ไอน้ำ
นางสาว วลัยลักษณ์ ผดุงเจริญ

HAPPINESS จงพอใจที่จะใช้ชีวิตอย่างอิสระและเป็นตัวของตัวเอง


ถ้าเราเริ่มตั้งเงื่อนไขว่า เมื่อใดที่เราเสร็จสิ้นจากภารกิจที่ต้องฝืนทนทำอยู่ เมื่อนั้นเราก็จะมีความสุขกับชีวิตในแบบที่เราต้องการเสียที เช่นนี้แล้ว เราก็จะไม่มีวันมีความสุขได้เลย


LOOK ON THE BRIGHT SIDE คราวนี้มีที่มาเนื่องจากผู้เขียนอ่านพบคำประพันธ์เรื่องนี้โดยบังเอิญขณะที่กำลังหัดท่องสะเปะสะปะไปตาม Website เริ่มจากสะดุดใจที่ชื่อเรื่องคือ Happiness แปลเป็นภาษาไทยว่า ความสุข ซึ่งจัดว่าเป็นถ้อยคำมงคลเหมาะจะนำมาคุยกันเนื่องในเดือนแห่งการไหว้พระจันทร์และเกษียณอายุของข้าราชการอาวุโสทั้งหลาย...(มั่วไปนิ่มๆ เลยเชียว..เกี่ยวกันยังไงนี่?)

ผู้ประพันธ์ Happiness มีชื่อว่า Alfred D. Souza ผู้เขียนพยายามค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับท่านผู้นี้ก็พบเพียงว่าเป็นบาดหลวง ซึ่งน่าจะเป็นนักเทศก์และน่าจะเป็นชาวอเมริกัน..ค้นเจอแค่นี้แหละค่ะ  อย่างไรก็ตาม ปรากฎว่าเนื้อหาของเรื่องนี้กินใจคนอ่านเป็นจำนวนมากเอาการ  ข้อสันนิษฐานนี้มาจากการที่พบเรื่องนี้ถูกโพสต์อยู่ตาม Website หลายแห่ง เมื่ออ่านเนื้อหาก็สะดุดใจอีกครั้ง..ต้องใช้คำว่า "โดนใจ"..เลยแปลให้พันธมิตรแถวๆ โต๊ะทำงานฟัง ได้รับความเห็นว่า”ทำไมเขาเขียนเหมือนจะบอกเราโดยเฉพาะเลย?..” จึงเห็นว่าน่าจะนำมาถ่ายทอดเล่าสู่กันฟังค่ะ เผื่อจะโดนใจใครเข้าอีก..


Happiness
                                                 :Alfred D. Souza

For a long time it seemed to me
that life was about to begin - real life.
But there was always some obstacle in the way,
something to be gotten through first,
some unfinished business, time to still be served, a debt to be paid.
Then life would begin.
At last it dawned on me that these obstacles were my life.
This perspective has helped me to see that there is no way to happiness.
Happiness is the way.
So, treasure every moment that you have.
And treasure it more because you shared it with someone special,
special enough to spend your time
and remember that time waits for no one.
So stop waiting until you finish school, until you go back to school,
until you lose ten pounds, until you gain ten pounds,
until you have kids, until your kids leave the house,
until you start work, until you retire,
until you get married, until you get divorced,
until Friday night, until Sunday morning,
until you get a new car or home, until your car or home is paid off,
until spring, until summer, until fall, until winter,
until you are off welfare, until the first or fifteenth,
until your song comes on, 

until you've had a drink, until you've sobered up,
until you die,
until you are born again
to decide that there is no better time than right now to be happy.
Happiness is a journey, not a destination.
So work like you don't need money,
Love like you've never been hurt,
And dance like no one's watching.

คำศัพท์จากบทประพันธ์ :

happiness (n.)               โดยทั่วไปเราจะเข้าใจว่าแปลว่า ความสุข แต่ถ้าจะหาความหมายลึกๆลงไปอีกว่า ความสุขคืออะไร Oxford Advanced Learner’s Dictionary ได้ให้คำจำกัดความไว้ว่า ความสุข หมายถึงความรู้สึกหรือการแสดงออกถึงความรื่นรมย์ใจ หรือความพึงพอใจที่สิ่งต่างๆเป็นไปด้วยดีและถูกต้อง รวมถึงความพึงพอใจในสิ่งที่มีอยู่และไม่เดือดร้อนดิ้นรนที่จะมีให้มากขึ้น สรุปได้ว่าความสุขนั้นมีหลายระดับ โดยเฉพาะในความหมายสุดท้ายนี้ได้รวมสิ่งที่ในภาษาไทยเราเรียกว่า ความสันโดษ หรือความสุขสงบเอาไว้ด้วย

was about to (idm.)      มาจากสำนวน be about to do something  แปลว่ากำลังตั้งใจจะทำอะไรบางอย่างในช่วงขณะหนึ่ง 
      ตัวอย่าง:  I was about to leave when he called.
                      ฉันกำลังจะออกไปข้างนอกพอดีตอนที่เขาโทรศัพท์มาหา 
 
obstacle (n.)                   สิ่งที่กีดขวาง ขัดขวางการเคลื่อนไหว, ทางเดิน, ความก้าวหน้า, ฯลฯ ทำให้เป็นไปโดยยากลำบาก, อุปสรรค

to be gotten through (v.) คำกริยา to get through แปลว่า แล้วเสร็จ ลุล่วง  ในที่นี้อยู่ในรูปpassive voice คือเป็นผู้ถูกกระทำ หมายความว่า ถูกทำให้สำเร็จลุล่วงไป

debt (n.)                          คำนี้อ่านออกเสียงว่า เด๊ท (ไม่ต้องออกเสียงตัว b) แปลว่า จำนวนเงินที่เป็นหนี้ผู้อื่น
 
dawned on (v.)             ค่อยๆเข้าใจ กระจ่างขึ้นทีละน้อย
         ตัวอย่าง:  The truth began to dawn on me that he had been lying.
                          ความจริงค่อยๆกระจ่างขึ้นแก่ฉันว่าที่แท้เขาโกหกมาโดยตลอด

perspective (n.)           ในที่นี้หมายถึง ความคิดเห็นที่เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง, มุมมอง

treasure (v.)                  ส่วนมากเราจะเห็นคำนี้ทำหน้าที่เป็นคำนาม ซึ่งหมายถึงทรัพย์สมบัติ, สิ่งของที่มีค่า แต่ในที่นี้คำนี้ทำหน้าที่เป็นคำกริยา แปลว่ารู้ หรือตระหนักถึงคุณค่าของคน สิ่งของ หรือช่วงเวลาอันเป็นที่รัก ตลอดจนเก็บรักษาไว้อย่างดี  รวมความก็คือทนุถนอมนั่นเอง

pounds (n.)                  อ่านว่า เพาด์ ส่วนมากเราจะเห็นคำนี้ในความหมายของอัตราค่าเงินของอังกฤษที่เราเรียกว่า เงินปอนด์ แต่ในที่นี้มีความหมายเป็นหน่วยวัดน้ำหนัก 1 ปอนด์เทียบได้เท่ากับ 0.454 กิโลกรัม

get married, get divorced  (v.)    คำกริยา get มีหลายความหมาย ในที่นี้ใช้ทำหน้าที่แทนคำกริยา verb to be นำหน้าคำคุณศัพท์ (adjective)  married หมายถึงการมีสถานภาพแต่งงาน และนำหน้าคำกริยาช่องที่ 3 อื่นๆ (past participle) คือ divorced เพื่อให้คำกริยานั้นกลายเป็น passive voice มีความหมายว่า ทำให้ผู้ใดผู้หนึ่งมีสถานภาพหรืออยู่ในสภาพใดโดยเฉพาะ จากเนื้อเรื่องในบทประพันธ์นี้จึงหมายถึง อยู่ในสถานภาพแยกทางกันหรือเลิกร้างกันตามกฏหมาย คือ สถานภาพหย่ากันนั่นเอง

หมายเหตุ: คำว่า married เป็นคำคุณศัพท์ (adjective) ไม่ใช่คำกริยา (verb) แม้ว่าจะมีหน้าตาคุ้นๆ ว่าจะเป็นคำกริยาช่อง 2 หรือช่อง 3 เพราะลงท้ายด้วย -ied ก็ตาม  ส่วนคำว่า divorce เป็นคำกริยา (verb) แม้จะมีความหมายว่า เลิกราหย่าร้าง ซึ่งตรงข้ามกับ แต่งงาน

sobered up (v.)           สร่างเมา

right (adv.)                   เป็นคำที่ทำหน้าที่ได้หลายอย่าง คือเป็นได้ทั้งคำนาม คำกริยา คำคุณศัพท์ และคำวิเศษณ์ จึงมีหลายความหมาย ในที่นี้ เป็นคำวิเศษณ์แสดงความเฉพาะเจาะจง ขยายคำแสดงกาลคือคำว่า now มีความหมายเน้นว่า เป็นช่วงเวลา ณ ขณะนี้, เดี๋ยวนี้


อธิบายความหมาย :


ความสุข: พึงพอใจในสิ่งที่มีอยู่ในปัจจุบัน

ตลอดเวลาที่ผ่านมา ดูเหมือนว่า
มีหลายครั้งที่ฉันกำลังจะได้เริ่มต้นชีวิตเสียที-ชีวิตที่มีความสุขอย่างแท้จริง
แต่แล้วก็มักมีอุปสรรคมาขัดขวางอยู่เสมอ
อุปสรรคเหล่านั้นก็คือสิ่งที่ฉันคิดว่าเป็นเรื่องที่ต้องทำให้เสร็จสิ้นก่อน เช่น
กิจธุระที่ยังคั่งค้างอยู่.. เวลาที่ต้องเผื่อไว้ทำเรื่องนั้นเรื่องนี้.. หนี้สินที่ต้องทำงานหาเงินมาชำระ…
จากนั้นแล้ว ฉันจึงจะหาความสุขจากชีวิตได้ตามปรารถนา
แต่ในที่สุด ความจริงก็ค่อยๆกระจ่างขึ้นแก่ใจฉันว่า อุปสรรคทั้งหลายนั่นแหละคือชีวิตของฉัน
จากมุมมองนี้ ทำให้ฉันเห็นว่าไม่มีวิธีใดที่จะนำไปสู่ชีวิตที่มีความสุขได้
แต่ความสุขเป็นวิธีของการมีชีวิตอยู่ต่างหาก
ฉะนั้น จงรู้คุณค่าและทนุถนอมทุกช่วงเวลาที่คุณมีอยู่
และทนุถนอมยิ่งขึ้นไปอีก หากเป็นเวลาที่คุณมีร่วมกับใครบางคนที่เป็นคนพิเศษ
พิเศษมากพอที่คุณจะใช้เวลาในชีวิตร่วมกับเขาคนนั้น
และระลึกไว้เสมอว่าเวลาไม่เคยรอใคร
ฉะนั้น จงอย่ารอ..จนกระทั่งต้องทำนั่นทำนี่ให้เสร็จสิ้นเสียก่อน

อย่ารอจนกว่าคุณจะเรียนจบ  หรือจนกลับไปเรียนต่อเสียก่อน
จนกว่าจะผอมเสียก่อน หรือให้อ้วนเสียก่อน
จนกว่าจะมีลูก หรือจนลูกๆ โตออกเรือนกันไปหมดแล้วเสียก่อน
จนกว่าคุณจะเริ่มเข้าทำงาน  หรือจนกว่าจะปลดเกษียณเสียก่อน
จนกว่าจะแต่งงาน หรือจนกว่าจะหย่าเสียก่อน
จนกว่าจะคืนวันศุกร์ (ร่าเริงส่งท้ายสัปดาห์) หรือจนกว่าจะเช้าวันอาทิตย์ (สงบเสงี่ยมเข้าโบสถ์ฟังเทศน์)
จนกว่าจะมีรถหรือบ้านใหม่ หรือรอให้ผ่อนรถผ่อนบ้านหมดเสียก่อน
จนกว่าจะฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง หรือฤดูหนาวเสียก่อน
จนกว่าจะได้งานทำ หรือจนกว่าเงินค่าจ้างจะออก หรือรอให้ดวงชะตาขาขึ้นเสียก่อน
จนกว่าจะไปดื่มเหล้าให้หัวราน้ำ หรือจนกว่าจะสร่างเมาเสียก่อน
จนกว่าจะตายเสียก่อน หรือรอให้ไปเกิดใหม่ชาติหน้าเสียก่อน

กว่าจะตัดสินใจได้ว่า ไม่มีเวลาใดที่เราจะพึงมีความสุขกับชีวิตได้ดีไปกว่าในขณะนี้อีกแล้ว
ความสุขคือการเดินทางของชีวิต มิใช่จุดหมายปลายทาง
ดังนั้น พึงทำงาน..ราวกับว่าท่านมิได้ต้องทนทำเพื่อเงิน
รัก..ราวกับท่านไม่เคยรู้จักความเจ็บปวดจากความผิดหวังมาก่อน
และเต้นรำราวกับไม่มีผู้ใดจ้องดูอยู่

ใน LOOK ON THE BRIGHT SIDE ครั้งใดครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ผู้เขียนได้เคยคุยถึงมุมมองของ H.L. Marshall เกี่ยวกับเรื่องความสำเร็จ (Success) ซึ่งแนวคิดที่เหมือนกันในบทประพันธ์ครั้งนั้นและครั้งนี้ก็คือ ทั้งความสำเร็จ (Success ของ Marshall)  และความสุข (Happiness ของ Souza) ต่างก็คือ a journey, not a destination ..การเดินทางของชีวิต มิใช่จุดหมายปลายทาง.. 

ความสำเร็จ (ของ Marshall) เป็นเรื่องของการตั้งเป้าหมายและลงมือกระทำให้บรรลุผล ซึ่งไม่ว่าจะสมหวังหรือผิดหวัง เราก็จะไม่หยุดอยู่เพียงนั้น แต่จะมุ่งหาความสำเร็จในเรื่องอื่นๆใหม่ๆต่อไปอีก ความสำเร็จจึงเป็นสิ่งที่อยู่ตลอดบนเส้นทางของชีวิต  ส่วนความสุข (ของ Souza) นั้นเป็นเรื่องของความพึงพอใจในสิ่งต่างๆในชีวิต แต่ชีวิตคนเรานั้นซับซ้อนเต็มไปด้วยภารกิจและผู้คนที่เข้ามาเกี่ยวข้อง วันใดวันหนึ่งเมื่อความเบื่อหน่ายในโลกธรรมมาเยือน ..สังเกตได้จากการเริ่มมีความรู้สึกว่า “..ที่นี่ทุกข์หนอ..ที่นี่วุ่นวายหนอ..”  หรือ “..โอ๊ย..เบื่อ..เซ็ง..” (อ.อ่างนะคะ ไม่ใช่ว.แหวน ไม่สุภาพเล็กน้อย แต่ไม่ถือว่าหยาบคายนะคะ) คือ เริ่มรู้สึกไม่พอใจในชีวิตที่เป็นอยู่และเริ่มดิ้นรนไขว่คว้าหาสิ่งที่เรียกว่า “ความสุขในชีวิต” ซึ่งบางที่ก็ยังไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามันคืออะไร? แต่จะอย่างไรก็ตาม ถ้าเราเริ่มตั้งเงื่อนไขว่า เมื่อใดที่เราเสร็จสิ้นจากภารกิจที่ต้องฝืนทนทำอยู่ เมื่อนั้นเราก็จะมีความสุขกับชีวิตในแบบที่เราต้องการเสียที เช่นนี้แล้ว เราก็จะไม่มีวันมีความสุขได้เลย เพราะภารกิจเหล่านั้นไม่มีวันจบสิ้นลงได้ ประโยค 2-3 บรรทัดสุดท้ายมีความหมายว่า ความสุขของชีวิตก็คือ ไม่ว่าเราจะทำอะไร หรือเป็นอะไร จงพึงพอใจในสิ่งที่เราทำอยู่ หรือเป็นอยู่ในขณะนั้น โดยเฉพาะบรรทัดสุดท้ายที่ว่า “เต้นรำราวกับไม่มีผู้ใดจ้องดูอยู่” อาจมีนัยความหมายว่า “จงพอใจที่จะใช้ชีวิตอย่างอิสระและเป็นตัวของตัวเอง โดยไม่หวั่นไหวต่อคำวิพากษ์วิจารณ์ของผู้อื่น” ก็น่าจะเป็นไปได้ ความสุขจึงเป็นอีกองค์ประกอบหนึ่งที่อยู่บนเส้นทางชีวิต มิใช่เป็นจุดหมายที่รออยู่ที่ปลายทางของชีวิต


ความสุขเป็นความปรารถนาสูงสุดประการหนึ่งที่มนุษย์ทุกคนใฝ่หา คำอวยพรยอดนิยมที่เรามักมอบให้แก่กันในช่วงสิ้นปีเก่า-ขึ้นปีใหม่ ซึ่งผู้เขียนจะขอมอบให้ท่านผู้อ่านเช่นกัน ..โดยเฉพาะท่านข้าราชการเกษียณอายุทุกท่าน ซึ่งนับแต่วันที่ 30 กันยายนนี้ไป ก็เปรียบเสมือนวันขึ้นปีใหม่- ชีวิตใหม่อันเป็นอิสระของท่าน (ขึ้นอีกระดับหนึ่ง) ขอให้ทุกท่านมีความสุขตามอัตภาพโดยทั่วกันนะคะ..

หมายเหตุท้ายบันทึก : พันธมิตรแถวโต๊ะทำงานของผู้เขียนแสดงการมีส่วนร่วมให้ความคิดเห็นว่า ทำไมไม่เขียนเรื่องนี้ตอนเดือนธันวาคมหรือมกราคม ซึ่งจะดูสอดคล้องกับสถานการณ์มาก ผู้เขียนจึงตอบว่า ต้นฉบับเดิมเรื่องนี้ก็เขียนตอนนั้นแหละ นี่เอามา revise ปรับปรุงเพิ่มเติมใหม่  พันธมิตรต่อปากต่อคำอีกว่า มิน่าล่ะ..ดูทะแม่งๆ มั่วนิ่มมาตั้งแต่เกริ่นเข้าเรื่องแล้วเชียว...

Happiness doesn’t mean everything’s perfect,
it just means you’ve decided to see beyond the imperfections.
                                                                            : Anonymous

หมายเลขบันทึก: 123822เขียนเมื่อ 31 สิงหาคม 2007 16:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 13:33 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท