ภัยร้ายที่อันตรายที่สุดของอีสานบ้านเรา


แต่ที่อีสานบ้านเรา ภัยที่ร้ายแรงและน่ากลัวที่สุดกลับกิดจากตัวของเราเอง เช่น ภัยความยากจนจากการกินมาก ดื่มมาก เล่นมาก ใช้มาก แต่ทำงานน้อย เรียกว่าบริโภคมาก จนไม่มีเวลาหารายได้นั่นเอง ซึ่งเป็นภัยที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นเรื่อยไป จนกลายเป็นวิถีชีวิตปกติไปแล้ว

              ในขณะที่บ้านเขาเมืองอื่น  โชคร้ายเผชิญภัยพิบัติรอบด้าน  ทั้งที่เกิดจากธรรมชาติและมนุษย์ด้วยกันเอง  เช่น  พายุมหาปลัยใต้ฝุ่น-ทอร์นาโด-เฮอริเคน-ดีเปรสชั่น อันนำมาซึ่งฝนตกหนัก-น้ำท่วม-แผ่นดินทรุด-ดินภูเขาถล่ม-บ้านเรือนพังพินาศย่อยยับ , หรือจะเป็นภัยจากภูเขาไฟระเบิด  ต่อเนื่องถึงซึนามิร้ายแรง , อีกทั้งภัยจากสงคราม - ภัยวินาศกรรมและการก่อการร้ายจากนักรบใร้จิตสำนึก , ฯลฯ   ซึ่งทุกภัยล้วนแล้วแต่สร้างความหายนะและหยิบยื่นความตายให้พวกเขาได้อย่างโหดร้ายทารุณ 

               แต่ที่อีสานบ้านเรา  ภัยที่ร้ายแรงและน่ากลัวที่สุดกลับกิดจากตัวของเราเอง  เช่น  ภัยความยากจนจากการกินมาก ดื่มมาก เล่นมาก ใช้มาก แต่ทำงานน้อย  เรียกว่าบริโภคมาก จนไม่มีเวลาหารายได้นั่นเอง  ซึ่งเป็นภัยที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นเรื่อยไป  จนกลายเป็นวิถีชีวิตปกติไปแล้ว

               และทั้งๆที่ผืนแผ่นดิน น้ำ ฟ้า อากาศ มีความอุดมสมบูรณ์อย่างยากที่จะหาได้จากที่อื่นใดในโลกใหญ่ใบนี้  แต่คนอีสานส่วนใหญ่กลับเป็นโรคสำลักความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดินเกิด  มีวิถีชีวิตการกินอยู่ที่เกินพอดี  ซ้ำร้าย ลูกหลานรุ่นหลังๆ  หันหลังให้ไร่นา  หลบลี้หนีเข้าหาชีวิตใหม่ในเมือง

               ผลพวงที่ตามมาจากการที่เราบริโภคมากเกินพอดี  คือความไม่พอกินพอใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งก็คือความยากจนนั่นเอง  ทางแก้ที่นิยมกันก็คือ  ดารอพยพจากบ้านจากครอบครัวไปหางานหารายได้ยังต่างถิ่น   ผลที่ตามมาก็คือเด็กๆก็จะขาดความอบอุ่น  ขาดอาหารที่มีคุณภาพมีคุณค่าพอเพียง  รวมทั้งการขาดโอกาสในการรับการสั่งสอนให้เป็นคนดีมีความรับผิดชอบผ่านกิจกรรมตามวิถีชีวิตปกติของครอบครัว 

(โปรดคลิกดูภาพประกอบที่ โคกเพชร ครับ)

                 ซึ่งภัยอันเกิดจากการขาดโอกาสและความอบอุ่นดังกล่าว  จะแสดงผลออกมาในลักษณะการที่เด็กมีพฤติกรรมเบี่ยงเบน เช่นในวัยเด็กๆ มักไม่อาบน้ำ ปล่อยเล็บยาว ผมเผ้าไม่ตัด  เสื้อผ้าไม่ซัก อุปกรณ์การเรียนไม่มี อยู่ที่บ้านก็ใช้เวลาดูโทรทัศน์และเล่นสนุกมากกว่า เมื่อเข้าสู่วัยรุ่นก็ต้องมีรถมอเตอร์ไซค์  โทรศัพท์มือถือยี่ห้อและรุ่นดีๆ เสื้อผ้าสวยๆราคาแพงๆ (ส่วนใหญ่ได้จากการต่อรองเอาจากพ่อแม่ที่ไปทำงานหารายได้ยังต่างถิ่น ซึ่งบางคนต่อรองว่าหากไม่ให้จะไม่ไปโรงเรียน) และมักเที่ยวเตร่และเล่นแผลงๆแบบไร้สาระ  ที่สำคัญ เด็กๆเหล่านี้จะไม่ใคร่ได้สัมผัสรสชาติหรือเคยชินกับภาระรับผิดชอบต่อครอบครัวในวัยเด็ก อันเป็นพื้นฐานการใช้ชีวิตสำคัญที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตในอนาคตได้  ภาระการพัฒนาผู้เรียนทุกด้านส่วนใหญ่จึงถูกมอบหมายให้ครูและโรงเรียนเกือบทั้งหมด  ในส่วนของครูของโรงเรียนก็โดนสั่งให้ทำแต่งานเอกสาร งานรายงานข้อมูล  ที่วันๆต้องเสียเวลาอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์  เอ... แล้วการศึกษาไทย  ชีวิตคนไทย  จะไปรอดหรือเปล่าหนอ....
             ท่านล่ะ  เห็นเป็นไง  แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันบ้างก็ได้นะครับ....

หมายเลขบันทึก: 130438เขียนเมื่อ 21 กันยายน 2007 20:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 เมษายน 2012 11:12 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (15)
  • สวัสดีคะคุณครู...อิอิ...ตามไปดูภาพแล้วคะเจอโรงพิมพ์วิทย์เซ็นเตอร์ด้วยละ...(จะได้ไปรับจ็อบเข้าเล่มเอกสารไงคะ)
  • ครูขาเห็นภาพแล้ว วัยรุ่นต่างจังหวัดทั่วประเทศเป็นเหมือนกันหมดแล้วคะ...แถมข่าวรับน้องโหดยิ่งเศร้าใจ
  • ต้นเหตุอยู่ที่การเลี้ยงดูของพ่อแม่คะ
  • โรงเรียนและครูนี่ปลายเหตุแล้ว...ครูต้องเลี้ยงเด็ก 30-40 คนคะครู...จะดูแลทั่วถึงได้ไงคะ
  • พ่อ-แม่เลี้ยงลูกแค่ 3-5 คนเองยังแย่เลย
  • อยากให้ครูลองดูเด็กหนุ่มคนข้างล่างเขาคิดและพูด ต่างจากเด็กทั่วไปคะ
  •  
  • ชื่อ วรรณสิงห์ประเสริฐกุล คะ
  • " เพื่อไม่ให้ตัวเองเกลียดโลกไปมากกว่านี้ผมเลยคิดว่า . . . ไปทำอะไรให้โลกดีขึ้นแล้วกัน "

  • " พ่อบอกว่าอิสระไม่ใช่การที่ทำอะไรก็ได้ตามใจ แต่คือการกล้าที่จะผูกมัดตัวเองกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งและทำสิ่งนั้นไป ส่วนผมมองว่าอิสระไม่มีจริง ๆ หรอกสุดท้ายยังไง ๆ เราก็ต้องผูกมัดตัวเองกับบางสิ่งอยู่ดี เช่น ถ้าเราเลือกที่จะเจาะหูมันก็ดูเท่ แต่บางคนอาจมองเราแปลกๆนั่นคือสิ่งที่ตามมา ตอนนี้ผมไม่ได้หาอิสรภาพแต่พยายามผูกมัดตัวเองกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งแล้วทำตามไปอย่างที่พ่อผมพูด "

  • " ผมไม่มีปัญหากับพี่ กับพ่อแม่ แต่สิ่งที่พวกเขาสร้างไว้ มีผลมาถึงผม มันมีความคาดหวังอยู่แล้วว่าเป็นลูกคนนี้ เป็นน้องคนนี้ ควรเป็นอย่างไร ผมเลยเป็นคนต่อต้านโลกในระดับหนึ่ง หัวดื้อมาตั้งแต่เด็ก ถ้าเขาต้องการให้เราเป็นอย่างนี้ ก็จะไม่ทำ ยกเว้นมันตรงกับสิ่งที่เราอยากทำ

  • ถ้ามีคนถามว่าลูกเสกสรรค์-จิระนันท์ต่างจากเด็กคนอื่นยังไง ?? ..เอางี้ ทุกครั้งที่มีคนลอกข้อสอบ ผมจะด่ามัน จะทำอะไรก็ตามผมไม่ยอมโกงเด็ดขาด โดนใบสั่งก็จะไปเสียค่าปรับที่สถานีตำรวจวัยรุ่นทั่วไปจะถามว่าไม่เอาโพยเหรอ”“ทำไมไม่จ่ายตำรวจไป ง่ายดีออก

  • ผมมองว่าเขาต้องการความง่ายในชีวิตมากเกินไปสนใจแต่ผลลัพธ์ แต่ไม่สนใจกับวิธีการ
    ผมเห็นความสำคัญของวิธีการมากกว่าผลลัพธ์ ขอเลือกทางที่แม้จะยากแต่ถูกต้องดีกว่า "

  • ครูวุฒิขา..ลูกเป็นกระจกบานใหญ่ส่องไปถึง พ่อแม่ ครู โรงเรียน และชุมชน...และที่สำคัญเราต้องสร้างให้เขาคิดได้ด้วยตัวเขาเองคะ...เขาจะรักดี..หรือเลือกทางเดินที่ผิด อยู่ที่ตัวเขาคะ...หนุ่มน้อยข้างบนไปเรียนต่อด้านเศรษฐศาสตร์ที่แคนาดาแล้วคะ(จบตรีที่ธรรมศาสตร์คะ)

  • ครูขามีอีกประโยคเด็ดคะ จะเห็นวิธีคิดของเขาต่างจากเเด็กคนอื่นๆแค่ไหน...เอหนอพ่อแม่เขาเลี้ยงมาอย่างไร..น่าศึกษาคะ
  • " ผมว่าสิ่งเดียวที่ทำให้เราเป็นมนุษย์ คือ วิธีการมันเป็นเรื่องของ ศักดิ์ศรีและ ความเป็นคน ด้วยถ้าวันหนึ่งเรายอมงอเพื่อให้ไปถึงจุดจุดหนึ่งได้ พอเราเป็นใหญ่เป็นโตแล้วหันกลับมามอง แทนที่จะเห็นว่ามันเป็นทางที่ขาวสะอาด สวยงาม เราก็จะเห็นจุดด่างพร้อยเต็มไปหมด จนเราไม่สามารถภูมิใจกับมันได้ ผมคิดว่าสิ่งที่อยู่ข้างในสำคัญที่สุด "

ผมว่า

ภัยที่ยิ่งใหญ่ของคนในภาคอีสาน (และที่อื่นๆ) ก็ยังมี

การที่พ่อแม่รังแกลูก

  • ไม่ส่งเสริมความก้าวหน้าของลูก
  • ไม่สนับสนุนการเรียนของลูก
  • เป็นตัวฉุดตัวดึง ให้ลูกตกต่ำทั้งทางเศรษฐกิจ และสังคม
  • หวังขายลูกกิน ทั้งในเชิงแรงงาน ไปขายบริการ (ถ้าสวยหน่อย)และให้ไปมีสามีฝรั่งหรือต่างชาติ (ถ้ากล้าหน่อย) จนธุรกิจหาคู่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว

นี่คือสิ่งที่ผมเห็นมา จะจะ เลยครับ

สวัสดีครับ

P ท่านอาจารย์ ดร.แสวง และP คุณนารี

P  อ้อ...คุณนารีครับ

  • ข้อมูล "หนุ่มในอุดมคติ" ที่ส่งให้  เป็นข้อมูลอ้างอิงที่ประจักษ์ชัด  ยืนยัน "พลังของการเลี้ยงดูของพ่อแม่" ได้ดีที่สุดครับ
  • ขอบคุณมากนะครับที่อุตสาห์สละเวลาหาและส่งให้

 

เอาใหม่....COMPUTER รวนค่ะ

สวัสดีค่ะ ครูวุฒิ

  • ปัญหาเด็กกำลังเป็นปัญหาสังคมไปแล้วค่ะ
  • เห็นด้วยกับความคิดข้างบนค่ะ
  • ครอบครัว..ผู้ปกครองเด็กเป็นต้นทางสำคัญค่ะ...ยุคสมัยบริโภคล้นเกินความจำเป็น...ส่งผลให้ความสัมพันธ์..ความเอาใจใส่ในครอบครัวลดลงค่ะ.....ปัญหาหมักหมม....เป็นปูนซิเมนต์พอกหางหมู.....ทุกคนต่างวิ่งหาสิ่งที่สามารถตอบสนองความต้องการเทียมอย่างไม่มีจุดสิ้นสุด
  • P ยกตัวอย่างจากเด็กหนุ่ม (หล่อ) ทำให้เห็นชัดขึ้นว่า เราขาดเมล็ดพันธุ์ดีที่จะนำไปเพาะเป็นต้นกล้าดี เข้าขั้นวิกฤติต่ะ.....
  • การตัดต่อพันธุกรรมจะช่วยได้หรือเปล่าคะ
  • ครูวุฒิขา..มันเป็นเรื่องกรรมของเวร..อิอิ เรื่องเวรกรรมค่า...พ่อ แม่เป็นไงลูกเป็นอย่างนั้นคะ...You are ,what you eat  ฮ่าๆ..ภาษาอังกฤษแบบงูๆ ปลาๆคะ
  • เด็กวัยรุ่นเกเร...ห้ามมาโทษครูวุฒิของหนูเน้อ..ต้องโทษพ่อแม่คะ..ว่าเลี้ยงลูกแบบไหน..แบบยุยงส่งเสริม..รักถนุถนอม...หรือว่ารักสนับสนุนดีคะ..ถ้าปกป้องเกินเหตุ เด็กก็ไม่มีทักษะชีวิตสิคะ
  • ที่สำคัญต้องให้เขาดูแลตัวเองคะได้คะ..ต้องวางเงื่อนไขตั้งแต่เล็กๆ...เช่น...อยากได้ของเล่นหรือ..ต้องได้ 3.50 ขึ้นไป ถึงจะได้(หนูเลยไม่เคยมีตุ๊กตาเป็นของเล่นไงคะครู..ต้องเล่นกับลิงแทน)
  • ต้องแบ่งหน้าที่ให้รับผิดชอบคะ..ให้ช่วยงานบ้านต้องเริ่มแต่เด็กๆคะ..ต้องล้างจานเอง ซักผ้าเอง
  • ที่สำคัญต้องให้พี่น้องดูแลกันเอง...เช่น..ดูน้องนะลูก..วันนี้แม่กลับเย็น...ค่า...รีบขานรับ..พอแม่ลับสายตาก็เริ่ม ปกครองน้องเลย...แบ่งหน้าที่..ไปเอาไม้กวาดมากวาดบ้านให้สะอาดนะ..ถูบ้านให้เรียบร้อยด้วย...อ้าวแล้วพี่ทำอะไร(น้องชายเจ้าปัญหาเริ่มถาม อายุห่างกัน 5 ปีคะ) ก็วันนี้พี่ทำหน้าที่เป็นผู้บริหารงาน..ผู้บริหารเขาไม่ต้องทำอะไรหรอก..ทำงานให้เรียบร้อยนะ พี่จะไปนอนดูทีวีแล้ว...(มีแววเผด็จการแต่เด็กเลยคะ..อิอิ).
  • .ฮ่าๆ..ที่บ้านพ่อแม่เลี้ยงแบบบุปเฟ่ต์คะ..ให้ดูแลตัวเอง..เลยต้องดูแลตัวเองมาถึงทุกวันนี้ไงคะ
  • ครูวุฒิขา..เจ้านายที่เขตท่านพอใจผลงานครูวุฒิหรือเปล่าคะ...น่าจะชวนท่านๆ มาช่วยกันถอนหญ้าในนาดูบ้างนะครู..ท่านจะได้รู้ว่า..ครูวุฒิของหนูนะต้องได้เป็นผอ.11 ไม่ใช่ได้แค่ผอ.9 เด้อคะ
  • เอารูปโรงเรียน ตชด. บ้านเขาสารภีที่อรัญมาฝากคะ ชอบที่เขาแขวนกล้วยไว้เป็นของหวานคะ...ส่วน 2 รูปสุดท้าย ดอกโมก กลับกล้วยทั้งเครือนั่นของบ้านหนูคะ..อิอิคนเก่าเขาปลูกไว้ หนูเลยได้มรดก...ฮ่าๆถ้าสุกแล้วหนูจะตัดมาให้น้องๆที่โรงเรียนนะคะครู
  • อ้อ แทนไท กับ วรรณสิงห์ 2 หนุ่มสุดหล่อนั้น หนูรู้จักเขาตั้งแต่เด็กๆ (ผ่านตัวหนังสือพ่อเค้า)....มานึกได้อีกทีตอนอ่านนันทึกที่คุณครูวุฒิที่พูดถึง แทนไท คะ...เลยลองค้นดูอ้าวโตเป็นหนุ่มซะแล้ว...อืมแถมเป็นเด็กแนวซะด้วย..เป็นเด็กแนวดีค่า...
  • อิอิ...ครูวุฒิขา อย่าลืมแวะไป บ้านจันรมนะคะ  ...มีคนพาดพิงถึงด้วยนะคะ

Police

สวัสดีค่ะ

มาเยี่ยมค่ะ

และมาบอกว่า ชีวิตและความประพฤติของเด็กๆ เริ่มต้นมาจากครอบครัวค่ะ พออ่านประโยคนี้แล้ว สะท้อนใจจริงๆ ก็พ่อแม่ไม่ได้อยู่กับเขานี่คะ

 แต่จะโทษพ่อแม่ทีเดียวก็ไม่ได้ ต้องดูในภาะรวมเรื่องการจัดการเศรษฐกิจของหมู่บ้านนั้นๆด้วย

ถ้าไม่จัดระบบเศรษฐกิจให้คนมีงานทำกันทุกคนแล้ว พวกเขาก็ต้องไปหางานทำต่างถิ่นค่ะ ทีนี้ ปัญหาสังคม ปัญหาครอบครัวก็เกิดค่ะ เป็นเรื่องที่ภาครัฐ ต้องเข้ามาดูแลด้วยค่ะ

 เมื่อเข้าสู่วัยรุ่นก็ต้องมีรถมอเตอร์ไซค์  โทรศัพท์มือถือยี่ห้อและรุ่นดีๆ เสื้อผ้าสวยๆราคาแพงๆ (ส่วนใหญ่ได้จากการต่อรองเอาจากพ่อแม่ที่ไปทำงานหารายได้ยังต่างถิ่น ซึ่งบางคนต่อรองว่าหากไม่ให้จะไม่ไปโรงเรียน

  • ครูวุฒิขา.....หนูมารายงานตัวค่ะ...
  • ปล่อยหัวหน้าห้อง ป.1/1 มารายงานเอาความดีความชอบตั้งแต่วันเสาร์แล้ว.......หนูมาทีหลังจะเหลือไว้ให้หนูบ้างป่าวเนี่ย?.....
  • วันนี้มีเรื่องมาเล่าค่ะ.......เรื่องของอาจารย์ 3 เชิงประจักษ์ค่ะ.... คือเมื่อกลางวันนี้ (25 ก.ย.) ผลเขาออกมาแล้วค่ะ  คนผ่านก็ดีใจกันใหญ่  หนูไปอบรมการเงินโรงเรียนแถวๆนั้นพอดี (สพท.)  ก็เจอเพื่อนๆ ดีใจกับเขากันค่ะ   แต่พี่ที่รู้จัก  แกไม่ผ่านเห็นหน้าเหมือนจะร้องไห้  น่าสงสารค่ะ...เพราะพี่คนที่ว่าแกเป็นบุคลากรที่ถือว่าเก่ง......แต่แปลกไม่ผ่าน   ส่วนหนูดีใจสุดๆเพราะเพื่อนคนที่หนูไปช่วยแก้ไขแผนการสอนเขาผ่านค่ะ ...(เหมือนมีส่วนร่วม.....อิอิ)  
  • วันนี้หนูกลับมาคิดว่า.....เอ..คะแนนสอบพี่แกน้อยหรือพี่แกเขียนรายงานไม่เข้าตา ไม่ถูกใจกรรมการกันแน่    เขาทำไมไม่ไปดูเด็กที่พี่เขาสอนที่โรงเรียนค่ะครู.....
  • เห็นไม๊?   คุยคนละเรื่องกับคนอื่นๆอีกแล้ว.....
  • สุดท้าย......อย่าลืมความดีความชอบของหนูนะค่ะ.......( มาช้าแล้วยังขออีก....อิอิ)

สวัสดีครับคุณวุฒิ

สบายดีไหมครับ ผมติดตามอ่านมานานแล้วครับ จริงๆ จะถกเรื่องก่อนหน้านี้ ยังไม่ได้เข้าไปถกด้วยเลยครับ

ผมคนใต้ที่ไม่เคยไปอีสานเลย มีโอกาสรับรู้ข้อมูลของอีสานผ่านเพื่อนฝูง ข่าวสารทางทีวีสื่อต่างๆ ผ่านปราชญ์ชาวบ้านที่ได้ชม ได้เห็น ได้มีโอกาสจัดกิจกรรมโครงการสนับสนุนการศึกษากับน้องๆ ม.ต้น ให้ได้เรียนแถวๆ อีสานตอนล่าง แต่ผมก็ไม่เคยได้ไปสัมผันชีวิตจริง เพียงแต่รับผ่านส่งต่อจากความรู้สึกของคนอื่น ผ่านทางอ้อมทั้งนั้นครับ

แต่ลึกๆ แล้วในจำนวนทุกภาคที่ผมมองประเทศไทย ผมรู้สึกผมผูกพันกับคำว่าอีสาน ทางเหนือผมก็เคยไปเพียงแค่จังหวัดเลยเท่านั้นครับ ยังไม่ได้สัมผัส...

ผมมีโอกาสได้รับข้อมูลผ่านการเล่าทางจดหมายของน้องนักเรียนที่สนับสนุนในโครงการที่พวกเราน้องๆ นักเรียนไทยในเยอรมัน ร่วมทำกันมา ผ่านจดหมายเท่านั้น พร้อมรูปถ่ายการไปเยี่ยมนักเรียนและผ่านการพูดคุยบอกเล่าจากพี่ๆฝ่ายประสานงานโครงการของมูลนิธิ ดร.เทียม โชควัฒนา ได้รับความรู้ รับรู้ข้อมูลมากขึ้น แต่คิดว่าคงสู้การได้รับฟังจากคนในพื้นที่ไม่ได้

ผมดีใจที่ได้อ่านและได้รับรู้จากคนในพื้นที่มองคนในพื้นที่เอง ประเมินตัวเอง เพื่อปรับปรุงพัฒนาตัวเองและชุมชนเป็นสำคัญ ซึ่งนับว่าสำคัญมากๆ

จริงๆ แล้วปัญหาใหญ่ ผมว่าคงไม่แตกต่างกันมาก จากภาคอื่นๆ จากภาพที่เข้าไปเห็นในลิงก์นะครับ เพราะผมคิดว่าแนวทางของการจัดการบริหารของประเทศจะส่งผลกระทบไปยังทุกภาคส่วนแน่นอน และผสมกับความเป็นลักษณะเฉพาะของภาคส่วนด้วยเช่นกันว่ามีความเด่นในเรื่องใดๆ หรือยึดกับปัญหาใดเป็นสำคัญ

ผมได้มีโอกาสคุยและรับรู้ผ่าน อ.แสวง แต่ก็เพียงเสนอแนะทั่วไปเท่าที่จะแลกเปลี่ยนได้แค่นั้นมันน้อยนิดนักครับ

ผมเองเป็นคนที่เหมือนว่าผมไม่มีช่วงวัยรุ่น เหมือนว่าผมกระโดดจากเด็กเป็นผู้ใหญ่ไปเลย...โอกาสที่ผมจะได้รับรู้และทำเหมือนในภาพของช่วงวัยรุ่นของผมเลยไม่มีโอกาสตรงนั้น...เอาใจไปแทนกันยากมากครับ

ยังไงผมก็ขอเป็นกำลังใจให้คนอีสาน สู้เพื่อคนอีสานนะครับผม ผมเองหากวันหน้ามีโอกาสได้ช่วยเหลือในภาพรวมจะยินดีครับ

ผมศรัทธาในหลายๆ อย่างของคนอีสานครับ...และความมีเอกลักษณ์ที่ดีหลายๆ อย่างในอีสานครับ

ขอบคุณมากครับผม  

สวัสดีครับ

Pครูวุฒิ
ขออนุญาตินำข้อความดีๆบางตอนไปรวมในรวมตะกอนครับ  ขอบคุณมากครับ

http://gotoknow.org/blog/mrschuai/117622?page=10

สวัสดีครับ Pครูกั๊ดจัง Pคุณนารี Pคุณพี่ศศินันท์ Pครูหญ้าบัว Pท่านอาจารย์เม้ง  และ Pคุณสิทธิรักษ์ 

  • ขอบพระคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมพร้อมความคิดเห็นที่ดีๆและหลากหลาย ผมย้อนอ่านของแต่ละท่านซะหลายรอบ 
  • ต้องขออภัยที่เข้ามาตอบช้าไป  เพราะเมื่อคืนเน็ตที่บ้านมีปัญหา  เพิ่งใช้ได้เมื่อค่ำนี้เองครับ
  • ผมแวะไปคุยที่บล้อกของทุกท่านครับ
  • แล้วเจอกันครับ
  • คุรครูวุฒิขาขอแก้ไขคะ..ชื่อโรงเรียน ต ช ด.วังศรีทอง คะ วันนั้นไป 2 โรงเรียนเลยสับสน
  • ลงรูปใหม่คะ..อิอิเดี๋ยวครูตชด.ท่านน้อยใจ
  • 002
  • 001
  • ครับ  เดี๋ยวจะไปแก้ไขที่บันทึกเรื่องที่เกี่ยวข้องด้วย  เพื่อให้ถูกต้องตรงกับความเป็นจริงเน้าะ...
  • เห็นความอวบอิ่มของผลกล้วยแล้ว  เห็นความอุดมสมบูรณ์ของดินและความเอาใจใส่ของผู้ปลูกผู้ดูแลด้วย คาดว่าคงใช้"ใจ"เป็น"ปุ๋ยทางใจ"แน่ๆเลย....
  • โอเค  ขอบคุณมาก  สวัสดีครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท