เราพบโรงแรมเพชรรัชต์การ์เด้น จึงตัดสินใจเลี้ยวเข้าและเมื่อเข้ามาในโรงแรมก็พบกับความรื่นรมณ์
ความรื่นรมณ์แรกคือบริเวณโถงของโรงแรมมีบรรยากาศเปิดโล่ง โดยไม่ต้องเปลืองแอร์และค่าไฟฟ้า บรรยากาศที่อากาศข้างนอกเข้ามาในตัวลอบบี้ได้สบาย ๆ นับเป็นความเก่งของสถาปนิกที่ออกแบบ ประเด็นนี้ขอปรบมือให้ดังนั้นจึงขอเชิญชวนสำหรับท่านที่ชอบบรรยากาศแบบธรรมชาติซึ่งตอนนี้เย็นสบายโดยไม่พึ่งเครื่องปรับอากาศ
ความรื่นรมณ์สองคือบริเวรห้องโถงนี้มีอินเตอร์ไร้สายบริการแขกของโรงแรม โรงแรมห้าดาวสี่ดาวสามดาวหลายแห่งขาดเรื่องนี้ไป แต่ผมคิดว่ามันเป็นบริการเสริมที่ดี ค่ำนี้มีคนมาใช้บริการในโถงนี้สองคนแต่ก็เป็นการเพิ่มความสะดวกสบายโดยไม่ต้องวิ่งรถไปหาอินเตอร์คาเฟ่ให้เปลืองน้ำมันอีกด้วย อันนี้ปรบมือชมครั้งที่สอง
ความรื่นรมณ์นี้ไปสอดคล้องกับบันทึกของท่านอาจารย์หมอวิจารณ์ที่ท่านเคยชมห้องประชุมแห่งหนึ่งของสถาบันหนึ่งที่โต๊ะประชุมจะมีเต้าเสียบปลั๊กสำหรับคอมพิวเตอร์สำหรับทุกที่นั่งแบบส่วนตัว ๆ และโรงแรมหลายแห่งไม่ค่อยมีที่เสียบปลั๊กเลย เมื่อเวลาแบ็ตฯหมดก็พลอยทำให้การสื่อสารขาดหายไปโดยเฉพาะการอ่านข่าวที่ต้องใช้เวลาอ่านอยู่นาน แต่ที่โรงแรมนี้บริเวณโถงล้อบบี้มีเต้าเสียบสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ ชาร์จแบ็ตบริการด้วยและค่อนข้างพอเพียงกับความต้องการเรื่องนี้ปรบมืออีกรอบ
ความรื่นรมณ์ที่สี่แต่ไม่สุดท้าย แต่หมดเวลาเนื่องจากต้องเดินทาง จึงหยุดไว้เท่านี้ก่อน เรื่องสุดท้ายนั้นคือ บริเวณหลังเคาเตอร์ ทางโรงแรมจัดตกแต่งด้วยภาพเขียนจิตรกรรมไทยขนาดใหญ่ราว 6 คูณ 2 เมตรเรื่องราวเกี่ยวกับเมืองร้อยเอ็ดเรื่องนี้น่าชมเชย(แต่ท่าจะงาม หากเป็นจิตรกรรมในรูปแบบอีสานแต่เขียนเรื่องเกี่ยวกับร้อยเอ็ดน่าจะดีนะครับ เผอิญชมมาชื่นชมจิตรกรรมฝาผนังเมืองร้อยเอ็ดจึงอดเสนอแนะเรื่องนี้ไม่ได้)แต่ที่มีงานศิลปะมาประดับก็นับว่าดีนะครับ
หมดเวลาแล้วขอออกเดินทางก่อนนะครับ คาดว่าวันนี้จะไปนอนที่เมืองสุวรรณภูมินะครับ จะหาเวลาตอนเย็นมาเล่าเรื่องการเดินทางใหม่
คุณ แผ่นดิน