น้องธรรมทิพย์เข้าใจถูกแล้วค่ะ..เยาวชนในสถานะเช่นนี้..ย่อมต้องการความเข้าใจที่ละเอียดอ่อน..คงไม่อยากได้ฟังการพูดที่ตอกย้ำในด้านลบ..
วิธีหนึ่งที่เคยเห็นมา คือ ให้เยาวชนที่กลับตัวกลับใจ มาเล่าประสบการณ์ดีๆเป็นบทเรียนรู้ .. เปิดโอกาสให้ได้พูดคุยระหว่างกัน..ให้เกิดความหวังและกำลังใจ..เด็กคุยกันเอง..แนบเนียนกว่านะคะ..วิทยากรผู้ใหญ่อาจมีบทบาทเพียงผู้หนุนเสริม..
สมาธิเคลื่อนไหวจากภายนอกสู่ภายใน แล้วภายในสู่ภายนอก. เพียงคิดก็น่าสนุก
เริ่มต้นจากการเรียนรู้สิ่งที่เกิดกีบกาย. เช่น. ให้เดินโดยปิดวาจา เก็บวงสายตา. เริ่มจากเดินช่าแล้วเพ่ิมความเร็วขึ้น แล้วให้ปรับจังหวะการเดินที่พอดีสำหรับตน. ให้สังเกตสภาวะที่เกิดกับร่างกายเชนใจเต้นแรงแล้วค่อยๆ. เบาลง. เหงื่อออกแล้วค่อยๆ. แห้ง ร้อนแล้วเย็น. แล้วนั่งสมาธิสั้นๆ. หรืือฝึกโยคะอาสนะท่าง่ายๆ. แล้วจึงมาเรียนรู้เรื่องใจที่สงบ. ดูหนังสั้นๆ แล้วสังเกตสิ่งที่เกิดกับตน