( 6 พ.ค.) “...เช้านี้ที่ชายหาดหน้าโรงแรมโนโวเทล จ.ระยอง ฉันลงไปเล่นโยคะที่ศาลาริมหาด เนื่องจากใน 1 ปี จะได้ไปพักผ่อนที่ชายทะเลก็เพียง 1-2 ครั้งถึงแม้ว่าช่วงนี้ฝนจะตกบ่อย และก็มีเสียงฟ้าร้องตั้งแต่ตี 5 ก็ไม่ทำให้ฉันเปลี่ยนใจ กลับมีกิเลสในการอยากเล่นโยคะในศาลาท่ามกลางสายฝนมากยิ่งขึ้น เมื่อถึงเวลา 6 โมงเช้า ฉันแต่งกายด้วยเสื้อยืดและกางเกงสีขาวสวมใส่สบายกายสบายใจ พร้อมเสื่อโยคะ โดยมีน้องที่ร่วมทางไปด้วยลงไปเป็นเพื่อนแต่เธอฟัง MP 3 นั่งพิงเสาศาลาอยู่ข้างๆ ลมพัดเย็นสบาย คลื่นกระทบหาดทรายไม่หนักไม่เบา ขอบฟ้ามัวด้วยกลุ่มเมฆหม่น กิ่งสนปลิวไสว จากละอองไอฝน เริ่มเป็นฝนโปรยปราย สาดเข้ามาในศาลาให้ชุ่มเย็น ความรู้สึกฉันเหมือนกลับไปเป็นเด็ก มีความสุขสดชื่น ผิดก็แต่มิได้ออกไปวิ่งเล่นแต่ยังมี สติบ้าง สมาธิบ้างอยู่กับการทำโยคะ และการได้ดื่มด่ำ รู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ ด้วยธาติ ดิน น้ำ ลม ไฟ ของกายนี้ ที่เชื่อมกับภายนอกด้วยลมหายใจ และละอองไอฝนตามผิวกาย สุดท้ายฝนก็เริ่มซาลง เป็นฝนปรอยๆ ใหม่ เมื่อฉันเล่นโยคะถึงท่าสุดท้าย (สุริยะนมัสการ) จิตที่เบิกบานยังคงอยู่ จึงได้กางร่มเดินจงกรมให้เท้ากระทบทรายและน้ำทะเล แม้เบื้องบนยังมีเสียงฟ้าร้อง ครืนๆ จนคนบางคน (น้องที่มาด้วย) หวาดกลัวอยู่แต่ในศาลา แต่ฉันไม่รู้สึกกลัว ด้วยรู้ดีว่ากายนี้มาจากธรรมชาติ เป็นของธรรมชาติ เราเป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่ว่าจะสภาวะไหนก็ตาม ฉันยินดี...ถ้าบังเอิญตอนนี้ กายนี้จะต้องแปรสภาพไปฉันก็พร้อม...ด้วยสติแห่งการก้าวเดิน การตามรู้ดูกายและใจ ... ในธรรมชาติที่ฉันไม่ได้พบเจอในชีวิตประจำวันบ่อยนัก ...”
เป็นเวลา 1 ปีกว่าแล้วที่ฉันได้เรียนรู้และออกกำลังกายแบบโยคะอย่างต่อเนื่อง หลังจากหารูปแบบการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับตนเองมาระยะหนึ่งสุดท้ายก็มาจบด้วย โยคะเพื่อการยืดเหยียดของกล้ามเนื้อ และระยะหลังนี้ก็มีการกระโดดเชือกหรือเต้นแอโรบิค (ตามโอกาสจะอำนวย) ซึ่งวันนี้ขอทบทวนเรื่องโยคะเนื่องจากได้สร้างสุขภาวะให้กับตนเองในวันนี้ได้เป็นอย่างดีทำไมจึงเลือกโยคะ ? เพราะมีเหตุปัจจัยหลายอย่างอันได้แก่
· โยคะ เป็นการออกกำลังกายที่มีการเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ ด้วยการเคลื่อนไหวกายผสานอย่างสอดคล้องกับการหายใจ(หายใจเข้าเตรียม หายใจออกเหยียด) ในด้านกายจะช่วยเรื่อง การหายใจที่ถูกต้อง การยืดเหยียดของกล้ามเนื้อซึ่งในชีวิตการทำงานแบบเคร่งเครียดในปัจจุบันก่อให้เกิดการตึงตัวของกล้ามเนื้อโดยไม่รู้ตัว ถ้าทำโยคะบ่อยๆ การเคลื่อนไหวจะยืดหยุ่นได้สูง กล้ามเนื้อกระชับ เหมาะกับคนที่ต้องเตรียมเข้าสู่วัยทองในอนาคต จำได้ว่าปกติตนเองจะเป็นคนดูแลรูปร่างไม่ให้น้ำหนักเกินพอดี เนื่องจากเสียดายเสื้อผ้าที่จะใส่ไม่ได้ (เป็นหลัก) และไม่ชอบเวลาตนเองดูอวบขึ้น เนื่องจากเป็นคนที่มีความสูงเพียง 149 ซ.ม. ซึ่งที่ผ่านมาก็สามารถดูแลมาได้เรื่อยๆ คือเมื่อน้ำหนักเกิน ที่เคยเป็นอยู่ก็จะรับประทานผัก ผลไม้ ลดแป้ง ไขมัน และโปรตีนลงบ้าง พร้อมกับออกกำลังกายนิดหน่อย แต่ปรากฏว่าเมื่อปีที่แล้วทำอย่างที่เคยทำไม่ได้ผล พอวิ่งก็มีปัญหาที่ข้อเท้า ซึ่งมักจะเป็นเส้นเอ็นอักเสบง่ายอยู่แล้วต้องคอยรักษาทั้งยากิน ยาทาและประคบ จึงตัดสินใจซื้อ CD การเล่นโยคะของคุณครูถือศีล มาลองปฏิบัติตาม (ในซีดีจะมีคำอธิบายของคุณครูประกอบอยู่มากๆ) โดยฉันฝึกทำมาอย่างต่อเนื่องตามที่คุณครูสอน สัปดาห์ละ 3 ครั้งๆละ 1 ชั่วโมง กับ 15 นาที ซึ่งพบว่าน้ำหนักลดลง กล้ามเนื้อกระชับกลับมาใส่เสื้อผ้าเดิมๆได้หมดเลย ภายใน 1 เดือนและก็คงสภาพน้ำหนักเท่าเดิมมาตลอด 1 ปีกว่าแล้ว อาการปวดท้องเวลาจะเป็นช่วงนั้นของเดือนในความเป็นหญิง ก็หายไปไม่ต้องรับประทานยาแก้ปวดอีกตั้งแต่ที่เริ่มปฏิบัติโยคะด้วยสติและสมาธิ และไม่เคยเป็นเส้นเอ็นที่ข้อเท้าอักเสบอีกเลย (หลังจากนั้นประมาณ 6 เดือนจึงเริ่มออกกำลังกายประเภทแอโรบิค เช่นกระโดดเชือก หรือไปเข้ากลุ่มเต้นแอโรบิค เพื่อเพิ่มความทนของร่างกาย และเพื่อเชื่อมสัมพันธภาพในชุมชนกรณีเต้นแอโรบิค เพิ่มเติมบ้าง)
· ในด้านจิตนั้นเป็นความตั้งใจที่คิดว่าน่าจะช่วยเรื่องสมาธิ ซึ่งเมื่อปฏิบัติแล้วก็พบว่าไม่ผิดหวังแถมยังได้สุขภาวะมากกว่าที่คิด เนื่องจากนำเรื่องการปฏิบัติธรรมมาช่วย ร่วมกับหลักธรรมชาติและดนตรีบำบัด โดยเวลาเล่นโยคะจะมีเป้าหมายเพื่อ การออกกำลังกาย เพื่อผ่อนคลายกายและใจ และเพื่อฝึกสมาธิ และสติคือปฏิบัติสมถกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐานไปพร้อมๆกันหรือสลับกันไป (ไม่ได้ตั้งใจ มันห้ามไม่ได้แค่ตามรู้ไป) คือเมื่อใดที่ตามรู้กายและใจด้วยจิตที่เป็นกลาง ซึ่งบางครั้งก็มีจิตคิดนอกเหนือจากการเล่นโยคะ ไปบ่อยๆ ก็ถือว่าได้วิปัสสนาแต่ถ้าบางช่วงเฝ้าดูลมหายใจหรือกายให้ผสานสอดคล้องกันตามหลักโยคะ ด้วยจิตว่างไม่แส่ส่ายเลยก็ถือว่าได้สมาธิไปด้วยพร้อมๆกัน รวมทั้งเวลาทำโยคะก็จะทำเวลาเช้าหรือเย็นในสถานที่ที่เป็นธรรมชาติ คือสวนหย่อมหน้าบ้านหรือในบ้านถ้าสถานการณ์ไม่อำนวย ส่วนใหญ่จะชอบตอนเช้าๆ ที่สวนหย่อมซึ่งจะมีดนตรีธรรมชาติที่ไพเราะน่าฟัง คือเสียงนก หรือมีนกต่างๆ บินหรือลงมาเดินเล่นให้ชื่นชม เช่นนกเขาสีสวยๆ และบางท่วงท่าของการออกกำลังกายที่ต้องแหงนมองขึ้นไปบนฟ้า (เช่นฤษีชมจันทร์ ฯลฯ ) ก็จะเห็นฝูงนกแต่ละประเภทออกบินไปหากิน จนถึงหมู่เมฆรูปทรงต่าง ๆลอยผ่านไป ต้นไม้ใบหญ้าก็สดชื่น ด้วยประกายน้ำค้างบ้าง พร้อมๆกับแสงอาทิตย์เริ่มทาบทาท้องฟ้า เป็นริ้วสีทองบ้าง.. ส่วนในบางวันที่ต้องทำในบ้านก็เปิด CD เพลงบรรเลงเพื่อการผ่อนคลายต่างๆที่ใจชอบ ผลัดเปลี่ยนกันไป ครั้งหลังสุดที่ได้มาก็เป็น CD เพลงบรรเลงของ คุณจำรัส เศวตาภรณ์ เป็นดนตรีเพื่อการทำสมาธิชื่อชุด “นิพพาน” ซึ่งมี 12 เพลง เริ่มด้วยเพลง “การเดินทางของใจที่เที่ยงแท้” และเพลงที่ 2-7 เป็นชื่อสวรรค์ทั้ง 6 ชั้น ต่อด้วยเพลง พรหมโลก และ อรูปพรหม และสุดท้ายด้วยเพลงนิพพาน ซึ่งชุดนี้ก็เป็นชุดที่ทำให้เกิดสุนทรีในอารมณ์จนเกิดเป็นสมาธิได้ส่วนหนึ่ง
เหล่านี้ก็เป็นองค์ประกอบที่ก่อให้เกิดการผ่อนคลายด้านกายและใจในช่วงของการออกกำลังกายอีกรูปแบบหนึ่ง ในช่วงของชีวิตที่ยังต้องดำเนินในหนทางโลก เป็นช่วงเวลาที่ควรดูแลกายอันสำคัญนี้ เพื่อสุขภาวะและเพื่อที่จะสามารถดำเนินไปตามมรรคาชีวิต มุ่งสู่เป้าหมายข้างหน้าที่ยังมาไม่ถึง คือการหลุดพ้น เนื่องจากว่าชีวิตแบบโลกๆ หาเวลาปลีกวิเวกในการทำสมาธิได้ค่อนข้างน้อยทำให้จิตมีกำลังน้อยในการตามรู้ในขั้นวิปัสสนากรรมฐาน ยิ่งนับวันจิตคิดยิ่งทำงานจนตามรู้ได้น้อยลง นอกจากการหาเวลานั่งสมาธิ หรือเดินจงกรมประจำวัน ซึ่งมักทำไม่ได้ทุกวันจากภาระงานในแต่ละวันที่ทำให้เหนื่อยล้า โยคะจึงมีส่วนช่วยสำหรับตัวเองมากขึ้นซึ่งคิดว่าได้ประโยชน์ทีเดียว เหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นก 3 ตัว
ท้ายบันทึกนี้ถ้ามีท่านใดที่หลงเข้ามาอ่าน และมีประสบการณ์ที่อยากให้ข้อคิดเห็นและแนะนำ ก็จะเป็นการเพิ่มพูนความรู้ให้กับผู้บันทึกซึ่งยังอ่อนหัดต่อการปฏิบัติธรรมเพื่อหลุดพ้น เป็นอย่างยิ่งค่ะ....และถ้าบันทึกนี้จะยังเป็นประโยชน์กับผู้ใดก็ขอให้เป็นการทดแทนที่เคยได้ประโยชน์จากท่านอื่นๆมาแล้วหลายๆท่านนะคะ....สวัสดีค่ะ
สวัสดีครับ
แวะมาเยี่ยมครับ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่นำเสนอครับ
โยคะ เป็นการออกกำลังกายที่มีการเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ ด้วยการเคลื่อนไหวกายผสานอย่างสอดคล้องกับการหายใจ
ถ้าทำโยคะบ่อยๆ การเคลื่อนไหวจะยืดหยุ่นได้สูง กล้ามเนื้อกระชับ เหมาะกับคนที่ต้องเตรียมเข้าสู่วัยทอง
ผมเป็นกำลังใจให้นะครับ
สวัสดีค่ะ
อยากฝึกโยคะเหมือนกัน แต่ไม่ค่อยมีเวลาเลยค่ะ แต่ได้ความรู้มากค่ะ ขอบคุณค่ะ ขอมอบดอกไม้งามๆให้สดชื่นค่ะ
สวัสดีค่ะคุณแผ่นดิน
ขอบคุณกับกำลังใจค่ะ.. กิจกรรมหรือการออกกำลังกายแต่ละประเภทเหมาะกับแต่ละคนไม่เหมือนกันค่ะ แล้วแต่ว่าใครจะเจออะไรที่เหมาะกับตนเอง และทำให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ดีใจค่ะที่บันทึกของตนเองมีสาระกับผู้อื่นบ้าง...ปัจจุบันก็มีกิจกรรมที่ให้น้องๆ ในที่ทำงานที่ชอบโยคะ มาร่วมทำด้วยกันด้วย...เป็นการเสริมสร้างสัมพันธภาพอีกทางหนึ่งด้วยค่ะ ...และก็ สุขใจที่ได้ประโยชน์กับพวกเค้า..
สวัสดีค่ะคุณขจิต
แอบไปอ่านเรื่องราวต่างๆของคุณบ่อยๆ ..ยินดีต้อนรับนะคะ...ยังเป็นมือใหม่อยู่ค่ะ กว่า Blog นี้จะคลอดได้ก็ถอดใจไป 2 ปี ...และยังต้องเรียนรู้อีกเยอะ ..ขอบคุณนะคะที่มาทักทายกัน...สวัสดีค่ะ
สวัสดีค่ะ พี่ sasinanda
เป็นสุข เป็นสุข เถิด แข็งแรง สดใส กว้างไกล ยิ่งใหญ่
แล้วย้อนไปดู http://gotoknow.org/blog/mrschuai/99502
ขอบคุณครับ
คิดว่าแก่นแท้ของการฝึกโยคะไม่ใช่การออกกำลังกายนะคะ เพราะการทำโยคะ คือการทำให้ร่างกายสมดุล ทั้งทางกาย และจิต เกิดการผ่อยคลาย ใช้แรงแต่น้อย โดยมีเป้าหมายอยู่ที่การหลุดพ้น แต่ต้องขอขอบคุณในเนื้อหาที่นำมาแลกเปลี่ยนะคะเพราะมีประโยชน์มากเลยคะ
micky7440
สวัสดีค่ะ.คุณ micky
ขอบคุณมากๆ ที่แวะมาทักทายและแลกเปลี่ยนค่ะ...เป้าหมายในการทำกิจกรรมแต่ละอย่างและแต่ละครั้งของคนเราอาจเปลี่ยนไปหรือต่างกันแล้วแต่สถานการณ์หรือแล้วแต่ความชอบของแต่ละคนค่ะ สำหรับตัวเองแล้ว ตอนแรกเลยที่เริ่มเล่นโยคะ คือ..เพื่อออกกำลังกายและช่วยเรื่องการยืดเหยียด แต่พอทำไป กลับเป็นว่าได้ช่วยเรื่องจิตเยอะมากๆ เลยปัจจุบันก็คือถ้าทำโยคะ จะได้ทั้ง 2 ด้าน คือกายกับใจ ที่จะได้ทั้ง กล้ามเนื้อที่กระชับ ยืดหยุ่น มีการทำสมาธิและวิปัสนา ไปด้วยกันค่ะ