ใบความรู้เรื่อง ภาษาบาลี และสันสกฤตในภาษาไทย
รายวิชา ท30205 หลักภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปี่ที่ 6
*********************************************************
ประวัติภาษาบาลีและภาษาสันสกฤต
ภาษาบาลีและภาษาสันสกฤต จัดอยู่ภาษาอินเดีย-ยุโรป ซึ่งเป็นตระกูลภาษามีวิภัตติปัจจัยพวกอารยันได้เข้ามาในอินเดีย เมื่อประมาณ 1,500 ปี ก่อนคริสตศักราช ( ปรีชา ทิชินพงศ์,2534 : 1 ) นักปราชญ์ทางภาษาได้แบ่งภาษาตระกูลอารยันในอินเดียออกเป็น 3 สมัย ดังนี้
1. ภาษาสมัยเก่า หมายถึงภาษาที่ใช้ในคัมภีร์พระเวท ได้แก่ คัมภีร์ฤคเวท ยชุรเวท สามเวท และอาถรรพเวท รวมตลอดทั้งคัมภีร์อุปนิษัท ซึ่งเป็นคัมภีร์สุดท้ายของคัมภีร์พระเวท (เวทานต์) ภาษาที่ใช้ในคัมภีร์ต่างๆ เหล่านี้จะมีความเก่าแก่ลดหลั่นกันมาตามลำดับ ภาษาสันสกฤตก็จัดอยู่ในสมัยนี้ด้วย
2. ภาษาสมัยกลาง ได้แก่ ภาษาปรากฤตซึ่งเป็นภาษาถิ่นของชาวอารยันที่ใช้กันท้องถิ่นต่างๆของประเทศอินเดีย เช่นภาษามาคธี มหาราษฏรี เศารเสนี เป็นต้น ภาษาในสมัยนี้มีลักษณะโครงสร้างทางเสียง และนอกจากจะเรียกว่าภาษาปรากฤตแล้วยังมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “ภาษาการละคร”เพราะเหตุที่นำไปใช้เป็นภาษาพูดของตัวละครบางตัวในบทละครสันสกฤตด้วย
3. ภาษาสมัยใหม่ ได้แก่ ภาษาต่างๆในปัจจุบัน เช่น ภาษาฮินดี เบงกาลี ปัญจาบี มราฐี เนปาลี เป็นต้น ภาษาเหล่านี้แม้จะเข้าใจกันว่าสืบมาจากภาษาปรากฤต แต่มีลักษณะของภาษาผิดกันมาก เพราะมีภาษาตระกูลอื่นที่ไม่ได้สืบมาจากภาษาของชาวอารยันเข้าไปปะปนกันมากบ้าง น้อยบ้างแล้วแต่เหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์
พยัญชนะในภาษาบาลี มี 33 ตัว ดังนี้
แถวที่ |
1 |
2 |
3 |
4 |
5 |
วรรค กะ |
ก |
ข |
ค |
ฆ |
ง |
วรรค จะ |
จ |
ฉ |
ช |
ฌ |
ญ |
วรรค ฏะ |
ฏ |
ฐ |
ฑ |
ฒ |
ณ |
วรรค ตะ |
ต |
ถ |
ท |
ธ |
น |
วรรค ปะ |
ป |
ผ |
พ |
ถ |
ม |
เศษวรรค |
ย ร ล ว ส ห ฬ อัง |
สระในภาษาบาลี มี 8 ตัว ดังนี้
สระมี 8 ตัว คือ อะ อา อิ อี อุ อู เอ โอ
ตารางเปรียบเทียบภาษาบาลี – สันสกฤต
ภาษาบาลี |
ภาษาสันสกฤต |
1. สระมี 8 ตัว คือ อะ อา อิ อี อุ อู เอ โอ
|
1. สระมี 14 ตัว เพิ่มจากบาลี 6 ตัว คือ ฤ ฤๅ ฦ ฦๅ ไอ เอา |
2. มีพยัญชนะ 33 ตัว (พยัญชนะวรรค) |
2. มีพยัญชนะ 35 ตัว เพิ่มจากภาษาบาลี 2 ตัว คือ ศ ษ (แสดงว่าคำที่มี ศ ษ เป็นภาษาสันสกฤต *ยกเว้น ศอก ศึก เศิก โศก เศร้า เป็นภาษาไทยแท้) |
3. มีตัวสะกดตัวตามแน่นอน เช่น กัญญา จักขุ ทักขิณะ ปุจฉา อัณณพ คัมภีร์ เป็นต้น |
3. มีตัวสะกดและตัวตามไม่แน่นอน เช่น กันยา จักษุ ทักษิณ ปฤจฉา วิทยุ อัธยาศัย เป็นต้น |
4. นิยมใช้ ฬ เช่น กีฬา จุฬา ครุฬ เป็นต้น (จำว่า กีฬา-บาลี) |
4. นิยมใช้ ฑ เช่น กรีฑา จุฑา ครุฑ (จำว่า กรีฑา-สันสกฤต) |
5. ไม่นิยมควบกล้ำและอักษรนำ เช่น ปฐม มัจฉา สามี มิต ฐาน ปทุม ถาวร กิริยา |
5. นิยมควบกล้ำและอักษรนำ เช่น ประถม มัตสยา สวามี มิตร สถาน ประทุม สถาวร เปรม กริยา |
6. นิยมใช้ "ริ" เช่น ภริยา จริยา อัจฉริยะ เป็นต้น |
6. นิยมใช้ รร (รอหัน) เช่น ภรรยา จรรยา อัศจรรย์ เป็นต้น เนื่องจากแผลงมาจาก รฺ (ร เรผะ) เช่น วรฺณ = วรรณ ธรฺม = ธรรม * ยกเว้น บรร เป็นคำเขมร |
7. นิยมใช้ ณ นำหน้าวรรค ฏะ เช่น มณฑล ภัณฑ์ หรือ ณ นำหน้า ห เช่น กัณหา ตัณหา |
7. นิยม "เคราะห์" เช่น วิเคราะห์ สังเคราะห์ อนุเคราะห์ |
มีหลักสังเกต ดังนี้
ก. พยัญชนะตัวที่ 1 , 3 , 5 เป็นตัวสะกดได้เท่านั้น (ต้องอยู่ในวรรคเดียวกัน)
ข. ถ้าพยัญชนะตัวที่ 1 สะกด ตัวที่ 1 หรือตัวที่ 2 เป็นตัวตามได้ เช่น สักกะ ทุกข สัจจ
ปัจฉิม สัตต หัตถ บุปผา เป็นต้น
ค. ถ้าพยัญชนะตัวที่ 3 สะกด ตัวที่ 3 หรือ 4 เป็นตัวตามได้ในวรรคเดียวกัน เช่น
อัคคี พยัคฆ์ วิชชา อัชฌา พุทธ คพภ (ครรภ์)
ง. ถ้าพยัญชนะตัวที่ 5 สะกด ทุกตัวในวรรคเดียวกันตามได้ เช่น องค์ สังข์ องค์ สงฆ์
สัมปทาน สัมผัส สัมพันธ์ สมภาร เป็นต้น
จ. พยัญชนะบาลี ตัวสะกดตัวตามจะอยู่ในวรรคเดียวกันเท่านั้นจะข้ามไปวรรคอื่นไม่ได้
ไม่มีความเห็น