อนุทิน 118329


krutoiting
เขียนเมื่อ

เธอมาหาฉันเป็นครั้งที่ 2 แล้ว และบอกอย่างมั่นใจว่าจะมาหาอีกครั้ง

วันนี้เธออึดอัด กระสับกระส่ายและเดินวนไปมา ลัดเลาะกำแพงกั้นห้องไม่ต่างจากเด็กน้อยวัย4-5ขวบ

ที่น่าแปลกคือวันนี้เธอไม่สวมชุดนักศึกษา ท่าทีที่สายตาฉันโชคดีได้เห็นเธอแว๊บเข้ามา

ในขณะที่กำลังให้คำปรึกษาผู้ป่วยพิเศษที่มีกำลังใจเกินร้อย แต่สับสนในระบบความคิดของตนเอง

เนื่องจากเราสนทนากันมานานกว่า 20 นาทีแล้ว และท่าทีของผู้มาใหม่ทำให้รู้สึกว่าไฟในตัวเธอกำลังโหม

ฉํนขอตัวจากคู่สนทนาเดิม กล่าวขอโทษเบาๆแล้วปลายตาไปทางเด็กสาว

แววตาของคู่สนทนาบอกว่าเข้าใจในท่าทีของฉันเธอจึงขอลากลับ ส่วนฉันตรงเข้าไปกอดไหล่เด็กสาว

และถามเธอทันทีว่าหนูสบายดีนะ เธอส่ายหน้า และพยักหน้า รู้สึกเอ็นดูขึ้นมาทันที

จูงมือเธอเข้าห้องปรึกษา 2 ให้เธอนั้งหันหน้าเข้าหาภายในห้อง ส่วนฉันนั่งหันหน้าออกเพื่อ

ไม่ให้เธอต้องเผจิญกับผู้คนที่เดินผ่านไปมา และเพื่อให้รู้สึกถึงความเป็นส่วนตัว

ฉันจัดให้เธอนั่งสบายๆเธอนั่งบนโซฟาใหญ่ กว้่าง ให้เธอรู้สึกเหมือนนั่งในบ้านมากกว่าสำนักงาน

ส่วนฉันนั่งเก้าอี้กลมล้อหมุน เพื่อความคล่องตัวในการเคลื่อนไหว

เธอนั่งโยกตัว แขนทั้งสองปล่อยลงข้างลำตัว และทำท่าเหมือนจะเป็นเสายึดกายเธอเอง

ดูมันเกร็ง ฉันรู้ว่าเวลาต่อจากนี้เธอจะอึดอัดมากกับคำพูดที่กำลังออกจากปากเธอ

ฉํนเปลี่ยนที่นั่งไปนั่งข้างเธอ และ ชวนคุยเรื่องเล็บเธอสวยจัง ดีจังที่เธอไม่ทาเล็บ

แต่ปากฉันกลับถามว่าหนูไม่ชอบทาเล็บหรือ เธอส่ายหน้าและพูดกระท่อนกระแท่นว่า..ก็ชอบ

แต่เมื่อวานนี้ไปเที่ยวกันทั้งวันแล้ว เพื่อนหนูยังไม่พอใจ จะให้ไปต่อหนูเตือนเขาว่าวันนี้ทั้งวันแล้วพอเถอะ

ฉันมองเธอนิ่งๆ เธอบอกว่าหนูจะเป็นเอดส์ไหม

ฉันยิ้มให้เธอและจับมือเธอมากุมไว้พร้อมกับพูดว่ามันไม่ง่าย และไม่ยากที่เราจะติดเชื้อ

เธอพูดว่าหนูป้องกันแล้ว แต่หนูรู้ตัวว่าหนูไม่สบายบ่อยมาก

ฉันก็คุยไปเรื่อยเพื่อไม่ให้เธอกดดันโดยถามเธอว่า ปวดท้องหรือ

เธอบอกว่าเป็นเหมือนกัน

ถ่ายไหม ฉํนถาม เธอส่ายหน้า

เออ..ปวดหัวไหมลูก

เธอบอกว่าเป็นบางที

ฉันถามว่าเวลาปวดหัวเธอแก้ปัญหาอย่างไร 

กินยา แล้วนอน

หายไหม

บางทีก็หาย แต่ตอนนี้ที่ไม่ไปโรงเรียนเพราะหนูหยุดตัวเองไม่ได้

เธอเปลี่ยนเรื่องแล้ว และคงพร้อมที่จะเล่าสาเหตุที่มาหาฉัน

เธอก้มหน้าเอามือลูบหน้าตัวเองสลับกับการเงยหน้าแล้วหลบสายตา

ฉํนปลอบใจ...ไม่เป็นไรลูก อยากร้องก็ร้องออกมาเลยนะ

บางครั้งน้ำตาอาจชำระบางอย่างในใจเราได้ รน้องไปเลยลูก

ฉันปล่อยให้เธอระบายด้วยการร้องไห้ราว 5 นาที เธอยังคงเช็ดน้ำตาไปร้องไห้ไป

ให้รู็สึกสงสารเพราะทราบเบื้องหลังชีวิตครอบครัวของเธอแม้เพียงบางเรื่อง 

แต่มันสะท้อนให้เห็นความรักความอบอุ่นในครอบครัวที่ขาดหายไปของเธอตั้งแต่ยังเยาวนัก

ฉันค่อยๆพูดนำให้เธอระลึกรู้ลมหายใจตัวเอง ไม่นานเธอนิ่งสงบ และพยักหน้าเหมือนจะบอกว่าเธอพร้อมแล้ว

ฉํนยังคงเฝ้ามองเห็นและส่งสายตาช่วยเป็นกำลังใจเผื่อว่าแม้เธอไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไร กำลังใจที่ส่งออกไปเงียบๆอาจไปช่วยกระตุ้นให้เธอเข็มแข็ง และมีสติ พอที่จะแก้ปัญหาชีวิตได้ด้วยตนเองก็เป็นได้ จึงไม่ได้คาดหวังอะไรมากนัก แต่แล้วเธอก็เล่าเหตุการณ์ต่างๆให้ฟัง ฉันเพียงรับฟัง และจดจำรายละเอียด เพราะงานนี้เพียงฉันคนเดียวอาจช่วยเธอได้ไม่ดีพอ และเธอจำเป็นต้องจากไปพร้อมทิ้งปัญหาไว้ให้พวกเราขบคิดหาทางช่วยเธอก่อนที่พวกเราจะได้ร่วมกันชี้แนะทางออกให้เธอ โดยเธอขอให้ใครสักคนทำเรื่องให้หมอตรวจหาเชื้อให้เธอ เพราะเธอมาทำเรื่องเองแล้วแต่พยาบาลขอให้เธอรอไปอีก 3 เดือน กับ 15 วัน เมื่อมาวิเคราะห์หาเหตุผลและมีบางอย่างที่เธอปิดบังจนท.ด้านคลีนิคนิรนาม ว่ามันเป็ฯครั้งแรก เขาจึงให้เธอรอ แต่การรอนั้นกลับทำให้เธอทรมานจิตใจจนเรียกหนังสือไม่ได้ เพราะถ้าเธอได้บอกเล่าความจริงเช่นที่ได้บอกให้ฉันรู้ ฉํนมั่นใจว่าเธอจะได้รับการตรวจทันที และกินยาต้านทันทีเช่นกัน  และไม่มีประโยชน์ที่จะไปตำหนิหรือพูดอะไรให้สะเทือนใจมากไปกว่านี้ จึงได้เก็บข้อมูลไว้เพื่อนำไปเติมเต็มในบทเรียนที่จะเปิดชั้นเรียนออนไลน์ให้กับวัยรุ่นของ 2 โรงเรียน..

ทักษะชีวิตอ่อนแอเกินก้าวไป

หนทางไหนก็ยากยิ่งคิดแก้ไข

วันที่พรากจิตวิญญาณร่วงเลยไป

เศร้าอาลัยถอยห่างก็ยากทน

เด็กเอ๋ยเด็กหัวใจอ่อนแอเกิน

ความบังเอิญหรือไรจึงคิดเตลิด

เกิดทั้งทีไม่เสียดายกายตนนี้

ได้แต่หนี หนี ไปในป่ากล

......




ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท