... เด็กในโลกส่วนใหญ่คงจะชอบให้คุณแม่คุณพ่อ หรือญาติสนิทมิตรสหายอุ้ม กอด จูบ ซึ่งเป็นพื้นฐานของพัฒนาการที่ทำให้เกิดทักษะในการ "เข้าสังคม" ต่อมา ทว่า... เด็กส่วนน้อยในโลกกลับไม่ค่อยชอบการอุ้ม กอด หรือจูบ กลับไป "ขังตัวเอง" อยู่ในโลกอีกใบหนึ่ง และมีแนวโน้มจะชอบอะไรแบบ "เดิมๆ" เช่น ต้องกินอาหารแบบเดิมๆ ตรงเวลา ฯลฯ ... เจ้าเด็กออทิสทิกนี่... ถ้าอยู่ในบรรยากาศแบบเดิมๆ กิน นอน ขับถ่ายแบบเดิมๆ อยู่ในที่เดิมๆ จะพออยู่ได้ คล้ายๆ กับเป็นพวกชอบ "ของเก่า" หรือนักอนุรักษ์นิยมแบบสุดๆ ทีนี้ใครมาเปลี่ยนแปลงอะไรสักหน่อยก็จะไม่พอใจ อาละวาด หรือโกรธขึ้นมาแบบทันทีทันใด (ทำไมไปคล้ายผู้บริหารบางคนก็ไม่ทราบ) ... เด็กเหล่านี้ถ้ามีอาการชัดเจน เต็มรูปแบบตั้งแต่เล็ก จะจัดเป็นกลุ่มเด็ก "ออทิสทิก (autistic / ออติสติก)" ถ้ามีอาการไม่ชัดเจน ไม่เต็มรูปแบบตั้งแต่เด็ก จะจัดเป็นกลุ่มเด็กที่มีอาการข้างเคียง หรือ "น้องๆ ออทิสทิก" เช่น กลุ่มอาการแอสเพอร์เกอร์ (Asperger's syndrome) ฯลฯ ... สถิติของสหรัฐฯ พบว่า เด็กที่เกิดมา 150 คนจะเป็นเด็กออทิสทิก (autistic / ออติสติก) หรือกลุ่มอาการใกล้เคียง 1 คน การศึกษาก่อนหน้านี้พบว่า เด็กออทิสทิกมีความผิดปกติในโรงสร้างพลังงานขนาดจิ๋วในเซลล์ที่เรียกว่า "ไมโทคอนเดรีย (mitochondria)" ได้มากถึง 20% ... คนเรามีหน่วยพันธุกรรม (ยีนส์) หรือ DNA ที่ถ่ายทอดมาจากคุณแม่กับคุณพ่อฝ่ายละ 50% ลักษณะบางอย่างก็เด่นไปทางคุณแม่ บางอย่างก็เด่นไปทางคุณพ่อ ผลของการถ่ายทอดพันธุกรรมแบบนี้ทำให้พวกเรามีลักษณะบางอย่างคล้ายคุณแม่หรือคุณพ่อ เช่น บางคนมีโครงร่างใบหน้าคล้ายคุณแม่ ทว่า... ผิวพรรณและรูปปากคล้ายคุณพ่อ ฯลฯ ... การถ่ายทอดหน่วยพันธุกรรมพิเศษในโรงสร้างพลังงาน (ไมโทคอนเดรีย) มีลักษณะพิเศษคือ ถ่ายทอดมาทางคุณแม่ฝ่ายเดียว 100% การศึกษาก่อนหน้านี้พบว่า คนที่ "แรงดี" ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการได้โรงสร้างพลังงาน (ไมโทคอนเดรีย) มาจากคุณแม่ เพราะฉะนั้นใครที่มีญาติฝ่ายคุณแม่แข็งแรงจะมีโอกาสเล่นกีฬาประเภทใช้แรง เช่น วิ่ง ทุ่มน้ำหนัก ยกน้ำหนัก ฯลฯ ได้ดี ... เมืองไทยเรามีนักยกน้ำหนักหญิงระดับแชมป์โลก และน้องๆ แชมป์โลกหลายท่าน จึงมีความเป็นไปได้สูงที่คนรุ่นลูกหลานของท่านเหล่านี้จะมีแรงดี และติดทีมชาติได้ต่อไป (ถ้าได้รับการส่งเสริมตั้งแต่เด็ก) ท่านอาจารย์นายแพทย์ดอกเตอร์จอห์น ชอฟฟ์เนอร์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาประสาทวิทยา และพันธุกรรม และคณะ แห่งสถาบันวิจัยพันธุกรรมระบบประสาท แอทแลนทา สหรัฐฯ ทำการศึกษากลุ่มตัวอย่างเด็กที่เป็นออทิสทิก 37 คน ... ผลการศึกษาพบว่า เด็กๆ ออทิสทิกมากกว่า 60% มีความผิดปกติในโรงสร้างพลังงานในเซลล์ที่เรียกว่า "ไมโทคอนเดรีย" ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้เซลล์ประสาทผิดปกติได้ ผลการศึกษานี้น่าสนใจมาก เนื่องจากความรู้เดิมไม่ทราบสาเหตุ เมื่อทราบสาเหตุมากขึ้น อาจนำไปสู่การป้องกัน หรือรักษาโรคได้ในอนาคต ... การศึกษาก่อนหน้านี้พบว่า คุณพ่อที่อายุมากๆ มีโอกาสมีลูกเป็นออทิสทิกมากกว่าคุณพ่ออายุน้อย คุณแม่ที่อายุมากก็มีโอกาสมีลูกเป็นเด็กปัญญาอ่อนชนิดเด็กดาวน์ (Down's syndrome) มากกว่าคุณแม่อายุน้อยเช่นกัน ... เรื่องเด็กออทิสทิกเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สอนให้เรารู้ว่า คนเราเลือกเกิดไม่ได้ ทว่า... ถ้าเกิดมาแล้ว เลือกที่จะทำอะไรดีๆ ได้ ถึงตรงนี้... ขอให้พวกเราซึ่งเกิดมาแล้ว ทำอะไรดีๆ ให้มาก ให้คุ้มที่ "เกิดเป็นมนุษย์นี้แสนยาก" ครับ ...
ที่มา
|
สวัสดีค่ะอาจารย์หมอวัลลภ
อยากบอกว่าบันทึกนี้สำคัญอย่างยิ่งสำหรับดิฉันในการเลี้ยงลูกค่ะ ไม่ได้คิดมากแต่อยากจะป้องกันไว้ก่อนค่ะ เพราะเป็นคุณแม่มือใหม่ที่อาจเลี้ยงลูกผิดไปทำให้ลูกเป็นออติสทิก
ก็เลยหาข้อมูลอ่านไว้ก่อนค่ะ ดิฉันเจอข้อมูลที่อาจารย์ป๊อบเป็นที่แรกค่ะ http://gotoknow.org/blog/otpop/178797 ก็เลยตามอ่านต่อมาที่บันทึกที่เกี่ยวข้อง http://gotoknow.org/post/tag/ออทิสติก ค่ะ
แต่เมื่อลองมาค้นที่บล็อกของอาจารย์ ปรากฎว่ามีบันทึกนี้ แต่เอ! ทำไมไม่ได้รวมอยู่กับบันทึกอื่น แล้วก็ร้องอ๋อค่ะ เพราะ อาจารย์ใช้คำว่า ออติสติก และ ออทิสทิก นั่นเอง
ภาษาไทยยากอย่างนี้เองค่ะ ทำให้คนพัฒนาระบบนั้นปวดหัวเป็นยิ่งนักค่ะ ;)
ปล. อันนี้เกี่ยวกันนะค่ะ Software tester ที่ดีมีคุณสมบัติเหมือนคนที่เป็น ASD (autism spectrum disorder)
ขอขอบพระคุณอาจารย์จันทวรรณ...
ตอนเด็กๆ สังเกตไม่ออกเลยครับ...
(ผมใช้คำเทียบศัพท์ 'T' = "ท"; เนื่องจาก 'TH' ออกเสียงคล้าย "ต" ในภาษาไทย หรือจริงๆ คือ "ฏ" บาลี)
ขอบคุณค่ะอาจารย์ น้องต้นไม้ก็ชอบทำขาขึ้นลงค่ะเวลาดูโมบายดนตรีที่แขวนไว้ แต่พอเพลงหยุดก็เลิกทำค่ะ
ปล. พี่โอ๋กำลังช่วยหาคำที่ถูกต้องอยู่ค่ะ
ขอขอบพระคุณอาจารย์จันทวรรณ...
หลานอายุ 2 ขวบครึ่ง แล้วแต่ยังพูดได้น้อยมากค่ะ มีอาการที่ชอบดูทีวีมาก ชอบนั่งงเล่นคนเดียว เวลามีใครเรียก จะไม่สนใจไม่หันมาหา ยกเว้นถ้าอยู่ใกล้กับที่ที่เคยบอกว่าไม่ปลอดภัย หรือเคยห้าม ถ้าเรียกแล้วจะหัน และหยุด
(ทางฝั่งแม่ เคยมีลูกหลานที่พูดได้ช้าด้วยค่ะ)
ไม่ทราบว่าแบบนี้เป็นอาการเริ่มของอาการใกล้เคียงโรคออทิสติกหรือเปล่าค่ะ
ขอขอบคุณ.. คุณน้อง
ทว่า...