จากอำนาจ สู่ อำ(พิ)นาศ


สวัสดีครับทุกท่าน

       ช่วงนี้ผมมองว่าสังคมเราเหมือนตักน้ำมา 64 ล้านโมเลกุล เอามาใส่หม้อ แล้วต้มน้ำในหม้อยังไงก็ไม่รู้ครับ นับว่าเป็นการฝึกธรรม ฝึกจิต ดูใจตน ดูใจคน ดูใจนาย ฯลฯ ตั้งแต่น้ำเย็นๆ อยู่จนเหลือแต่หม้อเปล่า เราคงเห็นอะไรน่าสนใจกับการเปลี่ยนแปลงในหม้อใบนี้นะครับ

       ต้มน้ำแล้ว โมเลกุลต่างๆ ของน้ำก็กระทบกระทั่งกัน อยู่ที่ว่า น้ำในหม้อนั้นจะกระฉอกไปดับไฟที่ลนอยู่ต้นหม้อได้หรือไม่ครับ เกิดคลื่นในหม้อก้อนต่างๆ มาปะทะกันชนกัน อาจจะส่งผลให้หม้อร้าวได้

       ว่าไปอำนาจก็เหมือนไฟ ที่ใช้ต้มน้ำนะครับ จะต้มให้น้ำเดือดให้เกิดประโยชน์ก็ได้ หรือจะต้มให้เดือดแบบไร้ประโยชน์ก็ได้ การใส่ไฟให้โมเลกุลของน้ำชนกันนั้นจึงมีเจตนาเสมอ

       สำหรับหม้อประเทศไทยนี้ จะเป็นอย่างไร ก็ติดตามกันต่อไปนะครับ จากอำนาจ จะเป็น อำ(พิ)นาศ หรือไม่ ก็ต้องดูว่าปัญญาจะเกิดกับคนใส่ไฟหรือไม่?

       และน้ำในหม้อจะเปลี่ยนสถานะอย่างไร หม้อจะร้อนแค่ไหน น้ำในหม้อจะเย็นได้หรือไ่ม่ ไฟกับน้ำอะไรจะอยู่นานกว่ากัน เย็นหรือร้อน?  เย็นเป็นร้อน ร้อนเป็นเย็น วกวน วนเวียน?

ขอให้ทุกท่านมีความสุขครับ

เม้งครับ

หมายเลขบันทึก: 169300เขียนเมื่อ 6 มีนาคม 2008 07:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 22:59 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (19)

สวัสดีคะ

- เปิดฝาหม้อไว้ให้ไอร้อนระเหย

- หม้อจะไม่ระเบิด

สวัสดีครับ คุณพรรณา

    ยินดีต้อนรับนะครับ  ขอบคุณมากๆ นะครับ เป็นวิธีการที่ดีครับผม เปิดฝาหม้อให้ไอระเหย น้ำที่กลายเป็นไอจะขึ้นไปสมทบกับเมฆในอากาศเพื่อรอการตกมาให้ชุ่มฉ่ำ และดับไฟที่ก้นหม้อ กันต่อๆ ไปนะครับ

ขอบคุณมากๆ เลยนะครับผม มีความสุขในการทำงานนะครับผม

ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในประเทศไทยมีจริงนะครับคุณเม้ง

P

เม้ง สมพร ช่วยอารีย์

 

  • ประเทศไทยว่าหม้อ    น้ำฤา
  • น้ำว่าประชาคือ          อีกด้วย
  • โมเลกุลแยกยื้อ          กลายว่า ปัจเจก
  • ไฟว่าอำนาจท้วย        แผ่นหม้อ ถูกเผา


 

เจริญพร

 

สวัสดีครับคุณโต

       ขอบคุณมากๆ เลยครับ ยืนยันตามนั้นด้วยครับผม ผมก็ยังเชื่อว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วอยู่ตลอดไปเช่นกันครับ ความดีมีความดีเป็นบริวาร ความชั่วมีความชั่วเป็นบริวาร  หากหิริ โอตัปปะ ความรู้จักผิดชอบตัวดี เกรงกลัวและละอายต่อบาป หายจากใจคนแล้วไซร้ เราจะยังมีค่าของความเป็นคนหลงเหลืออยู่? อิๆๆ

ขอบคุณมากๆ นะครับ มีความสุขในการเจริญธรรมครับ

 

กราบนมัสการหลวงพี่ครับ

    ตั้งหลวงพี่แต่งๆ มาตอนแรกๆ จนถึงตอนนี้ ฝีสมองไม่ธรรมดาครับ ใส่ตรรกะ ใ่ส่กลอน ไปได้สวยเลยครับผม

    กราบขอบพระคุณมากครับ ครบเครื่องเลยครับ  หม้อ น้ำ ไฟ โมเลกุล น้ำก้นหม้อ น้ำปากหม้อ อากาศ เถ้าถ่าน เขม่าควันก้นหม้อ(มีดหม้อ หรือ เมดหม้อ)  ก้อนหินด้วยอีกสามก้อนครับ พอดีต้มน้ำด้วยไม้ฟืนแบบโบๆ แต่ได้ผลได้ข้อคิดครับ

กราบขอบพระคุณมากครับ

  • ธรรมะที่ลึกมากแบบนี้จะมีกี่คนที่เข้าใจได้หนอ
  • คนส่วนใหญ่อาจไม่ละเอียดถึงระดับโมเลกุล จึงคงเข้าไม่ถึงอนุภาคที่เล็กๆได้ดีนัก
  • มักมองเพียงเปลือกนอกที่หุ้มห่อด้วยวัตถุที่หลอกตาเท่านั้นจึงทำให้แข่งกันในเรื่องสร้างภาพภายนอกเป็นเปลือกที่มีเพียงความจอมปลอมทั้งนั้นเลย
  • แท้ที่จริงแล้วเนื้อในนั้นสำคัญยิ่งนัก หากไม่รักษาให้เกิดความดีงามแล้วอีกไม่นานนักก็คงเน่าจากภายในแล้วจะรักษายากยิ่งนักแล

ไม่รู้นะครับ...
ผมว่าคนดี ๆ  ...ต้องวัดกันตอนมีอำนาจนี่แหละครับ  ผมเคยทำงานบริหาร  สมัยนั้นแรงมาก  ซึ่งหมายถึงพลัง,  มุ่งและทะยานทำงานอย่างบ้าคลั่ง  จนแทบไม่มีเวลาดูว่าลูกน้องบอบช้ำและไหวหรือไม่

...

เว้นวรรคไปชั่วครู่...กลับมาใหม่  ถอดบทเรียนและเรียนรู้บาดแผลเหล่านั้น   เปลี่ยจังหวะตัวเอง ...ศรัทธาไหลมารวมกัน  งานและคนเคลื่อนไปอย่างรวดเร็ว  ..มีความสุข งานที่ออกมาก็มีกลิ่นอายความสุขของผมและทีมงานอย่างชัดเจน

ในวันที่ละวางงานบริหารอีกรอบ, ...  ผมได้รับการร้องขอจากหลายและหลายคนว่าช่วยดุแลและพาพวกเขาฝึกฝนอีกสักระยะ ..แต่ผมก็ยืนยันว่า,  ..พวกเขาทำได้ ..ผมยังเป็นผม ยังอยู่และดุแลแบบห่าง ๆ

ดีซะอีกจะได้พิสูจน์ว่าตัวเขาเอง ...ยืนได้ด้วยตัวเองหรือเปล่า

 

กลับไปเป็นคนธรรมดา ..ธรรมดา
คืนกลับสู่วันเวลาของตัวเอง
เดินวิ่ง  นอนนั่ง,  ฟังเพลง
ร้องตะเบงตามใจในวิถีตน

 

;

ถอดหัวโขนออกวางอย่างอิ่มสุข
ประหนึ่งพ้นทุกข์อันหมางหม่น
ฝ่าเส้นทางท่ามวิถีที่สับสน
เพียรหวังการหลุดพ้น, ถนนมายา

 

 

เออว่ะ..ส่องกระจกสะทกสะท้าน
นี่เราเกรียมกร้าน
นานนักหนา
บนศีรษะหงอกขาวพร่างพราวตา
ดูสิดูตีนกา ...  สง่าจริง

 

....

นี่เป็นกลอนที่เขียนขึ้นเมื่อวานหลังจากได้รับอนุมัติให้ออกจากงานบริหาร ...เพราะถูกแช่ไว้ร่วมสามเดือนเศษ   

จากนี้ไปไม่ได้เป็นหัวหน้าใคร ..กลับมาเป็นหัวหน้าตัวเอง, หัวหน้าครอบครัวอย่างเต็มยศ

...

เลยไม่รู้ว่าที่แชร์มานี้เกี่ยวกับบันทึกของคุณเม้ง หรือเปล่า ...

ขอบคุณครับ

เปลวเทียนต้มน้ำไม่ได้ฉันใด

น้ำตาดับเปลวไฟไม่ได้ฉันนั้น

สวัสดีครับคุณประถม

    ขอบคุณมากๆ เลยครับ หลายๆ อย่างเปลี่ยนไปเยอะนะครับ

สมัยก่อน พ่อบอกว่า คนเค้าไม่ใช่ขายของกัน เค้าให้กันครับ เน้นการให้ มีน้ำใจให้กัน ศรัทธากัน 

    ที่ดินพ่อบอกว่าเค้าให้กัน แต่ทุกวันนี้กลับกันสิ้นดี แต่รุกเขตแดนกันก็ยิงกัน ฆ่ากัน ฉ้อโกงกัน ขวนขวายเพื่อแหวกว่ายให้ตัวเองมี จากที่เราเคยศรัทธาใจกัน เรากลายเป็นศรัทธาวัตถุกัน ศรัทธาเครื่องมือกันมากกว่าใจที่มีให้กัน

ธรรมที่เคยเข้าถึงได้ง่ายๆ เพราะธรรมชาติอยู่ครบ และมีกิจกรรมต่างๆ เชื่อมโยงกับธรรมชาติ คนสัมผัสก็ได้ธรรมะมาปรับใช้ใกล้ชิดธรรมะ แต่ทุกวันธรรมชาติลดน้อยลง เปลี่ยนแปลง มีสิ่งประดิษฐ์มาแทนที่ เด็กใหม่เกิดมาพบเห็นอีกในโลกหนึ่ง มันเป็นการยากที่จะบอกเด็กว่าป่าไม้เคยมี ไดโนเสาร์เคยมี กลายเป็นเป็นเพียงสาัรคดีหรือหนังในจอเทคโนโลยีกันแทน

    ใจคนทุกวันนี้เลยคิดอะไรกันง่ายๆ ฉาบๆ บางๆ ไม่ต้องลึกซึ้งอะไรมากมาย จริงๆ ก็ไม่ได้ผิดอะไรนะครับ แต่เรามองเป็นถึงความเปลี่ยนแปลงครับ

ขอบคุณมากๆ เลยนะครับ

สวัสดีครับพี่แผ่นดิน

    ครับผม ขอบคุณมากครับ ใช่ครับ คนดี ไม่เปลี่ยนแปลงไม่ว่าจะมีอำนาจหรือไม่มีอำนาจ การมีอำนาจเอาไ้้ว้พิสูจน์่ว่าดีจริงไหม อำนาจก็มีระดับ น้ำหนักต่างๆ กัน คนเรามักกลายพันธุ์ก็ตอนมีอำนาจ สรรเสริญ ลาภยศ นี่ล่ะครับ เพราะยังไงเสีย ก็ต่างกันแค่ตอนมีลมหายไปครับ แต่เราหนีเชิงตะกอน (โลงศพ) ไม่ได้สักคน

    หากเทียบชีิวิตคนแค่ ไม่ถึงร้อยปี จะไปเทียบกับอายุโลก สี่พันหกร้อยล้านปีมิได้เลยครับ มันเทียบกันไม่ถึงเลย คนที่มักใหญ่คิดจะครองโลก ครองคน ครองอำนาจ จึงคิดผิดตั้งแต่เริ่มที่อยากแล้วครับ 

    ขอบคุณพี่มากครับ ที่แลกเปลี่ยนเล่าประสบการณ์ในการสละอำนาจ สละการบริหาร วันนี้เพิ่งถกคุยกับพ่อแ่ม่ไปครับ เรื่องชีวิตคน เรื่องอำนาจ เรื่องการแสวงหา เงินลาภยศสรรเสริญ ฯลฯ

    เป็นเรื่องยากครับ ที่จะบริหารคนอื่น เพราะเรายังบริหารตัวเราไ่ม่ลงตัวเลยครับ ผมล่ะคนหนึ่งที่ยังบริหารตัวเองได้ไม่ดีครับ

    ขอบคุณมากๆ เลยครับ สำหรับกลอนดีๆ ให้ข้อคิดในการนำไปใช้ครับ

คิดถึงทุกคนนะครับ น้องๆ สบายดีกันนะครับ

 

สวัสดีครับเม้ง

ผมเพิ่งกลับจากเชียงใหม่ ไปเข้ารูปเล่มวิจัยเล่มโต ทั้งหมดเป็นงานที่เราทำเพื่อเป็นข้อมูลในการพัฒนาท้องถิ่นบ้านของเรา(นักพัฒนาเล็กๆหลายๆท่านที่ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่ชาวบ้าน)..เห็นมั้ยครับ ว่าเรา ซึ่งเป็นประชาชน เป็นโมเลกุลเล็กๆของน้ำมหาสมุทร และเราต่างพยายามสร้างสสรค์สิ่งดีๆให้กับบ้านเมือง

แต่ผู้ที่มีอำนาจกลับได้ใช้อำนาจในทางที่ไม่ควร..

แล้วเส้นทางพัฒนาบ้านเมืองเราจะเป็นไปตามแนวทางไหน ต่อจากนี้

หากมีบ่อนเปิดในหัวเมืองสำคัญ

หากการพนันเต็มบ้านเต็มเมือง

หากการตัดสินใจที่ผิด แต่ลูกน้องก็ตามใจลูกพี่

นายว่า ขี้ข้าคอยตาม

บ้านเมืองก็จะล่มสลาย มลายไป

 

สวัสดีครับพี่สิทธิรักษ์

  • สบายดีนะครับพี่  ขอบคุณมากๆ นะครับ สำหรับคำเด็ดๆ ดีๆ และน่านับถือ น่าศรัทธา
  • ทุกข์ สุข ดี ชั่ว เกิดที่ใจ เจริญที่ใจ เผาไหม้ีที่ใจ หากจะดับ ก็จงดับที่ใจกันเถิด ดับที่การแย่งชิงกัน แก่งแย่งกันนั้น เป็นการลดค่าของมนุษย์ทั้งสิ้น
  • ขอบคุณพี่มากๆ นะครับ

สวัสดีครับเอก

    สิ่งที่เอกและทีมงานร่วมกันทำเพื่อประชาชนอย่างจริงใจนั้น น่าศรัทธา น่านับถือ แม้ว่าไม่ต้องใช้งบเป็นแสนล้าน พันล้าน ก็มีความยิ่งใหญ่ในคุณค่าของเจตนา คุณค่าของการให้ การให้ด้วยใจ มิใช่ให้แค่เพียงตัวเลข หรือค่าดัชนีบ้าบอคอแหกใดๆ

    บ่อนจะมีหรือไม่มีนั้น ก็เป็นวาระกรรมของสังคมครับ เพราะบ้านผมก็มีสามบ่อน

เมื่อก่อนตั้งชื่อว่า  สนามกีฬาชนโค อำเภอจุฬาภรณ์

ตอนนี้เปลี่ยนชื่อแล้ว เพราะว่าจะเสื่อมเสียชื่ออำเภอ และไม่สมควรยิ่ง ตอนนี้เลยลดอำเภอ เป็น บ้านทุ่งโพธิ์ไปแล้ว

แน่นอนว่าสังคมไทยมีการละเล่น การพนันทั้งแบบเล่นแบบจริง แบบบ้าระห่ำ ก็มีกันครบ ใครไม่่ว่าไรหรอกครับ หากจะพินาศกันแค่ตัวเอง หรือแค่ตัวผู้เล่น หรือจะจำเริญเพียงผู้เล่น แต่สังคมเกี่ยวโยง เกี่ยวข้องกัน แน่ๆ คนใกล้ตัวหรือคนเกี่ยวข้องก็ย่อมได้รับผลบุญนั้นด้วย

หากผู้ใหญ่ท่านใด เข้าบ่อน ต่อไป ก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นคนไม่ดีไปทั้งหมด แต่จะนำคำสอนว่าการพนันเป็นสิ่งอบายมุข ไ่ม่ดี ลูกๆ อย่าเอาเป็นตัวอย่างนั้น จะสอนลูกหลานในบ้านเมืองได้น่าฟังรึ

นี่ล่ะ คือสิ่งที่เราเป็นกันในสังคม อย่าไปอ้างบ้านเมืองอื่นเพื่อมาเป็นหนทางให้ตัวเองได้ทำหรือเดินในทางนั้นกันเลย สิ่งชั่วร้ายนั้นมันจะเข้าตัวเอาเปล่าๆ ครับ

ขอบคุณเพื่อนมากๆ นะครับ

สวัสดีค่ะน้องเม้ง

ตอนนี้พี่พยายามเฝ้ามองคนไทย และคิดว่าเมื่อไหร่หนอประเทศเราจะอยู่กันแบบพี่แบบน้อง รักกันเหมือนเดิม ไม่แบงฝ่ายแบบนี้

และพยายามคิดหาวิธีการที่จะอยู่ด้วยกัน โดยที่คนไทยไม่ทะเลาะกัน

พี่น้องคุยเรื่องการเมืองไม่ได้

แพทย์ พยาบาล คนไข้  ต้องหยุดพูดการเมือง

เราหวังว่า...สิ่งศักดิ์สิทธ์  จะต้องคุ้มครองพวกเราคนไทยทุกคนค่ะ

สวัสดีครับพี่อุบล จ๋วงพานิช

    ขอบคุณมากๆ เลยครับ สำหรับประเด็นที่สำคัญมากๆ เลยครับ

พ่อแม่ ทะเลาะกัน สามีภรรยางอนกัน พี่น้องไม่มองหน้ากัน เพื่อร่วมงานหันหลังให้กัน เพราะชอบต่างๆ กัน และเอาใจของตัวเองเป็นใหญ่ ว่าสิ่งที่เราว่าฉันคิดนั้นหน่ะถูกต้องแล้วล่ะ ส่วนที่อีกฝ่ายพูดและคิดนั้นมันผิดสิ้นดี ต่างคนต่างมีเหตุผล เรามองไ่ม่เห็นจุดรวมของเรา เรามองไม่เห็นใจของกันและกัน มองหน้าไม่เข้าใจ มองใจก็ติดเปลือก เราจึงเป็นเช่นนี้ครับ ในยุคเื่สื่อมนั้น พระพุทธเจ้าท่านได้ทรงตรัสไว้หมดแล้วครับ เพียงแต่เราค่อยๆ เห็นมากขึ้นครับ แล้วก็ชัดขึ้นเรื่อยๆ ครับ

ผมเองมีโอกาสก็สนทนาธรรมกับพระอรหันต์ที่บ้าน นั่นคือทางออกของผมและสิ่งที่ผมรู้สึกว่าเป็นสุขที่สุด คือการครองตัวตนให้รวมใจเข้ากับคนที่เรารักนับถือและศรัทธาได้บนธรรมชาติที่เป็นธรรมและเข้าใจ

สิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นมีจริงๆ ครับ สัมผัสได้ด้วยครับ เพียงแต่เราจะเข้าถึงหรือไม่แค่นั้น... เราต้องล้างใจของเราก่อนจะพบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นทางที่ดีครับ

ขอบคุณพี่มากๆ นะครับ

ในยุคเื่สื่อมนั้น   พระพุทธเจ้าท่านได้ทรงตรัสไว้หมดแล้วครับ เพียงแต่เราค่อยๆ เห็นมากขึ้นครับ  แล้วก็ชัดขึ้นเรื่อยๆ ครับ

น้องเม้ง  ช่วยบอกหน่อยนะว่า  พระพุทธเจ้าท่านได้ทรงตรัสไว้อย่างไร

พี่ไม่อยากเห็น  เลือดตกยางออกในประเทศไทยอีก เราจะผ่านพ้นไปได้ไหม ที่คนไทยจะไม่เป็นเครื่องมือของใคร

สวัสดีครับพี่อุบล

    ผมตอบในรายละเอียดทั้งหมดไม่ได้ครับ ต้องไปค้นคว้าเพิ่มเติม แต่ผมฟังและรับการถ่ายทอดจากพระท่านมาอีกทีนะครับ

หลักๆ ของยุคเสื่อมคือ (ผมขอเขียนแบบที่เข้าใจของตัวเองนะครับ หากอันใดผิดไปถือว่าผมผิดเองแต่ผู้เดียวนะครับ)

  • ใจคนจะเสื่อมครับ มองผิดเป็นถูก มองอบายเป็นสิ่งที่ถูกต้อง
  • คนจะมีลูกตั้งท้องตั้งแต่อายุน้อยๆ เช่น สิบปีก็มีลูกแล้ว สิบเอ็ดปีก็ตั้งท้องได้แล้ว (น่าจะมีในเมืองไทยแล้ว)
  • พระอาทิตย์จะขึ้นพร้อมกันเจ็ดดวง นับว่าสว่างไสวกันทั้งเอกภพครับ
  • อื่นๆ ต้องศึกษาเพิ่มเติมครับ (ผมยังเข้าไม่ถึงแก่นธรรมครับ)

พระพุทธเจ้าท่านได้เข้าใจเรื่องทั้งวิทย์และศิลป์ได้ดีมากๆ เลยนะครับ

บางทีผมก็เอาอายุโลก สี่พันกว่าล้านปี กับอายุ พุทธศาสนา มาหารกันเล่นๆ ก็พบจำนวนเ่ท่า เป็น ล้านเท่าเลยทีเดียว ก่อนหน้านี้ ยุคนี้ (ยุค พ.ศ. นี้) อาจจะมีคนเกิดดับมาแล้วไม่รู้กี่ยุค พระุอรหันต์ก็คงเิกิดมาแล้วมากมายก็ได้ ช่วงชีวิตเรานั้นสั้นนิดเดียวกับพี่ จะทำดีได้ชั่วชีิวิตก็ปลูกต้นไ้ม้ได้ชีิวิตละไม่ถึงสามหมื่นต้น (หากปลูกวันละ้ต้น) แต่เราตัดต้นไ้ม้ได้ัวันละหลายๆ ต้น  สร้างย่อมยากกว่าทำลายเสมอ กินเข้าอิ่มเร็วกว่าตอนประกอบอาหาร สร้างตึกรามบ้านช่องก็ู้สู้แผ่นดินไหวในช่วง แค่หนึ่งถึงสองนาทีไม่ได้

ขอบคุณพี่มากๆ นะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท