- คงเพราะวัยของชีวิตมันสูงขึ้น , หรือดูจิตเก่งขึ้น , หรือความเมตตา ที่เคยเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ไปถึงท่านผู้อื่นนั้น มันเริ่มกระจายมาถึงตนเองบ้างแล้วก็เป็นได้นะครับ....
- เป็นบทแผ่เมตตาใหม่ ในทำนองที่ว่า ... ขอให้ตนเองเป็นสุข ๆ เถิด...ทำนองนั้นน่ะครับ.....
- อดแปลกใจไม่ได้ครับว่า...แล้วที่ผ่าน ๆ มา....ผมแผ่เมตตา หรือไปรักและช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ท่านอื่น ๆ ได้อย่างไรกัน...ในเมื่อ ต่อตนเอง ก็ไม่ค่อยที่จะรักตนเอง หรือเอาใจใส่ตนเองสักเท่าใดนักน่ะครับ.....
- วันนี้...เดือนนี้....ปีนี้...ไปข้างหน้า....Forever ......
- ผมคงจะรักและเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์และสรรพสัตว์ทั้งหลาย..ได้ “ ละเอียด ” ขึ้นนะครับ...."
ผู้ที่รักตนเองไม่ได้หมายถึงผู้ที่ทำอะไรหรือแสวงหาประโยชน์อะไรทางวัตถุ ลาภ ยศ สรรเสริญ หรือทำตัวให้เป็นที่รักใคร่นิยมชมชอบแก่ผู้อื่น ... แต่อยู่ที่การมีเมตตาต่อความรู้สึกของตนเอง ลดความเป็นอกุศลในจิตให้น้อยลง ละการเพ่งโทษสิ่งอื่นหรือผู้อื่น เมื่อจิตผ่องใสเบิกบาน เท่ากับว่าเราได้สร้างพื้นที่ความสุขภายในพร้อมเผื่อแผ่เมตตากรุณาให้ผู้อื่นต่อไป ความรักที่ละเอียดประณีตที่ไม่ได้เจือกิเลส "หลง"
๕ ตุลาคม ๒๕๕๕
ไม่มีความเห็น