วันนี้ในอารมณ์เรื่อย...นิ่งๆ...
มองความเป็นไป..ของสิ่งรอบด้าน ผ่านพ้นภาระกิจ พิจารณาลมหายหายใจตนเอง
บางครั้งก็สะดุด...เมื่อสติมาทุกอย่างก็ราบรื่น...
...
จึงโทรหาพ่อที่นับถือท่านหนึ่ง เพื่อถามข่าวคราวความเป็นไป ทราบมาว่าพ่อไม่ค่อยสบาย เจ็บออดๆแอดๆ...สามวันดีสี่วันป่วย พ่อชวนคุยเรื่องทั่วไป เรื่องพี่แมวกับลูกสาว พ่อเล่าว่าพ่อสงสารลูกสะใภ้คนนี้ของพ่อ ..และพ่อก็เป็นห่วงลูกชายพ่อ ... พ่อเล่าว่าเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานั้น ลูกชายพ่อพาผู้หญิงคนใหม่มาที่บ้าน...พ่อได้แต่นิ่งและมองความเป็นไปของลูกชายอย่างเป็นห่วง...
...
พ่อจึงถามแบบเปรยๆ กับลูกสาวคนนี้ของพ่อว่า ผู้หญิงคนนั้นทราบหรือเปล่าว่าลูกชายพ่อมีเมียมีลูกอยู่...เพราะเห็นหอบหิ้วกันไปมา...อย่างไม่รู้สึกรู้สาต่อการผิดศีลธรรม...ลูกสาวของพ่อจึงตอบไปว่า...เขาอาจทราบหรือไม่ทราบก็ได้ แต่นั่นเขาก็เต็มใจ...แล้วพ่อก็เล่าว่าเขามาเอารถสีขาวกลางเก่ากลางใหม่ของพ่อขับออกไปเพื่อไปพักกันที่อื่น...
...
ดิฉันนั่งฟังพ่ออย่างเงียบ...ก็ให้เกิดความรู้สึกสงสารพี่แมว และลูกสาวมาก พี่แมวเป็นหญิงสาวชาวสวนที่เคยผ่านการผ่าตัดสมองมา...และตอนนี้ก็เป็นแม่บ้านทำงาน..ทำสวนไปเรื่อยๆ...ไม่มีแม้สิทธิ์เสียงอะไรที่จะไปต่อกรเพื่อเรียกร้อง ทวงสิทธิ์ของความเป็นครอบครัวตนกลับมาได้จากสามีของตน ได้แต่ก้มหน้าก้มตารับสภาพกับการที่สามีมีผู้หญิง...คนใหม่ไปเรื่อย...
พ่อเล่าว่า..ผู้หญิงคนใหม่ของลูกชายพ่อนั้นเป็นถึงครูบาอาจารย์ กำลังเรียนในระดับสูง...เธอคนนั้นไม่รับรู้เรื่องศีลธรรมเลยเหรอ ลูกสาวพ่อก็เลยแย้งไปว่า..เธออาจนับถือศาสนาคริสต์ก็ได้ที่เชื่อในเรื่องความรัก...แต่พ่อก็แย้งมาว่า...ศาสนาไหนๆ...ก็ไม่เคยสอนให้คนทำผิดหรอก...อย่ามาอ้างเลย..
...
ลูกสาวพ่อได้แต่สะท้อนในใจ และคอยมองความเป็นไป...
แห่งกงกรรมกงเกวียนที่หมุนวน...ล้อไปตามเวลา...
เหยื่อ..แห่งอารมณ์
และกิเลส...แห่งความ "รัก โลภ โกรธ หลง"...ที่กำลังครอบงำคนที่มีการศึกษาสูง..แต่หามีศิลธรรมที่ดีงามไม่...
...
ก่อนสิ้นสุดการสนทนา...ลูกสาวได้แต่บอกพ่อไปว่า..ปล่อยให้เป็นไปตามกรรมเถอะพ่อ...กรรมใดใครก่อกรรมนั้น...ก็จะวกกลับมา ลูกเชื่อเช่นนั้นนะ...ลูกสาวบอกพ่อก่อนวางสาย...
ขณะที่ลูกสาวคุยกับพ่อ..เหมือนได้ยินเสียงสะอื้อจากพ่อ...ที่มีต่อความสงสารลูกชาย ในสิ่งที่เป็นไปและการสร้างเวรกรรมที่ไม่หยุดหย่อน...
....
ลูกชาย...ลืมไปว่าตนเองก็มีลูกสาว...และภรรยาที่คอยอยู่ตลอดเวลา...
...
สำหรับกระปุ๋ม...สร้างภูมิคุ้มกันแก่ตนเองได้ดีพอเวลาที่เจอคนที่มีความทุกข์...คะ
บางครั้งการเรียนศาสตร์ทางด้านนี้...เหมือนเรียนรู้เรื่องมนุษย์ที่มักวิ่งเข้าหาความสมบูรณ์นะคะ...
แต่หากหยุด...และนิ่ง
อยู่อย่างพอเพียงตามสภาพที่เป็นอยู่...ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ...ก็อาจจะช่วยให้เกิดจุดที่สมบูรณ์แห่งมนุษย์นั้นเร็วยิ่งขึ้น...
...
เขียนไปแล้วก็นึกถึงพ่อแก่...ที่นั่งเงียบเหงาอยู่คนเดียวที่บ้านจังเลยคะ...สงสารพ่อ
พี่เล็ก...
ขอบคุณมากนะคะ...ที่แวะมาเติมใจให้เสมอ...
สำหรับกะปุ๋มคงไม่เป็นไรหรอกคะ...ปล่อยให้สัตว์โลกเป็นไปตามกรรม...
ทำดีได้ดี...ทำชั่วได้ชั่ว...ยังเชื่อในคำสอน...ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสมอคะ...
กะปุ๋ม
คุณคนข้างนอก...
ขอบคุณมากนะคะ...กะปุ๋มว่าจะสอบถามเรื่องกรรมที่ว่านี้อยู่เหมือนกัน ทีแรกรีๆรอๆ...พอดีคุณคนข้างนอกเข้ามาให้ความเห็นก่อน...
เพราะกะปุ๋มก็กำลังสงสัยเหมือนกันคะว่า...ความรัก และการแผ่เมตตาจะช่วยฉุดเขาขึ้นมาได้หรือไม่...
...หรือว่าเราจะตัดกรรมนั้นออกไป...อย่างอโหสิกรรมที่ว่านั้น...ตอนนี้กะปุ๋มเข้าใจแล้วคะ...
...
งั้นก็คงต้อง...ปล่อยให้เป็นไปตามที่ว่า "สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมนั้นนะคะ"....สำหรับกะปุ๋มเอง...หลุดพ้นออกมาจากกรรมนั้นได้อย่างง่ายดาย...เพราะอยู่ๆมาวันหนึ่งเราก็หลุดออกมาเอง...อาจเป็นว่าทุกเช้าที่ตื่นนอนมากับการฝึกฝนจิตนี้ได้เผื่อแผ่เมตตาไปถึง...บุคคลต่างๆนี้ด้วย...ก็คงมีคนใหม่หรือคนอื่นๆที่มีกรรมเกี่ยวพันกันมานี่แหละที่ต้องเข้ามาพัวพันในกรรมนี้ต่อไป...
คุณคนข้างนอก...
ขอบคุณนะคะ...ที่ทำให้กระจ่างชัดยิ่งขึ้นในประเด็นเรื่องกรรม...(พอดีสนทนาธรรมกันนอก Blog ด้วย)...มีหลายคนบอกกะปุ๋มว่า...
"ชีวิต...โต...ขึ้น...อีก step"...ก็อาจจะจริงอย่างที่ว่านะคะ...สามารถเผชิญต่อสิ่งที่มาคุกคาม...และเป็นแบบทดสอบชีวิตนี้ได้...
ก็คงต้องเดินหน้าอย่างไม่เหลียวหลังล่ะคะ...
เพราะ "การมีชีวิตอยู่...คือการให้โอกาสตนในการเรียนรู้ชีวิต"...ไม่ใช่หรือ...แล้วทำไหมเราต้องมาจมอยู่ในห้วงแห่งวังวนนี้...อยู่เล่า...
....
ขอบคุณคะ