เขียนบันทึก อัศจรรย์ดอกไม้บาน (แฉ่ง) ครั้งที่ ๒ ณ เชียงใหม่ ... ( ๑ ) ไว้นานนมเต็มที ตอนนี้เหลือแต่รอยอดีตที่ฝากไว้ในกาลก่อน
วันนี้คงเป็นโอกาสอีกครั้งที่ได้ค้นพบ "ประวัติและที่มาของดอกทิวลิป" จึงขอมานำเสนอไว้ ณ บันทึกนี้ครับ แถมเรื่องนี้จำได้ว่า เคยคุยกับ พี่นุช คุณนายดอกเตอร์ เอาไว้ด้วยว่า ขอให้พี่นุชเขียนประวัติให้อ่านหน่อย
ตอนนี้ผมเจอแล้ว จึงขอนำเสนอนะครับ
John Lloyd และ John Mitchinson (แปลโดย พูนลาภ อุทัยเลิศอรุณ) ได้เขียนหนังสือชื่อ "The Book of General Ignorance" หรือในชื่อภาษาไทยก็คือ "ลบเหลี่ยมไอน์สไตน์"
เขาได้เล่าไว้ในหน้า 111 - 112 เกี่ยวกับ "ดอกทิวลิปมาจากที่ไหน" ดังนี้
ไม่ว่าจะมาจากเมืองอัมสเตอร์ดัมหรือที่ไหนก็ตาม ดอกทิวลิปมีชื่อเสียงในฐานะที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศเนเธอร์แลนด์เฉกเช่นกังหันลมและรองเท้าไม้
แต่ในความจริงแล้ว มันไม่ใช่พืชท้องถิ่นของเนเธอร์แลนด์
ถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติของดอกทิวลิปคือ ภูมิประเทศในแถบภูเขา
จนเมื่อปี 1554 นี่เองที่ทิวลิปดอกแรกถูกนำเข้าจากเมืองคอนสแตนติโนเปิล (ปัจจุบันคือเมืองอิสตันบูล) มายังเนเธอร์แลนด์ ดอกทิวลิปป่าแพร่พันธุ์ธรรมชาติอยู่บริเวณตอนใต้ของยุโรป ตอนเหนือของแอฟริกา และบางพื้นที่ของเอเชียจรดภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ดอกทิวลิปเป็นดอกไม้ประจำชาติทั้งประเทศตุรกีและอิหร่าน
ชื่อ "ทิวลิป (tilip)" มีที่มาจากคำว่า tulbent ซึ่งเป็นการออกเสียงในภาษาตุรกีของคำว่า dulband ในภาษาเปอร์เซีย โดยมีความหมายถึง "ผ้าโพกหัวของชาวมุสลิม (turban)" นี่เป็นเพราะนักนิรุกติศาสตร์มองว่า มันเป็นมีรูปร่างลักษณะคล้ายกัน (หรือบางทีแต่เดิมชาวตุรกีอาจเสียบดอกทิวลิปไว้กับผ้าโพกหัวก็ได้)
ทุกวันนี้ เนเธอร์แลนด์ผลิตเหง้าดอกทิวลิปได้ปีละประมาณ 3 พันล้านหัว ในจำนวนนั้น 2 พันล้านหัวถูกส่งออกนอกประเทศ
................................................................................................................................................
ภาพที่ท่านได้ชมประกอบประวัตินี้ เป็นภาพจากงาน "อัศจรรย์ดอกไม้บาน ครั้งที่ ๒" (Miracle Floral @Chiang Mai) ณ สวนเฉลิมพระเกียรติ ด้านหลังศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อต้นปีที่ผ่านมานี้นะครับ
"ภาพดอกไม้" เป็นภาพที่ยืนยันไม่ทราบว่าครั้งที่เท่าไหร่แล้วนะครับ ถ่ายยากมากที่จะถ่ายให้มันดูสวย
ขอให้ท่านจินตนาการว่า "สวย" แล้วกันเนาะ แบบสวยจากใจ ประมาณนี้นะครับ
ขอบคุณ ท่านที่ผ่านเข้ามา
ขอบคุณ ท่านที่ตั้งใจเข้ามาสืบค้นที่มาดอกทิวลิป
ขอบคุณ ท่านที่แวะมาชมภาพที่สวยน้อย
ขอบคุณ กัลยาณมิตรทุกท่าน
บุญรักษา ทุกท่านครับ ;)...
................................................................................................................................................
ขอบคุณหนังสือ ...
John Lloyd and John Mitchinson (พูนลาภ อุทัยเลิศอรุณ, ผู้แปล). ลบเหลี่ยมไอน์สไตน์. กรุงเทพฯ : วีเลิร์น, 2553.
"ชื่อ "ทิวลิป (tilip)" มีที่มาจากคำว่า tulbent ซึ่งเป็นการออกเสียงในภาษาตุรกีของคำว่า dulband ในภาษาเปอร์เซีย โดยมีความหมายถึง "ผ้าโพกหัวของชาวมุสลิม (turban)" นี่เป็นเพราะนักนิรุกติศาสตร์มองว่า มันเป็นมีรูปร่างลักษณะคล้ายกัน (หรือบางทีแต่เดิมชาวตุรกีอาจเสียบดอกทิวลิปไว้กับผ้าโพกหัวก็ได้)"
ขอบคุณอาจารย์ สำหรับความรู้ใหม่นี้
ทิวลิปปลูกที่เชียงใหม่ได้จริง !
เห็นแถวทางไปสนามเจ็ดร้อยปีนะคะ
แต่ต้องเอาร่มกาง เวลาแดดจัดๆ มา คอพับคออ่อนหมด
ทิวลิปสวย..เพราะมีสีสันหลากหลาย
พี่จะได้ไปเที่ยวชมงานราชพฤกษ์ปลายปีด้วยนะ
ดอกไม้สวยมาก
ฝีมือการบันทึกภาพสวยไม่ใช่น้อย(=มาก)..เลยค่ะ *^_^*
ยินดีและขอบคุณเช่นกันครับ ท่าน วอญ่า-ผู้เฒ่า ;)...
สวนเฉลิมพระเกียรติฯ อยู่ตรงข้ามกับสนามกีฬา 700 ปี ครับ คุณหมอบางเวลา CMUpal ;)...
ปีแรก ทิวลิปยังคอพับคออ่อน แต่ปีที่สอง เขาสร้างเรือนควบคุมอุณหภูมิกันเลยครับ ทำให้ดูสดใสกว่าเดิมเยอะเลย
ขอบคุณมากครับ ;)...
งานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ เริ่ม 9 พ.ย.54 ถึงกลางเดือน ก.พ.55 ครับ พี่ ครู ป.1 ;)... ไม่รู้จะเป็นอย่างไรบ้างนะครับ แต่ผมก็ผ่านทุกวันแหละ แวะแน่ ๆ ;)...
ขอบคุณครับ ;)...
ดอกไม้งาม คู่กับ สาวงาม อย่างนางฟ้า ชาดา ไงครับ ;)...
รอติดตามอีกบันทึกนะครับ น่าจะมีภาพดอกไม้งามอีกสักชุด
ขอบคุณครับ ;)...
ชอบดูดอกทิวลิปเหมือนกันครับ แต่แถวบ้านไม่ค่อยมี มีแต่ดอกมะลิ อาจารย์สบายดีไหมครับ
เป็นดอกไม้จากเมืองไกล
ต้องข้ามไปถึงฝรั่ง
ปลูกเมืองไทยไม่นานพัง
เพราะมุ่งหวังกลับบ้านเดิม
สวย และ งาม มากค่ะ เป็นดอกไม้ที่น่ารักและสดใสมากจริงๆ
ถ่ายภาพได้ขนาดนี้ก็สุดยอดแล้วค่ะอาจารย์
ขอบคุณสำหรับความรู้ดีดี ค่ะ..
ดอกมะลิ หอมกว่า ดอกทิวลิป ครับ อาจารย์ ขจิต ฝอยทอง ;)...
ช่วงนี้ก็ ง่วง เหงา หาว ซึม ครับ
ขอบคุณมากครับ
กลับบ้านเก่า ใช่ไหมครับ ท่านอาจารย์ โสภณ เปียสนิท ;)...
555
ขอบคุณมากครับ คุณ บัวชมพู ;)...
บันทึกภาพยากจริง ๆ นะครับ
งานนี้ผมได้ไปเที่ยวชมด้วยเหมือนกันนะอาจารย์
ไปมีความสุขที่สุดตอนยืนกินไอติมกับกาแฟถุงจากรถเข็น
เพราะด้านนอกเรือนปรับแสง-อุณหภูมิที่จัดแสดงต้นทิวลิปและดอกไม้ต่างๆนั้น
ช่างร้อนตับแทบแตก
แอบเห็นเหมือนกันครับ ท่านพี่ วิรัตน์ คำศรีจันทร์ ;)...
รถกาแฟเย็นอยู่ด้านนอก ...
อากาศร้อนดีจริงแหละครับ หน้าหนาวน่ะนั่น ;)...
ขอบคุณครับ
แว่วๆ ว่ามี ดอกทิวลิป สีดำ ด้วยใช่ไหมเจ้า ...
นี่คือ ทิวลิปสีดำ ครับ ... เวลาต้องแสงอาจจะไม่ค่อยดำ แต่จะออกสีม่วงคล้ำ ๆ ครับ
ขอบคุณครับ คุณ Poo ;)...
ว้าว วาว ทิวลิปสีดำ = the classic ค่ะ อ. อิ อิ :)