอก้มหน้าเอามือลูบหน้าตัวเองสลับกับการเงยหน้าแล้วหลบสายตา
ฉํนปลอบใจ...ไม่เป็นไรลูก อยากร้องก็ร้องออกมาเลยนะ
บางครั้งน้ำตาอาจชำระบางอย่างในใจเราได้ รน้องไปเลยลูก
ฉันปล่อยให้เธอระบายด้วยการร้องไห้ราว 5 นาที เธอยังคงเช็ดน้ำตาไปร้องไห้ไป
ให้รู็สึกสงสารเพราะทราบเบื้องหลังชีวิตครอบครัวของเธอแม้เพียงบางเรื่อง
แต่มันสะท้อนให้เห็นความรักความอบอุ่นในครอบครัวที่ขาดหายไปของเธอตั้งแต่ยังเยาวนัก
ฉันค่อยๆพูดนำให้เธอระลึกรู้ลมหายใจตัวเอง ไม่นานเธอนิ่งสงบ และพยักหน้าเหมือนจะบอกว่าเธอพร้อมแล้ว
ฉํนยังคงเฝ้ามองเห็นและส่งสายตาช่วยเป็นกำลังใจเผื่อว่าแม้เธอไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไร กำลังใจที่ส่งออกไปเงียบๆอาจไปช่วยกระตุ้นให้เธอเข็มแข็ง และมีสติ พอที่จะแก้ปัญหาชีวิตได้ด้วยตนเองก็เป็นได้ จึงไม่ได้คาดหวังอะไรมากนัก แต่แล้วเธอก็เล่าเหตุการณ์ต่างๆให้ฟัง ฉันเพียงรับฟัง และจดจำรายละเอียด เพราะงานนี้เพียงฉันคนเดียวอาจช่วยเธอได้ไม่ดีพอ และเธอจำเป็นต้องจากไปพร้อมทิ้งปัญหาไว้ให้พวกเราขบคิดหาทางช่วยเธอก่อนที่พวกเราจะได้ร่วมกันชี้แนะทางออกให้เธอ โดยเธอขอให้ใครสักคนทำเรื่องให้หมอตรวจหาเชื้อให้เธอ เพราะเธอมาทำเรื่องเองแล้วแต่พยาบาลขอให้เธอรอไปอีก 3 เดือน กับ 15 วัน เมื่อมาวิเคราะห์หาเหตุผลและมีบางอย่างที่เธอปิดบังจนท.ด้านคลีนิคนิรนาม ว่ามันเป็ฯครั้งแรก เขาจึงให้เธอรอ แต่การรอนั้นกลับทำให้เธอทรมานจิตใจจนเรียกหนังสือไม่ได้ เพราะถ้าเธอได้บอกเล่าความจริงเช่นที่ได้บอกให้ฉันรู้ ฉํนมั่นใจว่าเธอจะได้รับการตรวจทันที และกินยาต้านทันทีเช่นกัน และไม่มีประโยชน์ที่จะไปตำหนิหรือพูดอะไรให้สะเทือนใจมากไปกว่านี้ จึงได้เก็บข้อมูลไว้เพื่อนำไปเติมเต็มในบทเรียนที่จะเปิดชั้นเรียนออนไลน์ให้กับวัยรุ่นของ 2 โรงเรียน..
ทักษะชีวิตอ่อนแอเกินก้าวไป
หนทางไหนก็ยากยิ่งคิดแก้ไข
วันที่พรากจิตวิญญาณร่วงเลยไป
เศร้าอาลัยถอยห่างก็ยากทน
เด็กเอ๋ยเด็กหัวใจอ่อนแอเกิน
ความบังเอิญหรือไรจึงคิดเตลิด
เกิดทั้งทีไม่เสียดายกายตนนี้
ได้แต่หนี หนี ไปในป่ากล
......
ไม่มีความเห็น