สวัสดีครับคุณเม้ง
กราบสวัสดีท่านอาจารย์ครับ
สบายดีไหมครับ ขอบคุณมากครับสำหรับตัวอย่างดีๆ และความเห็นที่ให้ความสำคัญในเรื่องการศึกษาเป็นอย่างดีตลอดมาครับ
จริงๆ บ้านเราหากเราจับรากเหง้าเราได้ถูกจุด เราจะอยู่ได้อย่างสบายครับ แล้วเดินไปตามแนวทางนั้นและต่อยอดการพัฒนาโดยมีพื้นฐานเหง้านั้นให้เหง้านั้นเป็นฐานที่มั่นคง ยอดที่เราได้ก็คงจะมั่นคงด้วยวันหนึ่งทำไมเราจะประกาศไม่ได้ครับ ว่าเป็นประเทศที่กำลังพัฒนาแต่ประชาชนมีกินดีอยู่ดีมีความสุข สุขภาพแข็งแรง เราไม่ต้องเป็นเสือสิงกระทิงแรดในเอเชียเลยครับ แต่เราทำให้คนในชาติอยู่ได้ ด้วยลำแข้งของเราเอง ผมถึงอยากให้ชุมชนเข้มแข็งที่เปี่ยมไปด้วยการศึกษาที่เข้าใจ อยู่ร่วม และพัฒนาคนในชุมชนได้ครับ จริงๆ เรามีองค์กรครบในระดับชุมชนครับ แต่เราเจอมารการศึกษาเยอะครับ เป็นมารทางความคิดนะครับซึ่งจะทำให้การศึกษาไม่เคลื่อนไปในทางที่ควรเป็น....
ผมเชื่อว่าคนไทยทำได้ครับ....ส่วนเราจะทำหรือไม่ก็อยู่ที่คนไทยนี่หล่ะครับ ทำแยกๆ กันทำ ก็อาจจะทำกันซ้ำซ้อน แต่ทำรวมๆ กันทำเป็นทีม ก็เป็นบ้านเร็วครับ
ประเทศที่เค้ากล้าประกาศได้อย่างที่อาจารย์กล่าวมาเค้าเอาจริงครับ เอาจริงสนับสนุนจริง ความจริงก็จะเกิดกับเค้าเองครับ ปัญหาที่เคยมืดแปดก้าน สิบด้าน หรือ 26 ด้าน ก็ถูกแทนที่ด้วยปัญญา เมื่อเกิดปัญญา แสงก็จะส่องเข้าไปทำให้ที่เคยมืด 26 ด้านนั้นก็เริ่มสว่างๆ มากขึ้น จนในที่สุดจุดยืนในกล่องดำ ก็คงเห็นเด่นชัดครับ ว่าอยู่ตรงไหนครับ
ขอบพระคุณอาจารย์มากๆ นะครับ
สวัสดีค่ะ คุณเม้ง
... โอ้ย ปวดเฮด ... ปูจำได้หนา เรารณรงค์เรื่องนี้มาตั้งแต่ ปูอายุ 6 ขวบ .... เวลา สส. มาหาเสียงแถวบ้านเอย ... ศึกษา มาที่หนึ่ง สังคม มาที่สอง เศรษฐกิจ มาที่ 3
.... แล้วเป็นไง จนตอนนี้รำลึกประชาธิปไตย ไปกี่ทศวรรษ แล้ว ก็ยัง อีหรอบเดิม .....
.... ตอบได้ไม่ต้องคิด ว่าไม่ล่มหรอกค่ะ เพราะตอนนี้มันก็ล่มไปเยอะแล้ว การศึกษาบ้านเรานะ ... 55
.... ดูหลายๆ ประเทศ เน้นการศึกษา ก็เห็นอยู่แบบมีความสุข ดี ... การกระจายความเจริญ ไม่ค่อยมีช่องว่างทางเศรษฐกิจ ระหว่าง คนรวย คนจน มากมายนัก
... ประเทศเค้าได้ชื่อว่า เป็นประเทศที่มั่งคั่ง ร่ำรวย โดยภาพรวม แต่ถ้าเราสังเกตจะพบว่า แทบจะไม่มีโผรายชื่อ เศรษฐี ติดอันดับโลก เลย ก็ว่าได้
.... เราต้องเน้นที่ตัวความรู้จริงๆ และความรู้นั้นต้องสามารถนำมาใช้ได้จริงๆ สอดคล้องกับสภาพพื้นที่
... เลิกเสียทีเถอะ กับค่านิยมผิดๆ ... ปริญญา ก็แค่นั้น ... สถาบัน ก็งั้นๆ ... ที่เรียนนะ รู้หรือเปล่า ตัวตน ความต้องการตัวเอง จริงๆ หรือเปล่าว่า แท้จริงๆ แล้ว ผู้เรียนรักชอบและถนัดอะไรมากที่สุด ....
สวัสดีครับคุณปู
สบายดีไหมครับ อิๆๆ เข้ามาอ่านถึงก็ปวดหัวเลยหรือครับ ก็ตั้งใจจะให้ปวดหัวอยู่แล้วนะครับ ปวดคนเดียวก็ให้คนอื่นปวดด้วยไงครับ จะได้ช่วยกันแบ่งเบาดีไหมครับ หากแบ่งเบาการปวดหัวกันหลายๆ คน ก็คงทำให้ภาระการปวดหัวของแต่ละคน นับว่าเป็นการกระจายการปวดกันแบบทั่วถึง คงเหมือนๆกับการกระจายการศึกษา ความมั่งมีกินดีอยู่ดี
สำหรับปริญญาจริงๆ แล้วมันเป็นแค่ของแถมครับ เพราะลงลึกๆ ไปแล้วกระดาษช่วยอะไรไม่ได้นะครับ กระบวนการภายในเท่านั้น (กำลังภายใน) ที่จะงัดออกมาเพื่อต่อสู้กับปัญหา แปลงปัญหาให้เป็นปัญญาให้ได้ครับ เป็นปัญญาแล้วใช่ว่าจะครบวงจร ต้องมีการนำปัญญานั้นไปใช้ให้เกิดประโยชน์ครับ
ชอบประโยคท้ายมากๆ เลยครับ เด็ด เผ็ด มันส์ ดื่มน้ำเย็นๆ ซักแก้วไหมครับ พร้อมดอกการศึกษาซักดอกไหมครับ
... เลิกเสียทีเถอะ กับค่านิยมผิดๆ ... ปริญญา ก็แค่นั้น ... สถาบัน ก็งั้นๆ ... ที่เรียนนะ รู้หรือเปล่า ตัวตน ความต้องการตัวเอง จริงๆ หรือเปล่าว่า แท้จริงๆ แล้ว ผู้เรียนรักชอบและถนัดอะไรมากที่สุด ....
เหมือนได้กินแกงไตปลา กับผักในสวนสมรมเลยครับ เผ็ดหวี้ อิๆๆ แต่หรอยจังหูแหล่ะ....ยิ้มๆ ครับ
คุณปูคิดว่าแนวทางไหนที่จะขับเคลื่อนไปสู่การใช้ความรู้และทำให้เกิดการศึกษาแบบยั่งยืนที่คืนผลสู่ชุมชนอย่างแท้จริงได้บ้างครับ.....ในสภาพสังคมเราในปัจจุบันนี้นะครับ
ขอบคุณมากครับ