นวัตกรรมการแก้ปัญหานักเรียนอ่านหนังสือแล้วไม่เก็บเข้าที่โดยการใช้นิทานของนักเรียนชั้นอนุบาล
ปัจจุบันจากการจัดการเรียนการสอนในห้องเรียนที่มีประสิทธิภาพแล้ว แหล่งการเรียนรู้นอกห้องเรียนก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะห้องสมุดซึ่งถือเป็นแหล่งการเรียนรู้ที่ดีที่สุดของนักเรียนในการศึกษาค้นคว้าหาความรู้นอกห้องเรียนด้วยตนเอง อีกทั้งยังเป็นพื้นฐานของการเรียนรู้ตลอดชีวิต โรงเรียนเซนต์ฟรังซีสซาเวียร์คอนแวนต์ยังเล็งเห็นความสำคัญดังกล่าว จึงได้แบ่งห้องสมุดออกเป็น 3 ระดับด้วยกันคือ ห้องสมุดอนุบาล ห้องสมุดประถม ห้องสมุดมัธยม เพื่อเหมาะสมกับการเรียนรู้ของนักเรียนในแต่ละช่วงวัย โดยมีการพัฒนาปรับปรุงสถานที่ ทรัพยากรสารนิเทศ และบรรยกาศของห้องสมุดอยู่อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เพื่อการพัฒนานักเรียนทั้งในด้านความรู้ ความคิด จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ ให้เป็นไปอย่างมีระบบและมีประสิทธิภาพต่อไป
ดิฉันได้รับผิดชอบงานของฝ่ายบริการห้องสมุดอนุบาลมาเป็นเวลานาน 2 ปีแล้ว ในการสอนเรื่องการใช้ห้องสมุดอนุบาลและการส่งเสริมให้เด็กรักการอ่านโดยเฉพาะการใช้บริการห้องสมุดอนุบาล จึงมีโอกาสได้ใกล้ชิดและสัมผัสกับผู้ใช้บริการของห้องสมุดในหลายๆ รูปแบบที่แตกต่างกัน บางรูปแบบเป็นผู้ใช้ที่น่ารัก ไม่สร้างปัญหาให้กับผู้ให้บริการ บางรูปแบบเป็นผู้ใช้ที่ตระหนักในคุณค่าของห้องสมุด ใช้ห้องสมุดอย่างทะนุถนอม มองทรัพยากรของห้องสมุดเป็นสมบัติของส่วนรวม และบางรูปแบบเป็นผู้ใช้ที่ไม่มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ เมื่อใช้บริการแล้วไม่เก็บหนังสือเข้าที่ของห้องสมุด ซึ่งในบางครั้งถึงกับทำให้ผู้ให้บริการเกิดความท้อแท้ ในการให้บริการ ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นกับผู้เรียน จากการใช้บริการห้องสมุดและจากการสังเกตพฤติกรรมในห้องเรียน พบว่า นักเรียนมีปัญหาการอ่านหนังสือแล้วไม่เก็บเข้าที่ให้เรียบร้อยในห้องสมุดอนุบาล ซึ่งเกี่ยวกับการใช้บริการห้องสมุดของนักเรียนในกลุ่มดังกล่าวจะมีการแก้ไขพัฒนาเพื่อช่วยเหลือผู้เรียน จากการพัฒนานวัตกรรมและนำไปทดลองใช้ ดิฉันได้นำนวัตกรรมไปใช้โดยการเตรียม กระดาษในการฉีกกระดาษเป็นรูปตัวละครตามหมวดหมู่หนังสือในห้องสมุดอนุบาล ซึ่งเป็นการเรียนการสอนผ่านสือนิทาน เป็นการออกแบบให้ครูผู้สอนและผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์กันในห้องเรียนและมีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จากการนำเสนอหมวดหมู่หนังสือด้วยตัวละคร และนำตัวละครตามหมวดหมู่ทั้ง 11 ตัว นำมาเล่านิทานให้ผู้เรียนฟัง จากนิทานเรี่อง “นิทานหลงทาง” ทำให้ผู้เรียนสามารถจดจำตัวละครตามหมวดหมู่หนังสือได้บ้าง หลังจากที่ฟังนิทานแล้ว ที่สำคัญผู้เรียนสัญญาว่าจะไม่พาหนังสือนิทานหลงทางเหมือนในนิทานที่เล่าในวันนี้อีก และจะเก็บหนังสือให้เข้าที่และเรียบร้อยค่ะ วิธีนี้ก็ใช้ได้ผลดีพอควร แต่ปัญหาของครู คือเวลาในการทำนวัตกรรม ...............
จากการยกประเด็นใหหัวข้อสีฟ้าแล้ว ในการนำเสนองานในวันนั้น ดิฉันได้ข้อคิดจากอาจารย์ รศ. ดร. รสสุคนธ์ มกรมณี มากมาย ที่ต้องนำมาปรับปรุงเช่น เรื่องการเสียเวลาในการทำนวัตกรรมการแก้ปัญหานักเรียนอ่านหนังสือแล้วไม่เก็บเข้าที่โดยการใช้นิทาน ของนักเรียนชั้นอนุบาล โดยการเตรียม กระดาษในการฉีกกระดาษเป็นรูปตัวละครตามหมวดหมู่หนังสือในห้องสมุดอนุบาล ซึ่งเป็นการเรียนการสอนผ่านสือนิทานและการสาธิต เป็นการออกแบบให้ครูผู้สอนและผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์กันในห้องเรียนได้ ในการทำนวัตกรรมนี้ อาจจะเป็นนการเสียเวลาของตัวครูเอง เพราะครูก็มีงานเยอะท้วมหัวอยู่แล้วอย่างที่อาจารย์บอกเลยค่ะ ตัวการ์ตูนแต่ละหมวดหมู่มันซับซ้อนเกินไป อย่างที่อาจารย์นันำให้เป็นแค่รูป วงกลม สี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม และอื่นๆ ตามสี เด็กคงจะจำได้ง่ายกว่านะค่ะ จะนำไปปนับปรุงค่ะ
นวัตกรรม
ในการฉีกกระดาษเป็นรูปตัวละครตามหมวดหมู่หนังสือในห้องสมุดอนุบาล แล้วนำมาเล่านิทานเรื่องนิทานหลงทาง
เมื่อเล่าจบแล้วก็นำตังละครมาติดตรงตามหมวดหมู่หนังสือ
เพื่อสื่อให้ผู้เรียนอ่านหนังสือแล้วจะต้องเก็บหนังสือให้เข้าที่
และเรียบร้อยค่ะ
http://learners.in.th/file/thunyalak_tin/view/72338
ไม่มีความเห็น