ไม่รู้ว่าคนจะยังจำคำสุภาษิตนี้ได้อยู่ไหม
"ช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม"
ทุกวันนี้ "ความเร็ว" ถือเป็นตัวชี้วัดประสิทธิภาพอย่างหนึ่ง
นักข่าวแข่งกันว่าใครจะรายงานข่าวได้เร็วกว่าคนอื่น
บริการอินเตอร์เน็ตแข่งกันว่าบริการของใครจะมีความเร็วสูงกว่า
ธุรกิจแข่งกันทำกำไรให้มากที่สุด เร็วที่สุด
Fast Food แข่งกันขยายกิจการ ทำอาหารโดยใช้เวลาน้อยที่สุด
หนังสือ "How to..." สูตรสำเร็จสำหรับชีวิตที่เหมือนบะหมี่สำเร็จรูปขายดีเป็นเทน้ำเทท่า
ชีวิตที่ยุ่งเหยิงของคนในปัจจุบันทำให้ "เวลา" สำคัญอย่างยิ่ง
"เวลาเป็นเงินเป็นทอง" ของใครต่อใครไปเสียแล้ว
ฉันไม่ปฏิเสธหรอกว่าความเร็วช่วยอำนวยความสะดวกให้ชีวิต
แต่เรากลับต้องสูญเสียความสามารถบางอย่างของเราไป
เรากลายเป็นคน "รอไม่เป็น" ไปเสียแล้ว
คนที่ดูทีวีโดยใช้รีโมทเป็นประจำ รู้สึกอย่างไรในวันที่รีโมทเสีย
คนที่ขับรถไปทำงาน รู้สึกอย่างไรเมื่อต้องใช้บริการรถเมล์
ลองพิจารณาดูสิว่า "ความเร็ว" ทำให้เรากลายเป็นคนขี้หงุดหงิดมากขึ้นหรือเปล่า
เรากำลังแข่งกันหายใจสั้นลง ๆ หรือเปล่า
ไม่รู้ว่า "เราฆ่าเวลา" หรือ "เราใช้เวลาที่เร่งรีบฆ่าเรา" กันแน่
หากเราใช้สิ่งอำนวยความสะดวกอย่างรู้เท่าทัน เราจะสามารถประหยัดเวลา ขณะเดียวกัน เราก็สามารถอดทนรอได้ยามจำเป็น และรู้จักใช้เวลาอย่างสุนทรีย์
งานบางอย่างต้องใช้เวลา ใจเย็น ค่อย ๆ ทำอย่างตั้งใจ
สถานการณ์ที่เลวร้ายต้องใช้เวลาคลี่คลายสถานการณ์
ที่อิตาลีเขามีขบวนการ Slow Food เพื่อให้คนใส่ใจกับการทำอาหารที่มีคุณค่า ใช้เวลาลิ้มรสและร่วมสำรับกับคนในครอบครัว แนวคิดนี้ได้รับความนิยมและแพร่หลายไปในหลายประเทศ
ลองฝึกรอให้เป็น เชื่อเถอะว่าชีวิตจะเย็นขึ้นเยอะ บางคนบอกว่า "การรอเป็นศิลปะในชีวิต"
ถ้าใช้รถส่วนตัว ทดลองขึ้นรถเมล์บ้างสักอาทิตย์ละครั้ง หรือ เดือนละครั้ง
ถ้าซื้อข้าวกิน ลองทำกับข้างกินเองบ้าง (ที่ไม่ใช่บะหมี่สำเร็จรูป) สักอาทิตย์ละครั้ง หรือเดือนละครั้ง
ถ้าดูทีวี ลองไม่ใช้รีโมทบ้างบางวัน
ได้ผลอย่างไรเล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ
สวัสดีเจ้าค่ะ คุณครู
เฝ้าแต่รอ รอ รอ รอ รอ พร่ำเพลงรักดั่งคนละเมอ ใต้มนต์ขลังนั่งคอยจนเก้อ ในที่เผลอรักเธอจนหมดหัวใจ คิคิ น้องจิแวะมาเยี่ยมเจ้าค่ะ มาร้องเพลง รอรักให้ฟัง ปัจจุบันเทคโนโลยีก้าวไกลอย่างไม่รั้งรอ แต่ทำไมน้อ น้องจินั่งรอให้จิตใจคนยกระดับสูงขึ้น กลับยังมาไม่ถึงสักที รอต่อไป รอ รอ รอ รอ รอ คิคิ รักษาสุขภาพด้วยนะเจ้าค่ะ
เป็นกำลังใจให้เจ้าค่ะ ---->น้องจิ ^_^
สวัสดีค่ะคุณใบไม้ย้อนแสง
"หากเราใช้สิ่งอำนวยความสะดวกอย่างรู้เท่าทัน เราจะสามารถประหยัดเวลา ขณะเดียวกัน เราก็สามารถอดทนรอได้ยามจำเป็น และรู้จักใช้เวลาอย่างสุนทรีย์ / งานบางอย่างต้องใช้เวลา ใจเย็น ค่อย ๆ ทำอย่างตั้งใจ / สถานการณ์ที่เลวร้ายต้องใช้เวลาคลี่คลายสถานการณ์"
สวัสดีอีกครั้งค่ะ
เวลาแห่งความสุขมักผ่านไปไวเสมอๆ นะครับ มาโพสด้วยระบบอินเตอร์เนตความเร็วสูง ครับ อิๆ
สวัสดีคะ
ดิฉันเป็นอีกคนหนึ่งที่ชอบทำอะไรให้เสร็จเร็วๆ ขนาดกินข้าวก็ยังกินเร็วเลยคะ จนมานั่งคิด ทำไมไม่เคี้ยวนานๆ ให้ได้รสชาติมากกว่านี้ ปัจจุบันก็ปรับไปเยอะแล้วคะ เพราะว่ารู้สึกเหมือนจะเคร่งเครียดเกินไป
บางทีก็ไม่ชอบรอนาน เพราะรู้สึกว่าเสียเวลา แต่ตอนนี้เรียนรู้แล้วคะว่า บางทีจริงจัง เคร่งเครียดเกินไปก็ไม่ดี ขำๆ กับชีวิต ให้ชีวิตเย็นลงบ้าง
แหม... บันทึกนี้โดนใจจริงๆ
นั่นหละครับ
ถ้าการมองตามแสงเป็นเสมือนกระแสหลักของสังคม การย้อนแสงคงเปรียบเหมือนการทวนกระแสอย่างหนึ่ง
หวัดดีค่ะคุณใบไม้
วันนี้มาอ่านบทความนี้บาง ..
ส่วนตัวเป็นคนใจร้อนมาก ถึงมากที่สุด...รออะไรไม่ค่อยได้ รอไม่ไหวค่ะ ทำอะไรต้องได้อย่างใจ จึงต้องเหนื่อย เพราะต้องทำเองเกือบทุกอย่างงในชีวิต อย่างนี้เขาเรียก..คนมีกรรมนะคะว่ามั๊ยล่ะ
กลุ่มเพื่อน ๆ ด้วยกันก็จะเป็นคนใจร้อน ใจเร็วคล้ายกัน อ้อ..ยกเว้นยัยปูนิ่ม ใจเย็นเป็นน้ำ แต่ดื้อตาใส และทำงานเร็ว ไม่เหมือนท่าทางเป็นน้ำอย่างนั้น ก็เลยคบกันได้ค่ะ
แต่ก็ได้บทเรียนว่า...ใจร้อนน่ะเสียเปรียบ ไม่ดีหรอก ใจเย็นดีกว่าเยอะค่ะ
แล้วจะมาอ่านใหม่ค่ะ ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลา...
สวัสดีค่ะ คุณจิ๊กกี้
หวัดดีครับ ผมใจเย็นมากไป ก็ไม่ค่อยดีใช่ไหม เพราะงานที่ทำก็มักไปเสร็จวันสุดท้ายประจำ ..
สวัสดีค่ะ คุณ นาย เอกราช แก้วเขียว
ทำงานเสร็จวันสุดท้ายนับว่ายังทันเวลาค่ะ เพียงแต่ว่าช่วงที่เร่งให้เสร็จรู้สึกร้อนรนใจมากไหมคะ ถ้าเป็นเช่นนั้นคงจะเป็นการใจเย็นในช่วงต้น แล้วต้องมาร้อนรนในช่วงท้ายค่ะ หากปรับให้เสร็จทันเวลาแล้วไม่ต้องร้อนรนด้วย น่าจะดีกว่าค่ะ
ที่บอกมาทั้งหมด ใบไม้ย้อนแสงก็ยังทำไม่ได้ค่ะ กำลังพยายามปรับปรุงตัวเองอยู่ค่ะ..^_^..
ขอบคุณค่ะ อาจารย์ประจักษ์ ที่แวะมาทักทายกัน
เป็นกำลังใจให้จิตใจเบิกบานและเป็นสุขเช่นกันค่ะ..^_^..
ไม่รู้จะทำไง ใจร้อนมากๆๆๆๆๆ นิสัยแย่ พอจะเย็นตะบะแตกทุกทีเลย อยากแลกเปลื่ยนความคิดเห็นอะ คำแนะนำด้วย ใครที่มีวิธีแก้หรือ ใจร้อนเหมือนเรา รบกวนขอเมล์หน่อยนะ จะขอคุยด้วย ตอนนี้เราเครียดมากๆๆๆๆ เหตุเพิ่งเกิด
จากเรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่อะ ทำไงดี
สวัสดีค่ะ คุณอิอิ
แต่ละคนมีพื้นนิสัยไม่เหมือนกัน หากพื้นนิสัยเดิม คุณเป็นคนใจร้อน จู่ ๆ จะให้ใจเย็นลงในทันที คงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก ต้องใช้เวลาฝึกฝน..
เวลาที่รู้สึกเครียด โกรธ ลองสังเกตลมหายใจของตัวเองดู จะพบว่า ลมหายใจค่อนข้างสั้น ลองเรียกสติด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ หายใจออกยาว ๆ สักพัก จะช่วยเรียกสติได้ และเป็นการผ่อนคลายอารมณ์ตัวเองอย่างหนึ่ง
เวลาที่เกิดเรื่องอะไรกระทบอารมณ์ของเรา จิตใจเราจะหวั่นไหว ลองหยุดคิด ตั้งสติดู มิเช่นนั้นแล้ว ใจจะคิดฟุ้งซ่านไปเรื่อยเปื่อย ยิ่งรู้สึกปั่นป่วนวุ่นวาย เมื่อใจเริ่มสงบ จึงค่อยทบทวนดูอีกที
ไม่ว่าเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ ถึงเวลามันก็จะผ่านไป อยู่ที่ว่าเราจะตอบสนองให้ผ่านไปอย่างไร หากมีสติจะช่วยให้เรื่องใหญ่กลายเป็นเรื่องเล็กได้ค่ะ
ไม่รู้เหมือนกันว่า ตอบช้าไปหรือเปล่า...
ให้กำลังใจคุณอิอินะคะ...^__^...
อ่านความเห็นนี้จบแล้ว ลองหายใจเข้า-ออกยาว ๆ สัก 3 ครั้งสิคะ