น.เมืองสรวง
เรียนรู้ชุมชน เยี่ยมเยียนชุมชน มุมมองของชุมชน ภูมิรู้ชุมชนและท้องถิ่น นายอำนาจ แสงสุข

จากกูรูสู่ลูกศิษย์ ในการถ่ายทอดเรื่องราว(ศาสนาเปรียบเทียบ)


มนุษย์ผู้มีจิตใจ อันประเสริฐ ย่อมเห็นทางสว่างในจิตใจ ย่อมไม่แบ่งแยกเขาหรือเรา จงเป็นผู้ตื่นจากโลกแห่งความลุ่มหลง เพื่อค้นหาทางสว่างในจิตใจ ....ดับไฟในใจ ให้มอดลง ยังคงอยู่ เพื่อความมั่นคงสถาพรของผองไทย"

......เมื่อหลายพันปีก่อน รัฐปัตตานี ที่รุ่งเรืองเป็นดินแดนแห่งพุทธศาสนาและพราหมณ์ ในอาณาจักรศรีวิชัย ต่อมาอาณาจักรศรีวิชัย เสื่อมลง จึงได้เกิดอาณาจักรต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย ..เหตุผลว่า...อิสลามเกิดขึ้นอย่างไรในปัตตานี ....ในช่วงเวลาต่อมา มะละกาก็จัดตั้งเป็นรัฐอิสลามเช่นกัน (แต่หลังจากนั้น มะละกาถูกโปรตุเกตโจมตี จนพ่ายแพ้ใน พ.ศ. 2054 และใน พ.ศ. 2184 ฮอลันดา ได้มายึดครองต่อจากโปรตุเดต ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า ปัตตานีเป็นรัฐอิสลามก่อนมะละกา โดยในแต่ละเมือง อิสลามได้เริ่มเข้ามาในระดับชาวบ้าน ก่อนที่จะเข้ามาในระดับผู้ครองรัฐจนกลายเป็นรัฐอิสลามในที่สุด เชื่อว่า อิสลามเข้าปัตตานีในราวคริสตศตวรรษที่ 10 หรือ ค.ศ. 1613 ว่า อิสลามเข้าปัตตานีและปะหังก่อนแล้วจึงเข้ามะละกา

....ในประวัติศาสตร์ของรัฐกลันตัน ระบุว่า ในราว ค.ศ. 1150 หรือพ.ศ. 1693 มีคนจากปัตตานีคนหนึ่งไปเผยแพร่อิสลามในเมือง ซึ่งแสดงว่า อิสลามเริ่มเข้าไปในปัตตานีก่อนที่จะสร้างเมืองมะละกาถึง 200 ปี และก่อนพ่อขุนรามคำแหงตั้งเมืองสุโขทัยประมาณหนึ่งศตวรรษ ถามว่า..ทำไม อิสลามเผยแพร่อย่างรวดเร็วในปัตตานี

...ในราวคริสตศตวรรษที่ 15 ตามพงศวดารปัตตานีระบุว่า ราชารัฐปัตตานีล้มป่วย หมอหลวงรักษาไม่หาย ในที่สุดมีชาวปาซาย (ผู้ที่นับถือมุสลิม (อิสลาม)และผู้เผยแพร่ศาสนา อาสาจะรักษาโรคประจำของพระราชา และรับปากว่า หากว่าจะรักษาหายจะรับนับถืออิสลาม ราชาก็ยินยอม เมื่อหายจากโรคแล้ว ราชาจึงเชิญ ชัยค ฯ สะอีด ให้สอนศาสนาแก่พระองค์  โอรส และธิดาตลอดจนขุนนางทั้งปวงและเข้ารับอิสลามหมด ถัดจากนั้นพลเมืองก็เจริญรอยตาม เมื่อเข้ารับอิสลามแล้วพระองค์ได้เปลี่ยนนามมาเป็น " อิสมาอีลชาร์ " ศาสนาอิสลามก็ประดิษฐ์ ลง ณ เมืองปัตตานี ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา คาดกันว่า เหตุการณ์ราชาปัตตานีเข้ารับอิสลามนี้ เกิดขึ้นในราว พ.ศ. 2000 หรือ ค.ศ. 1458 จริง ๆ แล้ว อิสลามเข้าปัตตานี ประมาณ 300 กว่าปี ก่อนที่กษัตริย์ปัตตานีจึงเข้ารับอิสลาม

" มนุษย์ผู้มีจิตใจ อันประเสริฐ ย่อมเห็นทางสว่างในจิตใจ ย่อมไม่แบ่งแยกเขาหรือเรา จงเป็นผู้ตื่นจากโลกแห่งความลุ่มหลงเพื่อค้นหาทางสว่างในจิตใจ...ดับไฟในใจให้มอดลง ยังคงอยู่เพื่อความมั่นคงสถาพรของผองไทย"

                                                                          น.เมืองสรวง 12/01/07

.....ภายหลังจากรัฐกลันตัน เสื่อมลง ไม่มีกษัตริย์ปกครอง สืบเนื่องมาจนปี พ.ศ. 2272 หรือจนสิ้นราชวงศ์ปัตตานี การปกครองต่อจากนั้น จึงอยู่ภายใต้ระเบียบการปกครองราชอาณาจักรไทย หรือการปกครองหัวเมืองโดยมีเจ้าเมืองรับผิดชอบ ผู้ปกครององค์สุดท้ายของราชวงศ์ปัตตานี เป็นกษัตริย์ทรงพระนามว่า รายากุนิง (พระเจ้าเหลือง) ครองราชระหว่าง พ.ศ. 2178-2231 โดยเป็นองค์ที่ 9 ส่วนวงศ์กลันตันมีทั้งสิ้น 8 องค์ (พ.ศ.2231-2272 )

. ....สรุป......จังหวัดปัตตานีในปัจจุบัน....เป็นจังหวัดที่มีความอุดมสมบูรณ์ ทางด้านวัฒนธรรมและจารีตประเพณี ของกลุ่มชาติพันธุ์อิสลามมาตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน ในด้านวัฒนธรรมและความรู้สึกนึกคิด ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานแห่งหลักการอิสลามและวัฒนธรรม ส่วนกลาง หมายถึง กรุงเทพฯ ไม่ได้เข้าไปมีอิทธิพลเหนือประชากรบริเวณนี้เลย

...อนึ่งหากจะพิจารณาในด้านวัฒนธรรมของปัตตานี โดยใช้ศาสนาหรือแนวทางดำเนินชีวิตและระบบความเชื่อเป็นเกณฑ์ แล้วภาคใต้ก็อยู่อย่างร่มเย็น เป็นสุข ตลอดไปอย่างถาวร นี่คือประเทศของเรา " ไทยแลนด์" สยามเมืองยิ้มแบ่งปัน น้ำใจ....สู่สายธารไหลเย็น...เพื่อพี่น้องผองไทย...."

หมายเหตุ.....ค้นคว้าเพื่อหยิบยกบางส่วนมาเผยแพร่..และวิเคราะห์ถึงเหตุผล " ที่มาของหนังสือ " กลุ่มชาติพันธุ์ชาวไทยมุสลิม"  จาก อาจารย์เสาวนีย์ จิตหมวด... 

..... 

คำสำคัญ (Tags): #ปัตตานี
หมายเลขบันทึก: 94662เขียนเมื่อ 6 พฤษภาคม 2007 16:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 18:29 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

          ประวัติศาสตร์รัฐปัตตานีนั้นไม่ค่อยมีการเผยแพร่เลยครับและก็เป็นจุดสำคัญหนึ่งที่บ่งบอกว่าการปกปิดบิดเบือนไม่ใช่เหตุผลทางความมั่นคงอีกต่อไป

         ขอบคุณที่นำเรื่องราวมาฝากกันครับ

หากต้องการศึกษา "ค้นหาชื่อหนังสือเล่มนี้ได้ครับ ที่

ม.ธรรมศาตร์  ห้องสมุด มหาวิทยาลัย / ม.ราชภัฎพระนครศรีอยุธยา/ หรือที่ อาจารย์  ผศ. สาวนีย์    จิตต์หมวด ที่ ม. ธรรมศาสตร์ ครับ  ส่วนผมมีครับ  แต่ที่อัดสำเนาไว้ เพราะเคยไปทำงานที่ชุมชน "มุสลิม" 2 ปี เลยขออัดสำเนาไว้ 1 เล่ม ที่ ชาวชุมชน เขาเอื้ออารีให้อัดสำเนาไว้ครับ

สวัสดีครับ
Pน.เมืองสรวง
ขออนุญาติตัดข้อความดีๆบางตอนไปรวมใน http://gotoknow.org/blog/mrschuai/99502
ขอบคุณมากครับ

" มนุษย์ผู้มีจิตใจ อันประเสริฐ ย่อมเห็นทางสว่างในจิตใจ ย่อมไม่แบ่งแยกเขาหรือเรา จงเป็นผู้ตื่นจากโลกแห่งความลุ่มหลงเพื่อค้นหาทางสว่างในจิตใจ...ดับไฟในใจให้มอดลง ยังคงอยู่เพื่อความมั่นคงสถาพรของผองไทย"

น.เมืองสรวง 12/01/07

ผมชอบมากๆ เรยขอนำไปใช้บ้างได้ไหมคับ เหมาะกับสถานการ ประเทศตอนนี้ดี

(ไม่รู้ว่ายังอยู่กันป่าว)

พระพนมวัง เป็นโอรสของพระพนมทะเลศรีเจ้า เมืองเพชรบุรี ได้รับบัญชาจากกรุงสุโขทัย ให้ส่งพระพนมวังไปปกครองเมืองนครศรีธรรมราช ที่ว่างเจ้าเมือง เมื่อปี พ.ศ. 1825 ต่อมาพระพนมวังได้ส่งพระฤทธิเทวา ขุนนาง ให้ออกไปปกครองเมืองโกตามหลิฆัย เมื่อปี 1887 นับเป็นเจ้าเมืองคนแรก ส่วนคนที่ 2 ไม่ทราบแน่ชัด คนที่ 3 ชื่อพญาตุกุรุปมหาจันทรา ซึ่งเป็นบิดาของพญาอินทิราซึ่งเป็นเจ้าเมืองปัตตานีคนแรกเนื่องจากเมืองโกตามหลิฆัยได้เสื่อมโทรมตามกาลเวลา พญาอินทิราได้มาตั้งเมืองใหม่ชื่อเมืองปัตตานีดารัสลาม ภายหลังพญาอินทิราเปลี่ยนชื่อเป็นสุลต่านอิสมาเอล ชาห์ จะเห็นได้ว่าเจ้าเมืองปัตตานี เดิมก็คือคนในราชสำนักของสยาม เพราะฉะนั้นเมืองปัตตานีก็คือเมืองหนึ่งของไทยมาช้านาน การแบ่งแยกดินแดนคือการเนรคุณแผ่นดิน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท