ขออนุญาตนำเสนอนะครับ
อภิสังขารมาร เป็นหนึ่งในห้าของมารที่มีชื่อเรียกว่า ปัญจมาเร (มาร ๕)
๑.ขันธมาร ๒.เทวปุตตมาร ๓.อภิสังขารมาร ๔.กิเลสมารและ ๕.มัจจุมาร
ในมาร๕ นี้ มารที่มีอำนาจมากที่สุดคือ มัจจุมาร คนไทยจึงเรียกติดปากว่า มัจจุราชมาร ในบางครั้งก็เติมคำ พญา ไว้ข้างหน้าพื่อยกระดับศักดิ์ศรีให้ดูน่าเกรงขามมากขึ้น
อภิ แปลว่า ยิ่งใหญ่ กว้างขวาง รอบ
สังขาร หมายถึงการปรุงแต่ง
มารคืออุปสรรค หรือสิ่งกั้นขวาง
รวมความแล้วหมายถึง
สิ่งที่เป็นอุปสรรคหรือสิ่งขวางกั้น(มรรคผล)อันยิ่งใหญ่
ได้แก่ วิบากกรรม นั่นเอง
วิบากกรรมคือผลของกรรมดีและกรรมชั่ว ที่มนุษย์ทุกคนล้วนกระทำมาด้วยกันทั้งสิ้น ต่างกันที่ทำกรรมใดมากกว่ากัน
ดังนั้น จึงมีวิบากกรรมไม่เหมือนกัน
แต่มาเรียกเป็นมาร ในแง่มาขัดขวางมรรคผลในระหว่างการปฏิบัติธรรม เช่น กำลังตั้งใจปฏิบัติอยู่และมีทีท่าว่าจะไปได้ดี อาจลุถึงมรรค ผลนิพพานได้
มารชนิดนี้จะปรากฏเพื่อกั้นขวางการปฏิบัติธรรม ไม่ให้ไปถึงมรรคผล ในรูปของวิบากกรรมดีและไม่ดี
เช่นส่งข่าวดีมาให้ว่า ถูกหวย ได้มรดก หรือข่าวร้ายเช่นรถชน ไฟไหม้ พ่อแม่เสียชีวิต เป็นต้น
ทำให้ต้องละทิ้งการปฏิบัติไปกลางคัน
หรือบางคนกำลังบวชเรียนอยู่ต้องสึกออกไป เพราะวิบากกรมดีและชั่วของตนให้ผล
ในเรื่องมาร ๕ นี้ นิยมสอนกันในหมู่ผู้เจริญธรรม เพื่อให้ทราบและรู้ตนไว้ เพื่อให้มีจิตใจเข้มแข็ง มิให้พ่ายแพ้ต่ออำนาจมาร
ดังพระพุทธองค์ทรงบำเพ็ญตนเป็นตัวอย่างให้ดูในพุทธประวัติ ตอนมารผจญ ก่อนทรงตรัสรู้
ดังนั้น คำว่ามาร จึงเป็นเรื่องของการสร้างบารมีธรรม
ยิ่งมารมีมาก หากไม่ท้อถอย ในขณะเดียวกันก็สร้างบารมีธรรมให้กับตนเอง ดังเช่นคำที่พูดว่า
"มารไม่มี บารมีไม่แก่"