ช่วงรอยต่อระหว่างเดือน คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช โทรฯมาชวนให้ไปคุยเรื่องการสร้างเสริมสภาพแวดล้อมธรรมชาติที่กรุงเทพฯ ผมเคลียตารางแล้วเห็นว่าปลอดโปร่งจึงรับปากว่าไปได้ ประจวบกับได้ข่าวเครือญาติชาวเฮฮาศาสตร์ชาวใต้-ชาวเหนือ มีพันธกิจร่วมกัน แล้วจะเดินทางกลับวันที่5คือวันนี้นั้นเอง ผมกะว่าจะไปถึงบางกอกบ่าย2โมง จะคุยกับคณะครูโรงเรียนรุ่งอรุณทันทีไปถึง แล้วช่วงแดดร่มลมตกจะชวนคุณเมตตา อาจารย์แป๋ว คุณแป๊ด น้าอึ่งอ๊อบ และพันธมิตรชาวกรุงอีกส่วนหนึ่ง ไปรับประทานอาหารเย็น
วาดฝันว่า..เราคงจะได้คุยกันตามธรรมเนียมของชาวเฮฮาศาสตร์ เพื่อเปลี่ยนความระลึกถึงมาเป็นความคิดถึงซึ่งหน้า บรรยากาศคงจะอบอุ่นชื่นมื่นเหมือนทุกครั้งที่ชาวเราพบกัน เอกลักษณ์นี้เป็นส่วนพิเศษเฉพาะที่เดียวในโลก สำหรับคนที่เอาใจเป็นตัวตั้ง การวัดกันที่ใจนั้นมีอานุภาพที่ยากจะอธิบาย แต่แล้วความแน่นอนก็คือความไม่แน่นอน ฟังพระท่านเทศน์ถึงจะเข้าใจง่าย ..ท่านบอกว่าคนเราไม่มีอะไรหร๊อก..ให้สังเกตที่ปลายจมูก ถ้าไม่มีลมเข้า-ออก มันก็จบสิ้นทุกอย่างง่ายๆแค่นี้เอง ไม่ต้องไปดูที่อื่น
แหมตอนแรกวาดฝันเสียอย่างดี จะยกทีมไปภัตตาคารที่โน่นที่นี่ หนูแป๊ดเล่าว่าจะเลี้ยงไวน์พ่อครูสัก5ลัง แฮะ แฮะ.. รอดตัวการถูกมอมไวน์ไปอย่างหวุดหวิด เรื่องนี้นะครับ ถึงจะเสียดายเพียงใดแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะมีเรื่องแสนเสียดายที่คาดไม่ถึงมาล้มทับเสียก่อน จึงต้องวุ่นอยู่กับงานส่งบุพาการีเดินทางไกล เที่ยวเดียวกับเจ้าพ่อดงหลวงส่งท่านอาวุโสไปเช่นกัน ถือว่าเป็นช่วงปลงอนิจัง ทำให้ได้สติขึ้นมาว่า คิดและทำอะไรควรจะเผื่อก๊อก2ไว้บ้าง ทุกเรื่องในโลกนี้มี2 ด้าน ถ้ามีความแน่นอน ก็ต้องมีความไม่แน่นอนเป็นของคู่กัน เมื่อวานนี้จึงได้คิดจากการไปวนเวียนอยู่กับวัดกับพระหลายเรื่อง
ก็ขอฝากบอกคุณญาติๆที่น่ารักที่สุดในโลกว่า นัดนี้พลาดไป เรารอวันที่พระอาทิตย์จะหวนมาฉายแสงรอบใหม่ได้ ซ้อมยิ้มและหัวเราะไว้ได้เลย เมื่อพร้อมแล้วเราจะร่วมกันเปิดก๊อกที่2อย่างชื่นมื่น นะแป๊ดนะ อามิตรพุทธ
หวังว่าเดือนกรกฎาคม เราจะพบกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง
ขอส่งคุณปู่เดินทางไกล สู่สคติด้วยค่ะ
สวัสดีค่ะพ่อครูฯ
เราเจอกันในฝันทุกคืนอยู่แล้วค่ะ ไว้ค่อยเจอตัวเป็น ๆ เมื่อฟ้าเป็นใจอีกครา ก็ได้ค่ะพ่อครูฯ