สวัสดีค่ะน้องหมอ
การที่เราได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับจิตของเรานั้น เป็นเป็นแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าในการปฏิบัติเป็นอย่างยิ่ง ยิ่งได้เห็นมากเท่าใด ก็จะยิ่งลดทิฏฐิมานะได้มากเท่านั้น
อ.ศิริศักดิ์เคยสอนพี่ว่า อารมณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในจิตใจเรานั้นมันเหมือนตะกอนในน้ำ ทำให้น้ำขุ่น ไม่ใส ไม่นิ่ง การปฏิบัติธรรม ก็เหมือนกับการช้อนตะกอนออก แรกๆ ก็จะมองเห็นตะกอนก้อนใหญ่ๆ ก่อน แล้วก็หาวิธีก็ช้อนตะกอนใหญ่ๆ ออก แต่ก้อนเล็กๆ ที่เป็นฝุ่นเป็นผงก็ยังคงอยู่ หากไม่ได้ปฎิบัติ ก็คงสะสมรวมกันเป็นก้อนใหญ่ๆ ได้อีก ดังนั้น การที่เราปฎิบัติ ก็จะทำให้เราเห็นตะกอนในใจ และกำจัดตะกอนเหล่านั้นได้ ถ้ามีตะกอนกำลังจะตกลงมาในน้ำอีก ถ้าเรามีสติ ก็จะป้องกันไม่ให้ตะกอนนั้นเข้ามาในใจได้ เหมือนที่น้องบอกว่า "เหลือเพียงจะเกิดเฉพาะหน้า แล้วก็ดับลงไป" ดังนั้น สิ่งที่ทำอยู่ พี่คิดว่ามาถูกทางแล้วค่ะ
แล้วที่ถามว่า "ทางเดียวคือการรู้ทันมัน แล้วรู้ว่ามันไม่ใช่เรา มันทุกข์ และเปลี่ยนแปลง แบบนี้หรือเปล่าครับ" นั้น คำตอบคือ ใช่ค่ะ ทุกสิ่งทุกอย่างเข้าข่ายไตรลักษณ์ทั้งนั้น เมื่อรู้แล้ว เข้าใจแล้ว ก็จะไม่ยึด ไม่เกิดอัตตา แต่เข้าใจว่าทุกอย่างนั้นเป็นอนัตตาทั้งนั้น
ธรรมรักษาค่ะ ^ ^