สวัสดีครับทุกท่าน
วันนี้ได้เปิดทีวีช่องเก้า รายการ บ่ายนี้มีคำตอบ มีการประชาสัมพันธ์งาน "เปิดถนนคนเรียน" ให้ทางโรงเรียนหรือผู้ปกครองพาเด็กไปดูกิจกรรมหลายๆ อย่างโดยมีศูนย์แต่ละภาค ทั้ง 4 ภาคของประเทศไทย นับว่าเป็นมิติใหม่ ของการศึกษาแบบนอกห้องเรียน แบบนี้ผมว่าการศึกษาไทยท่าทางเป็นแนวทางหนึ่งที่น่าจะก้าวไปอีกขั้นหนึ่ง จากฟังในรายการ ท่านกรรมการจัดงาน ท่านบอกว่ามีการเชิญปราชญ์ชาวบ้านมาร่วมด้วย พูดคุย เชิญคุณครูที่ถ่ายทอดเก่งๆ ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แสดงผลงานนักเรียนทั่วประเทศ เจอแบบนี้คุณไม่ประทับใจในกิจกรรมแล้วจะบอกว่าอย่างไรอีกครับ ผมจำวันที่ไม่ได้แล้วนะครับ ท่านใดสนใจลองติดตามดูนะครับ อาจจะมีการประชาสัมพันธ์ทางทีวี
ผมเลยอยากจะต่อยอดงานนี้ให้อีกนิดครับ เพื่อว่าไม่อยากให้งานหายไปภายในช่วงเวลาที่จัดงาน ผมมีแนวคิดว่า น่าจะมีการเปิดศูนย์ พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ประจำภาค ไปด้วยเลย โดยเอาผลงานต่างๆที่เข้าแสดงทั้งสี่ภาค ให้ทำจำนวนเพิ่มขึ้นมา โดยมีการตั้งแสดงและประยุกต์ให้เด็กสามารถเล่นได้ด้วย เป็นทำนองศูนย์การเรียนประจำภาคไปเลยครับ หรือหากมีงบเยอะขึ้น ก็ตั้งเป็นศูนย์ ตามที่ต่างๆ หรือจะตั้งจังหวัดละศูนย์ก็ได้ครับ แล้วสร้างนิสัยการพาลูกเข้าพิพิธภัณฑ์เพื่อให้ลูกไปเล่นกับคนอื่นๆ ตามเครื่องมือที่มี เสริมสร้างเทคนิคการทำความเข้าใจ โดยให้เด็กเล่นได้ด้วย แทนการเขียนว่า ดูแต่ตา มืออย่าต้อง ของจะเสีย แล้วประชาสัมพันธ์ให้ถึงครับ คนอาจจะหันหน้ามาพาลูกไปศูนย์การเรียนรู้ในวันเสาร์อาทิตย์แทนการพาลูกเข้าห้างแทน ผมว่าคงน่าสนใจมากๆ เลยครับ
ผมเคยไปพิพิธภัณฑ์เยอรมันที่เมือง มิวนิค ครับ ใหญ่มากครับ วันนั้นไปวันอาทิตย์ (เค้าปิดทำการวันจันทร์ เป็นมาตรฐาน) พ่อแม่เด็กพาเด็กไปดู คนใหญ่ๆ โตๆ ก็ไปดูครับ นักศึกษาก็ไปกัน คนเข้าแถวยาวเป็นร้อย โอ้โห....ทำไมเยอรมันมีนิสัยกันแบบนี้เนี่ย วันหยุดพาลูกไปเที่ยวหรือเข้าพิพิธภัณฑ์ ทำให้ผมอดคิดถึงเมืองไทยไม่ได้เลยครับ
เข้าไปข้างในนะครับ โอโห้ ทำไมเครื่องเล่นสำหรับเด็ก สำหรับผู้ใหญ่ มีเต็มไปหมดครับเนี่ย เอาเครื่องคอมพิวเตอร์มาเรียงกันเต็มไปหมด เริ่มกันตั้งแต่ลูกคิดกันเลย แล้วมาเครื่องคำนวณต่างๆ เช่นของ นาเปียร์ โอโห้ทำให้ต้องคิดย้อนยุคไปยังตอนนั้น ว่าหากผมอยู่ตอนนั้น ผมจะคิดยังไงหนอ แล้วเราก็คิดล้ำหน้าไป เดินไปอีกนิด อ้าวที่เราคิดเมื่อกี้ ได้มีการพัฒนาและสร้างขึ้นไปแล้ว โอ้โห...สุดยอด
พอดีผมเคยไปมาหลายที่ ตามพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้เหล่านี้ ล้วนมีความสุขจริงๆ ครับ พ่อแม่พาลูกเข้าไปเนี่ย พ่อแม่โดนลูกถาม เอาหล่ะว้า คราวนี้แม่จะตอบไงเนี่ย อธิบายไม่ได้ก็ต้องหาเจ้าหน้าที่แล้วหนอ ได้คำตอบเสร็จก็เอามาอธิบายลูกต่อ เครื่องเล่นเครื่องมือ มีเกือบทุกสาขาเลยครับ ผมเดินทั้งวันดูไม่หมดครับ....อิๆ
เคยไปที่บอนน์ กับเมือง กีเซ่น ก็สนุกมากๆ ครับ ให้เด็กคำนวณพื้นที่วงกลมโดยใช้แผ่นไม้สามเหลี่ยม หากเด็กไม่รู้จักค่าไพ Pi ทำอย่างไร อะไรทำนองนี้ครับ แล้วเอาแผ่นไม้สามเหลี่ยมนั้น มาใส่ในช่องสี่เหลี่ยมเพื่อคำนวณต่อ และได้ว่า พื้นที่วงกลมนั้น กับพื้นที่สีเหลี่ยมนั้น ก็เท่ากันด้วย แหม....ช่างคิดจริงๆครับ มีเรื่องแสง เรื่องกลไกต่างๆ ผมนึกแล้วอยากจะเสกให้มีทั่วเมืองไทยเลยครับ
การให้เด็กได้ฝึกสมองแบบนี้หล่ะครับ ผมว่าเด็กได้คิดต่อ กลับมาบ้าน หาอะไรทำเล่นในหมู่บ้าน สนุกๆ แน่ๆ ครับ
แล้วคุณหล่ะครับ คิดว่าอย่างไร หากเมืองไทยจะมีพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ ผมใช้คำว่า พิพิธภัณฑ์ ดูเหมือนว่าที่เก็บของเก่านะครับ แต่หากทำให้สนุก ไม่แน่พิพิธภัณฑ์เก็บของเก่าที่อื่น เด็กจะเห็นคุณค่า ต่อไป ก็จะเข้าไปดูรากเหง้าของบ้านเกิดเมืองนอนตัวเองในการทบทวนความจำได้นะครับ ... ว่าแล้วมันจะน่าเขินตัวเองไม่น้อยครับ เมื่อฝรั่งไปเยี่ยมต้องพาฝรั่งไปเที่ยว โดยไปครั้งแรกพร้อมกับฝรั่งเลยครับ....น่าอายจริงๆ นะครับ ไม่ต้องใครเลยครับ ผมนี่หล่ะครับ ด้วยความที่ว่าไม่ค่อยได้ไปไหนครับ ตอนอยู่เมืองไทย ห้าๆๆๆ.... เพิ่งจะมาตระหนักคำว่าพิพิธภัณฑ์ก็ที่นี่หล่ะครับ แต่เด็กไทยมักไม่ชอบเข้านะครับ มันคงเชยๆ มั้งครับ (แต่คงมีหลายๆ คน อยากจะเชยนะครับ ผมว่าตอนนี้)
ต่อไปอาจจะมีการเปิดสนามบอล แลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน หรือว่าแบบเปิดสนามในตำบลคนพัฒนาชุมชน มาเจอกันครับ คงสนุกครับ ทำให้เกิดจริงๆ แล้วต่อเนื่องนะครับ แบบนี้ เด็กจะได้กลับมาคิดว่า ต่อไปจะสร้างอะไรเอาไปแสดงเองบ้างครับ
แม้ว่าจะตั้งเป็นตลาดนัดชุมชน หรือตลาดนัดสีเขียวอย่าง จ.สุรินทร์ ผมเคยดูทางทีวี แบบว่า ชื่นชมมากๆ นะครับ ฝากท่านผู้อ่านไปบอกด้วยครับ ว่าทำกันต่อไปนะครับ ขอเป็นกำลังใจครับ
พิพิธภัณฑ์เรียนรู้ แต่ละที่ก็มีผลงานจากทั่วประเทศ ส่งเข้ามาจัดแสดงและให้เล่นกัน ให้เข้าใจว่านี่คือลูกลม ของทางใต้ อันนี้ของทางอีสาน และอื่นๆ
คุณคิดอย่างไรบ้างครับ
ขอบคุณมากครับ
เม้ง สมพร ช่วยอารีย์
ปล. รู้สึกว่าคำว่าแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เริ่มกระจายไปทั่วประเทศแล้วมั้งครับ วันก่อนผมโทรไปคุยกับคุณแม่ เห็นท่านพูดถึงคำนี้ ผมแอบยิ้มในใจแล้วหลุดปากแซวไปว่า แหมไม่ธรรมดานะครับ รู้จักคำว่า แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ด้วย สุดยอดจริงๆ ห้าๆๆๆ