เดินเร็วเดินช้า
แม้ว่าจะไม่ใช่ช่วงหน้าฝน แต่ก็มีบางครั้งเหมือนกันที่มีพายุเข้า และฝนตกลงมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ซึ่งคนส่วนใหญ่นั้นก็ต้องวิ่งหลบฝน ว่าจะไม่ได้ช่วยอะไรมากมายเพราะฝนที่ตกมานั้นก็เป็นฝนห่าใหญ่ ที่แม้จะรีบวิ่งอย่างไรก็ย่อมจะเปีย...
กเช่นเดิม
ผู้คนมากมายที่วิ่งฝ่าฝนกันอยู่นั้น มีชายหนุ่มผู้หนึ่งนามว่า “อาหมิง” อาหมิงเป็นพ่อค้าขายซาลาเปาอยู่ที่ตลาด ซึ่งในวันนั้นเขาปิดร้านเพื่อไปทำธุระในต่...างเมือง และเมื่อกลับมาฝนก็ตกพอดี
ตอนที่ฝนตกนั้น อาหมิงเดินท่ามกลางสายฝนไปเรื่อยๆ เหมือนกับว่าไม่มีหยาดฝนตกลงมาที่ตัวของเขาเลยแม้แต่น้อย ที่สำคัญบนตัวของเขานั้น ไม่มีเครื่องกันฝนเลย ไม่ว่าจะเป็นร่มหรือเสื้อกันฝนก็ตาม
ในจังหวะนั้นเองเอาเหมาซึ่งเป็นเพื่อนของเขานั้นกำลังวิ่งฝ่าฝนมา ก็เห็นสหายของตนเองเดินอย่างไม่อนาทรร้องใจจึงเอ่ยขึ้นมาว่า
“อาหมิง..ทำไมเจ้าจึงมีเดินเล่า ฝนตกหนักออกอย่างนี้”
เมื่ออาหมิงได้ฟังคำกล่าวนั้นจึงได้หันไปกล่าวตอบว่า
“ฝนตกหนักเช่นนี้ ไม่ว่าจะวิ่งหรือเดินช้าๆ ก็ย่อมจะเปียกเหมือนกันหมดแล้วข้าจะวิ่งไปทำไมเล่า หากว่าข้าวิ่งไปแล้วนั้นเกิดลื่นล้มขึ้นมา แข้งขาเคล็ดไม่แย่ไปกันใหญ่หรือ ก็เหมือนกับตอนที่เรากำลังมีปัญหาหนักนั่นแหล่ะ การรีบร้อนก็อาจจะทำให้ผิดพลาดได้ง่าย แต่หากคิดว่าคิดๆ ค่อยๆ ทำ แม้ว่าจะเปียกหน่อย แต่ก็ช่วยทำให้เราไม่บาดเจ็บเสียหายมากนัก”
คติสอนใจ : “เมื่อเปียกแล้วรีบร้อนไปก็ไร้ประโยชน์ เมื่อเกิดปัญหาแล้วร้อนรนไปก็ไร้ค่า”ดูเพิ่มเติม
ดูเพิ่มเติม