หมดวันไปกับการแก้ไขบันทึก และการปรับโครงการเพื่อขออนุมัติ บันทึกแก้ไขไปด้วยความเบื่อหน่ายเพราะรู้สึกว่า ผู้มีอำนาจสั่งแก้ไข แต่กลับไม่อ่านสิ่งที่เราได้ศึกษาและนำเสนอ แต่สั่งแก้ด้วยความต้องการของตนเองเท่านั้น ส่วนการปรับโครงการเพื่อเสนอขออนุมัติ แม้จะมีการแก้ไข แต่ก็เป็นการแก้ไขที่ได้พูดคุยกัน ถกกัน จนกำลังจะตกผลึกทางความคิดเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติที่มุ่งสู่งผลสัมฤทธิ์... การฝืนธรรมชาติ บางทีก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น แม่หมามันอยากให้ลูกมันอยู่ในพื้นดินอบอุ่น แต่คนกลับเอาลูกมันมาไว้บนเรือนไม้ สุดท้ายมันก็คาบลูกหนีไปอยู่ในพื้นดินที่มันเคยอยู่นั่นเอง... คนจะไปฝืนธรรมชาติของหมามันทำไมนะ (สอนตัวเอง)
คนที่คิดจะไปฝืนธรรมชาติของหมา ก็คงเป็นเพราะ "ลืมเอาใจหมามาใส่ใจเรา" มังคะ คุุณ nobita
ปัญหาในการทำงานมักจะมีมาให้เราแก้เสมอค่ะ อย่างเช่นสัปดาห์ก่อน ได้มอบงานให้กับนักศึกษาที่เรียนในวันพฤหัสบดี เวลา 13.50 -16.20 น. ล่วงหน้า โดยได้กำหนดให้แต่ละกลุ่มนั่งตามกลุ่มที่จัดเป็นกลุ่มถาวรไว้แล้ว และให้ทำงานกลุ่มตามใบงานที่มอบให้ไว้ล่วงหน้า ในช่วงต้นของการเรียนรออาจารย์ เพราะอาจารย์มีประชุม เวลา 13.30 น. แต่กลุ่มที่รับผิดชอบในการจัดการชั้นเรียนประจำสัปดาห์ได้โทรฯ บอกอาจารย์ว่า โต๊ะเก้าอี้ในห้องเรียนหายหมด มีแต่เสื่อเต็มห้อง ก็เลยบอกว่า จะเป็นไปได้อย่างไรในเมื่อห้องเรียนที่ใช้เป็นห้องที่ฝ่ายหลักสูตรจัดให้เป็นห้องเรียนวิชานี้ในวันเวลานี้มาแต่แรก และก็ได้สอนมาแล้ว 3 สัปดาห์ พอไปสอบถามที่สำนักงานคณะได้ความว่า แม่บ้าน (นักการภารโรง) ได้ไปจัดห้องดังกล่าวในเวลา 13.00 น.เพื่อเตรียมไว้สำหรับทำกิจกรรมสวดมนต์ไหว้พระในวันศุกร์ โดยไม่รับรู้ว่ามีตารางเรียนในเวลาดังกล่าว ทั้งที่เราก็สอนมาถึง 3 ครั้งแล้ว
ก็เลยทำให้แผนที่วางไว้ ไม่เป็นไปตามแผน กว่าจะให้คณะหาห้องใหม่แทนได้ ก็ต้องขึ้นลงจากชั้น 6 ลงมาชั้น 1 แล้วกลับไปชั้น 6 แล้วลงมาชั้น 4 กว่านักศึกษาจะจัดที่นั่งเป็นกลุ่มเสร็จ ก็เสียเวลาไปมาก ทำให้ไม่สามารถทำกิจกรรมได้ครบตามแผนที่วางไว้
อ.วิไล ครับ อาจจะใช่ที่ผมลืมกฎการเอาใจเขามาใส่ใจเรา เพราะมัวแต่คิดว่า บริเวณที่แม่หมาเลี้ยงลูกอยู่อาจจะไม่สะดวกสะบาย (ในใจเรา) แต่หารู้ไม่ว่า ที่ตรงนั้นมันสบายที่สุดในใจเขา (หมา) อิอิ.. กราบขอบพระคุณที่แวะมาทักทายและคุยกันนะครับ