สืบเหตุจากการมุ่งพัฒนา"คุณภาพ"..ไม่เพียงแต่ก่อทุกข์ให้เราคนทำงาน แต่ยังทำให้ผู้ป่วยของเรา (ผู้ป่วยจิตเวช) พลอยอึดอัดใจไปด้วย เพราะในองค์กรเรามีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมาย
กลุ่มงานจิตเวช โรงพยาบาลยโสธร เน้นการบริการที่เป็นลักษณะผู้ป่วยนอก มีผู้มารับบริการอย่างหนาคั่งในวันจันทร์ เพราะมีข้อจำกัดหลายอย่าง คือ กลุ่มงานเราไม่มีจิตแพทย์ ผู้ป่วยที่มาหาเราจะไปตั้งต้นการรักษาที่โรงพยาบาลพระศรีมหาโพธิ์ จ.อุบลราชธานี จากนั้นจึงถูกส่งมารับยาต่อที่ กลุ่มงานจิตเวช รพ.ยโสธร ซึ่งผู้ป่วยจะมารับยาทุกเดือน โดยมีแพทย์อายุรศาสตร์ 2 ท่านเท่านั้นที่เสียสละมาผลัดกันออกตรวจสลับกันในแต่ละเดือน
แต่กว่าแพทย์ทั้งสองท่านจะผละเวลามาตรวจได้นั้น ก็จะเป็นช่วงบ่ายของวันจันทร์(วันเดียว)เพราะท่านต่างมีภาระงานมากเช่นกัน ดังนั้น ผู้ป่วยจิตเวชของเราที่ต้องได้รับการบำบัดโดยยา ก็จะมารับบริการในวันจันทร์ แต่ด้วยวิถีชีวิตที่เป็น "ชาวบ้าน" ที่ต้องตื่นแต่เช้ามีรถออกมาจากหมู่บ้านวันละเที่ยวในตอนเช้า ผู้ป่วยเราจึงมาถึงโรงพยาบาลแต่เช้ามายื่นบัตรและมานั่งรอตรวจในตอนบ่าย
กิจกรรมที่เราทำระหว่างที่ป่วยรอตรวจนั้น ก็จะมีตรวจและประเมินสภาพจิต ทำกลุ่มบำบัด ให้คำปรึกษารายบุคคล สอนสุขศึกษา กลุ่มนันทนาการนำโดยพี่เขียวและบางครั้งก็จะเป็นผู้ป่วยด้วยกันมาช่วยกัน นับดูเวลาที่ผู้ป่วยต้องรอตรวจจากแพทย์รวมแล้วเฉลี่ยประมาณ 5-6 ชั่วโมงแต่เมื่อหมอมา ใช้เวลาในการตรวจแต่ละรายไม่นาน จากผู้ป่วยที่มารอประมาณ 80 คนขึ้นไปต่อวัน แพทย์ใช้เวลาตรวจประมาณ 1 ถึง 2 ชั่วโมง ซึ่งใช้เวลาเร็วมาก หากแต่ใช้เวลารอนาน...
การให้บริการนี้ก่อให้เกิดความอึดอัดใจ ในพวกเรา "ชาวจิตเวช" กันทุกคน เพราะสงสารผู้ป่วยที่ต้องมารอนานและเวลากลับต้องเหมารถกลับ เพราะรถที่วิ่งเข้าหมู่บ้านวันละเที่ยวจะหมดประมาณช่วงเที่ยง(ออกจากตัวเมือง) เพราะเหตุที่เกิดนี้อยู่นอกเหนือการควบคุมของเราที่จะเข้าไปจัดการอะไรได้ เราเคยเสนอต่อผู้บริหาร และ PCT OPD หลายครั้ง หลายปี แต่ก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลง เราจึงได้แต่หวังและรอว่าจะมีจิตแพทย์สักท่าน ย้ายมาประจำที่โรงพยาบาลของเรา ผู้ป่วยเราคงจะได้รับอะไรดีๆ แน่นอนเมื่อมารับบริการ
คุณ"ชายขอบ"
หากเรารู้เท่าทัน..สิ่งที่ก่อเกิด
บางครั้ง..อาจป้องกันอะไรได้
มากกว่า...
ที่คอยแก้ไข...อย่างเดียว