อนุทิน 106483


วิรัตน์ คำศรีจันทร์
เขียนเมื่อ

๒๐๖. นานทีติดต่อกันก็ดีใจและมีความสุขดีเหมือนกัน

ผมกับเพื่อนๆที่ชอบเจ้ากี้เจ้าการกับการทำกิจกรรมสำหรับหมู่เพื่อน มักคอยติดต่อให้เพื่อนๆได้ติดต่อกันหรือทำสิ่งต่างๆด้วยกัน หรืออย่างน้อยที่สุดก็คอยกระจายข่าวบอกสารทุกข์สุขดิบให้กัน นับแต่เพื่อนเรียนชั้นประถมศึกษา มัธยม เพาะช่าง กระทั่งทุกกลุ่มในระดับตรี โท เอก ยกเว้นที่ประสานมิตรที่เดียวเพราะผมเรียนภาคค่ำคู่กับการเรียนปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยมหิดล และเลือกวิชาโทที่ต่างจากกลุ่มเอกศิลปศึกษาด้วยกัน ต้องสลับการเดินเรียนกับคนต่างกลุ่ม ทำให้ไม่ได้ความสนิทสนมกับกลุ่มผู้เรียนในวิชาต่างๆที่เลือก sec เดียวกันในแต่ละภาคการศึกษา หากไม่ได้เจอกันก็มักหาโอกาสโทรศัพท์ติดต่อกันไว้ รวมทั้งบางครั้งก็ต่อว่าเพื่อนที่ไม่ค่อยติดต่อกันกับคนอื่นๆ แต่พอนานเข้าก็ชักไม่ขยันทำอย่างเดิม อีกทั้งเริ่มวางแผนชีวิตออกจากกรุงเทพฯและเชื่อว่าชีวิตการงานหลังจากนี้คงต้องการสมาธิมากกว่าเดิม การทำหน้าที่ติดต่อสร้างความผูกพันให้กับเพื่อนๆก็ชักจะซาไป ซึ่งก็คิดว่าดีเหมือนกันว่า ไม่ต้องติดต่อ ไปมาหาสู่ และรับรู้สารทุกข์สุกดิบกันให้มากนักก็ดีเหมือนกัน เมื่อเกิดความพลัดพรากกันจะได้ไม่ทุกข์มาก ดังนั้น หลังจากเรื่องราวในการติดต่อกับเพื่อนๆทั้งหลายค่อยๆพัฒนาการไปกับกระบวนการเติบโตงอกงามของชีวิต เริ่มตั้งแต่การถามไถ่เมื่อเจอกันหลังจบมัธยมและไกลจากบ้านกันไปว่าไปเรียนต่อยู่ไหน เมื่อตอนจบมัธยม เป็นทำงานที่ไหน บวชเมื่อไหร่ที่ไหนเมื่อจบมหาวิทยาลัย แต่งงานและมีลูกแล้วยังเมื่อทำงานและย่างเข้าเบญจเพส ลูกเรียนที่ไหนดี เมื่อครอบครัวเริ่มเป็นปึกแผ่นและเจอกันได้ยาก กระทั่งเริ่มหายกันเป็นปีๆ และเมื่อติดต่อกันอีกที ต่างก็เป็นผู้ใหญ่ มีบาทบาทในการทำงานและต่างมีภาระความรับผิดชอบในชีวิตรุงรัง คุยกันก็ไม่ค่อยมีเวลาละเลียดเหมือนเมื่อก่อน พอเงยหน้าขึ้นจากงานและคิดว่าเพิ่งได้เจอกันเมื่อไม่นานก็กลับกลายเป็นว่าไม่ได้เจอกันเสียหลายปี ซึ่งกระบวนการของชีวิตก็ทำให้ได้ค่อยๆเรียนรู้และเข้าใจความเป็นปรกติธรรมดาของสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างนี้ แต่เมื่อต้นเดือนนี้ ก็มีเพื่อนรักและคิดถึงกันอยู่เสมอ ๒-๓ คน ซึ่งหายเงียบไปเป็นปี โทรศัพท์มาหา ทำให้ดีใจ และยิ่งได้ความดีใจไปด้วยเมื่อทุกคนติดต่อมาเพราะกำลังมีความสุข คนหนึ่งถึงรอบได้ย้ายจังหวัดการทำงาน ๒ คนลูกสอบเข้าธรรมศาสตร์และมหิดลได้ และอีกคนหนึ่ง ลูกสองคนกำลังจะสำเร็จการศึกษาเป็นหมอฟันกับเป็นนายทหารอากาศ ส่วนตนเองก็สอบป้องกันวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกและได้รับการอนุมัติสำเร็จการศึกษาแล้ว ทุกคนรู้สึกได้ถึงการมีความสุขอย่างล้นอก อยากแบ่งปันความสุขและความภาคภูมิใจ ซึ่งก็ทำให้ผมเองได้ความสุขอย่างประหลาดไปด้วย



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท