สุดยอดการค้นพบของอิยิปต์ - ฟาโรห์ผู้หญิง Hatshepsut


ดิฉันเป็นแฟนตัวยงของโลกอิยิปต์ และเมื่อคืนนี้ได้ดูรายการทาง Discovery Channel เรื่อง Secrets of Egypt's Lost Queen (http://dsc.discovery.com/convergence/quest/lost-queen/program/program.html)

ถูกใจมากๆ เป็นการค้นพบที่สุดยอดเหลือเกินพอๆ กับการค้นพบมัมมี่ของตุตันคาเมน ก็เลยอยากนำมาเล่าให้อ่านย่อๆ ค่ะ แต่จะให้ได้อารมณ์ต้องติดตามดูเองค่ะ 2 ชม.เต็ม

มัมมี่ที่ทางทีมของ Dr. Zahi Hawass ค้นหา คือ บรรพบุรุษของคิงส์ตุตันคาเมน ค่ะ เป็นฟาโรห์ผู้หญิง (แต่งตัวอย่างฟาโรห์ผู้ชาย) ชื่อว่าฟาโรห์ Hatshepsut ไม่ใช่ queen นะค่ะ เป็น king ทีเดียว ยิ่งกว่า queen ผู้เลอโฉม Cleopatra และ Nefertiti

ดูภาพ http://en.wikipedia.org/wiki/Hatshepsut

ที่พิพิธภัณฑ์ไคโรห์มีมัมมี่ royal (ตระกูลกษัตริย์) ปริศนาอยู่หลายตัว ทีมงานหลงคิดอยู่นานว่า Hatshepsut น่าจะเป็นหนึ่งในนั้น แต่ Dr. Zahi เก่งมากค่ะ นึกไปถึงมัมมี่ที่เป็น nanny หรือเป็นแม่นมของ King ราเมเสส ซึ่งถูกเก็บไว้เฉยๆ ไม่มีคนสนใจอยู่นาน 108 ปี

เมื่อเปิดโลงศพออกมาจะพบว่า มัมมี่ตัวนี้มีขนาดสั้นกว่าความยาวของโลงเยอะมากจึงไม่น่าจะใช่ nanny อีกทั้ง หน้าตาการจัดวางของมัมมี่น่าจะเป็นมัมมี่ royal (สวยค่ะสวยมาก ดูก็รู้ว่าไม่ใช่มัมมี่ธรรมดา)

ดูภาพ http://english.people.com.cn/200706/29/eng20070629_388541.html

แล้วการสืบค้นก็นำเอาเทคโนโลยีใหม่ๆมาช่วย ไม่ว่าจะเป็น CT Scan และ การตรวจ DNA ซึ่งเหลือเชื่อมากว่า ทีมสามารถขุดหา DNA จากมัมมี่ nanny ได้ (อายุกว่า 3,500 ปี) แต่ที่นี่ต้องทำการเปรียบเทียบ DNA จากคนในสายเดียวกัน ในที่สุดก็ไปได้ DNA จาก grandma ของ king ราเมเสส (ไม่แน่ใจจำไม่ค่อยได้แล้วค่ะ)

แต่เพื่อต้องการหาหลักฐานเพิ่มเติม ก็ต้องหา DNA ที่สมบูรณ์กว่านี้ แล้ว Dr. Zahi ก็นึกกล่องไม้ที่บรรจุเครื่องในของมัมมี่ royal กล่องหนึ่งที่คาดว่าเป็นของฟาโรห์ Hatshepsut  เมื่อนำเอาเข้าเครื่อง scan ก็พบสิ่งที่มีลักษณะคล้ายปอด และมีฟันกรามอยู่ซี่หนึ่งด้วย

เมื่อตรวจสอบ DNA จากฟันก็พบว่าตรงกับมัมมี่ nanny แล้วที่สุดยอดกว่านั้นคือ ฟันกรามซี่นั่นคือส่วนที่หลุดหายไปจากปากของมัมมี่ nanny นั่นเอง ในที่สุด ก็ตัดสินได้ว่า มัมมี่ nanny คือ ฟาโรห์ Hatshepsut

ทีมค้นหาต่อว่า อะไรคือสาเหตุการตายของ ฟาโรห์ Hatshepsut โดยนำมัมมี่เข้าเครื่อง scan 3 มิติ และพบว่า สาเหตุการตายอยู่ที่โรคเหงือก สมัยนั้นยังไม่มี antibiotic จึงเป็นสาเหตุให้แบคทีเรียเข้ากระแสเลือด

สุดยอดมากๆ ค่ะ ตั้งแต่การค้นหาตัวตน จนถึงค้นหาสาเหตุการตาย และในที่สุดค้นหาสาเหตุว่าทำไมเธอจึงถูกลบออกจากหน้าประวัติศาสตร์ของอิยิปต์ น่าสงสารมากๆ องค์กษัตริย์หญิงผู้ยิ่งใหญ่แห่งอิยิปต์ ฟาโรห์ Hatshepsut

ทีมค้นหาต่อมาอีกว่า แล้วทำไมอนุสาวรีย์รูปปั้นต่างๆ ของฟาโรห์ Hatshepsut จึงถูกลิ่มตอกเลาะลบเอารูปลักษณ์ออกไปหมด แล้วทีมก็มาเจอหลักฐานที่จารึกไว้โดย stepson หรือลูกเลี้ยงของฟาโรห์ Hatshepsut หรือ King ราเมเสสที่ 3 นั่นเอง ซึ่งทำไปเพื่อเป็นการลบล้างชื่อเสียงเรียงนามของเธอ เพื่อให้ตระกูลของตนมีชื่อในประวัติศาสตร์ตราบนานเท่านานโดยไม่มีชื่อของฟาโรห์ Hatshepsut มาสอดแทรกอยู่นั่นเองค่ะ

เพิ่มเติม (16 สค. 50) จากผู้อ่านค่ะ:

> ชื่อ: Detectiveoat13
> หัวเรื่อง: ขอแก้ไขเรื่องมัมมี่ Hatshepsut ครับ อ.
>
> ข้อความ:
> DNA ที่นำมาตรวจไม่ใช่ของ Ramesses นะครับ แต่เป็นของ Tuthmosis และคนที่ทำลายรูปและชื่อของพระนางก็คือ Tuthmosis III ครับ ไม่ใช่ Ramesses III
>
> Ramesses III นั้นอยู่ในราชวงศ์ที่ 20 ครับ ในขณะที่ Hatshepsut และ ตระกูล Tuthmosis อยู่ในราชวงศ์ที่ 18
>

หมายเลขบันทึก: 112082เขียนเมื่อ 16 กรกฎาคม 2007 21:33 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 สิงหาคม 2013 10:32 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

ดิฉันได้มีโอกาสไปสัมผัสประเทศอียิปต์ ที่กรุงไคโร ไปดูปิรามิด และสฟริงค์ (แต่เสียดายไม่ได้ไปดูมัมมี) ได้เห็นความมหัศจรรย์ของมนุษย์ที่ได้สรรค์สร้างด้วยพลังแห่งความศรัทธา ต้องขอยอมรับว่ายิ่งใหญ่สุดที่จะพรรณณาจริง ๆ

จากการจัดอันดับ 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคใหม่ ดิฉันเห็นด้วยที่ประเทศอียิปต์ ไม่ขอร่วมจัดอันดับด้วย เพราะปิรามิดที่สร้างจากน้ำมือมนุษย์ ในอดีตซึ่งไม่มีเครื่องมือที่ทันสมัยช่วยเลยนั้น เชื่อว่าถ้าไม่มีพลังแห่งความศรัทธาจะไม่สามารถสร้างได้ยิ่งใหญ่เช่นนี้

 

สวัสดีค่ะ

น่าสนใจมากค่ะ แสดงว่าผู้หญิงเก่งมานานมากแล้วเหมือนกันนะคะ

อยากถือโอกาสบอกว่าที่ บันทึของดิฉัน  กดเพิ่มความคิดเห็นไม่ได้ค่ะ เดี๋ยวดี เดี๋ยวใช้ไม่ได้ค่ะ log in อยู่ค่ะ

ขอบคุณค่ะ

เป็นที่เครื่องแม่ข่ายช่วงนี้รับการเข้าใช้ไม่ไหวในช่วงกลางวันค่ะ ตัวระบบไม่ได้มีปัญหาใดๆ ค่ะ

อาจารย์คะ

หนูก็ดู ทำไมหนูถึงเข้าใจมาตลอดว่า Hatshepsut นั้น คือ มัมมี่แข็งแรง ซึ่งอยู่ในสุสาน KV ...ที่โฮเวิร์ด คาร์เตอร์ พบเมื่อ 100 กว่าปีก่อน (นอนอยู่ในโลงไม้ฉ่ำฉา)

แต่พอมาอ่านบทความของอาจารย์ Hatshepsut  กลับกลายเป็น มัมมี่แม่นม ที่อยู่ในโลงโบราณยาวกว่าตัว ไปได้

 สงสัยหนูต้องไปดูอีกรอบค่ะ

วันนี้ก็มี แต่ดูไม่ทัน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ชอบ Dr. Zahi Hawass ค่ะ เก๋ามากๆ เขากำลังดำเนินการทวงจารึกโรเซ็ตต้าจากพิพิธภัณฑ์ในเยอรมัน ถ้าไม่มีคนๆ นี้ วัตถุโบราณของอียิปต์ต้องสูญหายอีกเพียบค่ะ

อีกอันที่น่าจะทวงคืนคือเสาจารึกที่อยู่ที่ฝรั่งเศส คู่ของมันอีกอันยังอยู่ในอียิปต์อยู่เลย อันนี้เห็นๆ น่าเสียดาย ของน่าจะได้กลับมาอยู่คู่กันในที่ที่มันควรอยู่

ใช่แล้วค่ะคุณ Little Jazz \(^o^)/ 

คนนี้แหละเจ๋งสุดๆ ช่วยทวงสมบัติคืนให้อิยิปต์ได้หลายต่อหลายชิ้นแล้วค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท