"ศีล" เป็นเสมือนพื้นที่ตั้งแห่งสิ่งทั้งหลาย
"ศีล" เป็นพื้นฐานให้เกิดสมาธิที่มีความสงบ ซึ่งเป็นสมาธิที่มีอานิสงส์มาก "อยู่อย่างสงบ"
เรือนที่อยู่อย่างสงบ มีหน้าต่าง มีฝาเรือน ลมแดดและฝน โลกธรรมย่อมแผดเผาไม่ได้ฉันใด
สมาธิย่อมนำให้เกิดปัญญาในการฟาดฟันให้กิเลสและตัณหานั้นบรรเทาและเบาบางลงไป ฉันใดก็ฉันนั้น
ปัญญาซึ่งมีสมาธิเป็นรากฐาน เปรียบเสมือนดั่งไฟดวงใหญ่ กำจัดเสียซึ่งความมืด
มีแสงสว่างรุ่งเรืองอำไพ ขับฝุ่นละอองคือกิเลสให้ปลิวหาย
ปัญญาจึงเป็นประทีปแห่งดวงใจ...
จิตเศร้าหมองเพราะคลุกด้วยกิเลสมาร
จิตที่ฟอกให้ขาวดั่งเดิมด้วยศีล สมาธิ และปัญญาย่อมหลุดจากอาสวะทั้งปวง (พุทธโอวาก่อนปรินิพพาน)
ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก