blog tag นักวิทยาศาสตร์ครับ


ชอบดนตรี แต่เรียนวิทย์

อ่านอของคนอืนก็สนุกสนานมันฮาดีอยู่แล้ว แต่ก็ไม่วายโดนแท็กเข้าจนได้ จากคุณ เบิร์ด คิดมากเหมือนกัน เพราะเรื่องลับ ๆ ของผมมีเยอะมาก เพราะผมชอบฟังแต่เรื่องของคนอื่น ๆ ประมาณว่าเป็นที่ระบายให้เพื่อน ๆ ผมก็เลยไม่ได้พูดถึงตัวเองเท่าไรนัก เริ่มข้อแรกเลยแล้วกัน

ข้อ 1. เป็นคนมีความรู้สึกน้อยมาก ประมาณว่าจะรู้สึกตามที่คนอื่นต้องการให้รู้สึก คงจะนึกภาพไม่ออก เช่นว่า ถ้าถามว่า อาหารที่ใครทำก็แล้วแต่อร่อยหรือเปล่า สิ่งที่เขาอยากได้ยินคือ อร่อยครับ ซึ่งจริง ๆ ไม่รู้สิ ก็กินได้ แม่เคยบอกว่า ถ้าผมบอกว่า แย่มาก ๆ แสดงว่า เลิกคิดไปเลยเรื่องทำอาหาร ลืมมันซะเถอะ และว่านอกจากจะรู้สึกได้น้อยแล้ว ยังเก็บความรู้สึกได้ดีมาก ๆ ไปดูหนังเศร้า หนังตลกกับเพื่อน ๆ เขาก็จะถามว่า "มันตลกบ้างไหมเนี้ย เห็นนั่งเฉย" คำพูดที่ติดปากก็คือ "แล้วไง, แล้วจะว่าอย่างไรล่ะ, ช่างมันเถอะ, ก็งั้น ๆ"

ข้อ 2. มีความอยากรู้อยากเห็นมาก ๆ แต่ไม่ใช่เรื่องของชาวบ้านนะครับ ของเล่น ของใช้ที่ได้มาเป็นต้องได้ถอดชิ้นส่วนออกมาดูทุกอย่าง ทำให้เข้าใจอยู่อย่างหนึ่งว่า ไม่ว่าฝรั่งหรือญี่ปุ่น เขาทำเกินทั้งนั้นแหละ(ไม่ใช่ ประกอบแล้ว มันต้องมีชิ้นส่วนเหลือซักชิ้นแหละน่า ที่มันหาที่ใส่ไม่ได้)  มีอยู่ครั้งหนึ่งล้างรถจักรยาน ที่มันผ่านมือพี่ชายมาโดยไม่เป็นอะไรเลย ถึงมือผมก็ถอดล้างทีละชิ้นซะ ประำำกอบเข้าไปปั่นไม่ได้เลยครับ สมน้ำหน้า(ตัวเอง)แต่มันก็ทำให้ผมได้รถคันไหม่(อิอิ ไม่ได้จงใจนะ)

ข้อ 3.กินได้ทุกอย่าง(เอาเฉพาะเรื่องกินอย่างเดียวเลย  ไม่รวมเรื่องความรู้สึกในข้อหนึ่ง) อะไรที่คนเขากินกันได้ ผมก็กินได้ คำตอบเดียวเกี่ยวกับเรื่องของรสอาหาร คือ "ก็กินได้" แต่ผมก็ทำอาหารกินได้นะครับ(ซึ่งก็หมายถึง ผมกินได้คนเดีย)

 ข้อ 4.ชอบดนตรี แต่เรียนวิทย์ เพราะเคยทะเลาะกับแม่ตอนจะเอ็นทรานต์ ทำเอาซะแม่ร้องไห้ แล้วผมก็เลือกวิทย์ซะ รู้สึกผิดมากเลยทีเดียวที่ทำให้แม่ร้องไห้ แต่ก็เป็นคนมีพรสวรรค์(ลงโทษหรือเปล่าไม่แน่ใจ เพราะชอบแต่ไม่ได้ทำ)ทางด้านดนตรีพอสมควร เคยตั้งวงกับเพื่อน เล่นตำแหน่งมือกลอง ส่วนตัวแล้วเล่นกีตาร์ เม้าออร์แกน เล่นคีร์บอร์ดและเปียโนได้นิดหน่อย 

ข้อ 5.ตอนเด็กก็เป็นเด็กเรียนวิทยาศาตร์ได้ดี (สมัยผมเรียนเป็น สปช. สลน. กพอ. ชื่อวิชาเต็ม ๆ ลืมไปแล้วล่ะ) แต่คุณครูจับให้ไปแข่งวาดรูปเป็นประจำเลย แข่ง 10 โรงเรียนดีที่สุดก็แค่อันดับ 6 นี่ถ้าแข่งวิทย์นะ คงที่หนึ่ง(นึกเอาเอง) 

และเพื่อไม่ให้ผิดกติกา แต่ก็อยากเล่าอีกเรื่อง เอาเป็น ข้อ 5.1  แล้วกัน คือ เป็นคนที่ถอยหลังเข้าคลองครับ ในเรื่องของการฟังเพลง มัธยมต้น ก็เพลงไทยสากลปกติแหละครับ มัธยมปลายเป็นเพลงไทยลูกทุ่งครับ มัธยมปลายเป็นเพลงลูกกรุงแล้ว ปริญญาตรีเป็นสุนทราภรณ์ จนถึงปัจจุบันในห้องทำงานเปิดทั้งวันครับ ลับตรงที...คนอื่นเขาไม่คิดว่าผมเปิดนี่สิครับ เขาคิดว่าหัวหน้าผมเปิด(เพราะสมเหตุสมผล น่าจะเป็นรุ่นนั้นน่ะนะ) เฉย ๆ ไว้ครับ ขี้เกียจตอบคำถามว่า "ทำไมฟังเพลงแบบนี้" เคยไปซื้อซีดี เขาแปลกใจใหญ่เลย

ต้องพอเพียงแค่นี้ครับ และก็... 

 

คำสำคัญ (Tags): #อุทัย อาวรณ์
หมายเลขบันทึก: 77302เขียนเมื่อ 9 กุมภาพันธ์ 2007 00:33 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 17:20 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สวัสดีค่ะคุณอุทัย..^ ^

น้าน..ต้องอย่างงี้ ใครว่านักวิืทย์ฯไม่มีสุนทรียะแถมยังมีอารมณ์ขันอีกต่างหาก..อ่านแล้ว..อมยิ้มเลยล่ะค่ะ ..แถมยังเพิ่มมาอีกข้อหนึ่งด้วย เด็ดจริงๆ..

ขอบคุณครับ ถ้าไม่เข้ามาอ่านให้ ล่ะ จะโกรธกันเลยทีเดียวเชียว

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท