BM.chaiwut
พระมหาชัยวุธ โภชนุกูล ฉายา ฐานุตฺตโม

สิ่งที่คนเป็นไม่รู้


สิ่งที่คนเป็นไม่รู้

อุบัติเหตุเครื่องบินกระแทกพื้น ทำให้คนตายเกือบร้อย ดูข่าวและฟังเรื่องราวแล้วก็พลอยเศร้าใจกับญาติมิตรของผู้ตายไปด้วย แต่ก็ใจชื้นนิดๆ ที่อ่านรายชื่อแล้ว ไม่เจอคนที่รู้จักเลย...

เมื่อใดก็ตามที่เจอกรณีทำนองนี้ ผู้เขียนมักจะระลึกถึงพุทธศาสนสุภาษิตบทนี้ จึงนำมาเล่าอีกครั้ง พอเป็นข้อคิดสำหรับคนเป็น ซึ่งยังไม่ตาย (หรืออาจตายมานับครั้งไม่ถ้วนแล้วในชาติก่อนๆ ก็ไม่ว่ากัน เพราะเราจำไม่ได้)... ดังบาลีภาษิตว่า

  • ชีวิตํ พยาธิ กาโล จ       เทหนิกฺเขปนํ คติ
  • ปญฺเจเต ชีวโลกสฺมึ      อนิมิตฺตํ น นายเรติ ฯ
  • ในโลกของผู้ยังเป็นอยู่ ไม่มีเครื่องหมายให้รู้ได้ ๕ ประการ กล่าวคือ ชีวิต ๑ พยาธ ิ๑ กาล ๑ เทหนิกเขปนะ ๑ และคติ ๑ ฯ

ชีวิต แปลว่า ความเป็นอยู่ กล่าวคือ เราเกิดมาแล้ว เราย่อมรู้ไม่ได้ว่าจะเป็นอยู่ได้นานมากน้อยเพียงใด... เท่าที่พอคาดหมายได้ก็ไม่เกินร้อยปี ดังสุภาษิตว่า ชีวิตนี้น้อยนัก เกิดมาแล้วไม่เกินร้อยปีก็ต้องตาย แม้ว่าผู้ใดจะอยู่เกินได้บ้าง ผู้นั้นก็ต้องตายเพราะความชราอย่างแน่นอน....

พยาธิ แปลว่า ความเบียดเบียน หมายถึง โรคภัยไข้เจ็บทั้งปวงนั่นเอง ... ในที่นี้หมายถึง เราเกิดมาแล้ว เราย่อมรู้ไม่ได้ว่าจะตายด้วยพยาธิอะไร เช่น โรคเอดส์ อุบัติเหตุ หรือโรคชรา เป็นต้น ... 

กาล แปลว่า สภาพที่ทำชีวิตสัตว์ให้เสื่อมไปและสิ้นไป ในที่นี้หมายเอาว่า เราเกิดมาแล้ว เราย่อมรู้ไม่ได้ว่าจะตายช่วงเวลาใดของวัน... ดังบทกลอนที่ว่า

  • ช้า     ยังแลเห็นหน้า        สายตาย
  • สาย    อยู่สุขสบาย           บ่ายม้วย
  • บ่าย    ยังรื่นเริงกาย          เย็นดับชีพแฮ
  • เย็น     ยังหยอกลูกด้วย     ค่ำม้วยอาสัญ

เทหนิกเขปนะ แปลว่า สถานที่ซึ่งเราทิ้งร่างกายลงไป กล่าวคือสถานที่ทอดร่างลงตายนั่นเอง... หมายความว่า เมื่อเรายังมีชีวิตอยู่ เราก็รู้ไม่ได้ว่าเราจะทอดร่างลงตายยังสถานที่ใด เช่น ห้องนอนส่วนตัว โรงพยาบาล กลางถนน หรือรันเวย์สนามบินภูเก็ตตามที่เป็นข่าว....

คติ แปลว่า สถานที่ไป นั่นคือ เมื่อเรายังมีชีวิตอยู่ เราก็รู้ไม่ได้เช่นเดียวกันว่า จะตายแล้วสูญ หรือตายแล้วเกิดอีก ... และตี่ต่างว่าเกิดอีก เราจะไปเกิดที่ไหน ? ... สถานที่ไปนี้อาจจำแนกเป็น ๒ กล่าวคือ ที่ไปดีี (สุคติ) ก็ไปเกิดบนสวรรค์หรือกลับมาเกิดเป็นมนุษย์... และ ที่ไปเลว (ทุคคติ) ก็ไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน สัตว์นรก เปรต หรืออสุรกาย....

..............

ผู้เขียนก็คิดเล่นๆ ว่า ถ้าเรารู้สิ่งเหล่านี้ เราคงจะหาทางป้องกัน หรือหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดขึ้น หรือยืดอายุให้เกิดขึ้นช้าที่สุด ประมาณนั้น ... 

อีกนัยหนึ่ง ถ้าแม้นเรารู้สิ่งเหล่านี้แล้ว การดำเนินชีวิตของเรา ก็อาจยุ่งยากหรือเรียบง่ายกว่าปัจจุบันก็ได้ .....

อย่างไรก็ตาม...

  • อวสฺสํ มยา มริตพฺพํ อันเราจะต้องตายแน่นอน 
หมายเลขบันทึก: 129480เขียนเมื่อ 19 กันยายน 2007 05:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 01:40 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (15)
  • ผมขออนุญาตสรุปเพื่อให้จำง่าย ๆ นะครับ
  • ชีวิต : ไม่รู้วันตาย
  • พยาธิ : ไม่รู้เหตุที่ตาย
  • กาล : ไม่รู้เวลาตาย
  • เทหนิกฺเขปนะ : ไม่รู้สถานที่ตาย
  • คติ : ไม่รู้ทางไป(หลังตาย)
  • ผิดถูกขอเมตตาพระคุณเจ้าช่วยชี้แนะครับ
ไม่มีรูป

ไม่แสดงตน

ตามที่คุณโยมว่ามา ก็พอไปได้ จำง่ายดี ....

แต่ ถ้าจะขยายความ อย่าขยายออกนอกประเด็น ประเดียวอาจกลายเป็นต่างเรื่องไปเลยก็ได้ เช่น

พยาธิ : ไม่รู้เหตุที่ตาย ... ถ้ามีผู้มาแย้งว่า เหตุที่ตายก็คือไม่หายใจ หมดลมหายใจ หรือตามความหมายแพทย์สมัยใหม่ว่าสมองตาย ฯลฯ ถ้าอย่างนั้น เราก็รู้แล้วนี่ ! ! !

ก็อาจออกนอกกรอบเดิมไปได้... ประมาณนี้ 

เจริญพร 

 

  • ถือว่าเป็นข้อคิดสะกิดใจได้ดีเยี่ยมทีเดียว เช้านี้
  • ขอฝากเป็นบทกลอนไว้ และขอพระอาจารย์ช่วยพิจารณาด้วยครับ
    สักวา คนอยู่ ไม่รู้ห้า
    หนึ่งชีวา อยู่ได้นาน สักปานไหน
    สองสาเหตุ ทำให้ม้วย ด้วยโรคใด
    สามเมื่อไร ในเวลา ชีวาจร
    สี่ประเทศ เขตสถาน สังขารดับ
    ห้าเร้นลับ ดับแล้วไป ที่ไหนหนา
    ไปที่ดี ไปที่เลว เปลี่ยวอุรา
    หากชีวา ยังอยู่ ไม่รู้เอย
P

ทนัน ภิวงศ์งาม

คุณโยมว่า สักวา มา อาตมาจะลอง สักวี ไป

  • สักวี              ชีวี                    นี้ไม่แท้่
  • เพราะไม่แน่   เมื่อไหร่ ?        จึงจะตาย
  • โรคเจ็บไข้    อย่างไหน ?     ชีวาวาย
  • ชีพมลาย      เวลาใด ?         ใครทราบชัด
  • ี่นอนตาย    จุดไหน ?          ก็ไม่รู้
  • คนยังอยู่       ตายไปไหน ?   ล้วนบอกปัด
  • ตามที่รู้         สวดก่อนเผา        อยู่ในวัด
  • นี้ถนัด           ห้าอย่างนู่            ไม่รู้เอย

อาตมาแม้จะเคยเรียนช่างไม้ก่อสร้างมาบ้าง แต่ก็่ซ่อม กลอนประตูไม่ค่อยเป็น... เพียงแต่นำมาเรียงๆ แล้วบอกว่า นี้แหละ กลอน ... ประมาณนั้น

เจริญพร 

ขอบคุณพระอาจารย์ BM.chaiwut ค่ะ

หลังจากที่อารมณ์ขุ่นมัวเล็กน้อยกับการขุดค้นหาสาเหตุที่เหมือนกับการโยนความผิดกันไปมา จากข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ที่เสนอข่าว Orient thai แล้ว

แต่มาอ่านบทธรรมของพระอาจารย์แล้วก็รู้สึกปลงนิ่งลงเยอะค่ะ

P ขอบพระคุณมากครับพระอาจารย์

  ขออนุโมทนาบุญกับพระอาจารย์ ที่นำธรรมทานสู่สาธุชน  สาธุ.

 

Pทนัน ภิวงศ์งาม
P นาย โกวิท ko สละชั่ว

ถ้าจะว่าไปแล้ว... มองให้เห็นเป็นเรื่องธรรมดาก็ไม่มีอะไรมาก... ส่วนการโศกเศร้าเสียใจมากบ้างน้อยบ้างต่อการจากไปของผู้ตาย ก็เป็นเรื่องธรรมดาเหมือนกัน...

มิใช่ว่า เราจะไม่เคยโศกเศร้ากับเรื่องราวทำนองนี้ ... และต่อไปในกาลข้างหน้า เราก็คงจะมีความโศกเศร้าด้วยเรื่องทำนองนี้มาเยือนอีกเป็นแน่แท้...

อนึ่ง... สื่อ ก็เล่นข่าวใหม่ๆ สดๆ ... นี้ก็ธรรมดาอีกเช่นกัน

เจริญพร

เกิด...ก็มีภาวะอารมณ์อ่อนไหว

แก่...ก็โหยไห้ใจไม่อาจยอมรับ

เจ็บ...ผจญทุกข์ทรมาณปลงสังขารมิได้

ตาย...ไม่รู้เหตุเวลาสถานที่และทางไป...ใจกลัวเกรง

 

พระอาจารย์มาช่วยเปิดมุมปลงได้ลงตัวขอรับ...

 

สาธุ....

P

 นายขำ

  • ใดใดในโลกล้วน             อนิจจัง
  • คงแต่บุญบาปยัง             เที่ยงแท้
  • คือเงาติดตามตัว             ตรึงแน่น อยู่นา
  • คงแต่บุญบาปแท้             ก่อเกื้อ รักษา

จำต่อมาจากโคลงโลกนิติ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะเหมือนต้นฉบับหรือไม่ (............)

.......... 

  • โลกนี้คือโรงละคร ปวงนิกร เราท่านเกิดมา
  • ต่างร่ายรำทำทีท่า ตามลีลา ของบทละคร
  • บางคราวก็ทุกข์ บางครั้งก็สุข หัวอกสะท้อน
  • มีร้างมีรัก มีจากมีจร พอจบละคร ชีวิตก็ลา

ก็จำต่อๆ มา ไม่รู้ของใคร (.......)

.........

  • โลกทั้งมวลหมุนไปมีมีหยุด
  • เริ่มแต่จุดคือสร้างแล้วจางหาย
  • เปรียบฟองน้ำในมหรรณ์พรรณราย
  • แตกประกายหายวับไปกับตา

ต้นเค้าเป็นของฝรั่งแล้วอาจารย์ท่านถอดความมา (.....)

..........

  • สูเจ้าจะอยากใหญ่อยากโตไปทำไม...
  • สูเจ้าเป็นเพียงธุลีน้อยในจักรวาฬ...
  • หรือเป็นเพียงเม็ตทรายเล็กๆ ณ. หาดทรายที่ทอดยาวไกลไม่สิ้นสุด เท่านั้น

จำไว้นานแล้ว ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่และจากไหน (..... )

............

  • ผู้จดจำถ้อยคำปราชญ์ อาจเป็นครูสอนผู้อื่นได้ทุกคน แต่ผู้จะปฏิบัติได้เอง จะมีแต่มหามาตมัน เท่านั้น

ถ้าจำไม่ผิด รู้สึกว่ามาจาก หิโตปเทศ (...... )

............ 

ก็บ่นให้ท่านเลขาฯ อ่านเล่นๆ แบบเซ็งๆ...

เจริญพร

นมัสการ พระอาจารย์ ครับ

  • ยังไม่หายเซ็งอีกหรือขอรับ หรือว่า ช่วงนี้ฝนตกบ่อย
  • ขนาดเซ็ง พระอาจารย์ยังเขียนบันทึกได้ แถม ลึก อีกต่างหากนะครับ ผิดกับผมเจอฤทธิ์คุกกี้ของโปรแกรม Firefox ที่ใช้เข้่า G2K เล่นงานเข้าจนเขียนอะไรไม่ออกมาเป็นอาทิตย์เลย ดีที่ได้อาจารย์จัน อาจารย์ธวัชชัย และอาจารย์ conductor มาช่วยเยียวยาได้ทัน จึงได้กลับมานมัสการพระอาจารย์บันทึกนี้
  • ขออนุญาตนำบันทึกไปรวมไว้ใน รวมบันทึก ของผมนะครับ
  • กราบ ๓ ครั้ง
P

นาย เต็มศักดิ์ พึ่งรัศมี

ถ้าจะตอบเลียนแบบท่านวชิราภิกษุณีก็คงจะตอบได้ว่า..

  • เซ็งเท่านั้นเกิดขึ้น เซ็งเท่านั้นตั้งอยู่ และเซ็งเท่านั้นดับไป นอกจากเซ็งแล้ว ไม่มีอะไรเกิด ไม่มีอะไรดับ

ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็เหมือนเดิม  ไม่มีอะไรแปลกใหม่ ฝนตกก็นอนไม่ค่อยหลับเหมือนเดิม... แต่ก็ยังพอทนได้ ยังพอให้อัตภาพนี้เป็นไปได้อยู่... ประมาณนั้น

เจริญพร 

ไม่มีรูป

รายทาง

คุณโยม รายทาง คงจะแวะชมนกชมไม้ในโลกแห่งอินเทอร์เน็ต (......)

จริญพร 

…มีเกิดตาย ทำไมหนอ ท้อชีวิตสงสารจิต คิดความตาย ใจสลายน่าจะทน สกลกาล นานกาลไกลคงได้ไห้ เกษมสุข ทุกข์อาจินต์Cr : กาวีลีลาฅน 555

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท