ต้องนั่งเขียนโครงการปีงบ ๕๖ ด้วยความจำใจ (จำใจอยาก และไม่อยากทำ) จำได้ว่า ๒ - ๓ ปีที่ผ่านมา ทำโครงการแล้วเหนื่อยใจมาก ๆ เหนื่อยตั้งแต่ต้องมานั่งคิดว่าจะทำโครงการอะไร ทำให้ใคร ทำเพื่ออะไร กว่าแต่ละโครงการ แต่ละปีจะเสร็จ ก็เล่นเอาฟังคำบ่น ด่า และตำหนิ เป็นกระบุงโกย แต่สุดท้ายผลของโครงการก็เป็นที่พอใจของหลาย ๆ ฝ่ายอยู่ดี... แต่ใครจะรู้บ้างว่า คนคนนี้ เหนื่อยและเบื่อกับการทำโครงการเป็นอย่างยิ่ง
วันนี้ ปีนี้ ก็ต้องทำอีกละ คิดกลับไปกลับมา คิดมุมนั้นมุมนี้ แล้วนั่งลงเขียน ก็คิดว่าไม่ยากหรอกถ้าจะให้เขียนอย่างเดียว ที่ยากที่สุดคือ การจะหาคนที่มาเข้าใจร่วมกันยากจริง ๆ ยิ่งเจอผู้ใหญ่ที่ไม่ค่อยเข้าใจอะไรแล้วนะ อ่านยังไม่จบ ตีความยังไม่แตกก็โหวกเหวกนี่แหละปัญหาหนักสุด...
อีกอย่างที่ทำโครงการทีไร ก็รู้สึกขัดทุกที นั่นคือ การกำหนดงบประมาณ สุดท้ายแล้วต้องมีการขมวดความไว้ว่า "ทั้งนี้ให้ถัวเฉลี่ยจ่ายได้ตามความเป็นจริง กรณียอดใดยอดหนึ่งไม่พอจ่ายแต่ไม่เกินวงเงินงบประมาณที่ได้รับอนุมัติ" ซึ่งความเป็นจริงที่ผ่านมา และใคร ๆ ทั้งประเทศก็รู้กันว่า ไม่เคยมียอดใดถัวจ่ายได้เลย จริง ๆ แล้วการทำอะไรต่าง ๆ ก็เป็นที่น่าอึดอัดมากมาย เมื่อไรระบบงบประมาณไทย และกรุงเทพมหานคร จะพัฒนาไปในทิศทางที่ดีกว่านี้นะ เห็นป้องกันกันแทบตาย แต่สุดท้าย ทุจริตกันโจ๋งครึ่ม กินกันเป็นว่าเล่น
ขอบอกไว้ตรงนี้ว่า การทำโครงการแต่ละครั้ง ผมต้องใช้เงินส่วนตัวเป็นส่วนที่ต้องจัดการไปไม่น้อยเช่นกัน เพื่อให้โครงการแต่ละครั้งผ่านไปอย่างสมบูรณ์และไม่ติดขัดใด ๆ และไม่เคยคิดจะเอาคืนจากหลวงแม้แต่บาทเดียว สาธุ...
ฮ่าๆๆๆๆ เหมือนกัน พักหลังๆนี้เลขาฯบอกว่าบังไม่ต้องยุ่งการเดินโครงการเธอจัดการเองเสร็จ
ซ้ำยังมีเงินเหลือคืนเจ้าของงงบประมาณอีกด้วย